
“เกนคิ คาวามูระ”บอกเล่าเรื่อง“Your Name”โกยเงินถล่มทลาย
“เกนคิ คาวามูระ”บอกเล่าเรื่อง“Your Name”แอนิเมชั่นโกยเงินถล่มทลายในญี่ปุ่น : เอเชียเอ็นเตอร์เทนเมนท์
ความสำเร็จของภาพยนตร์แอนิเมชั่น เรื่อง “Kimi no Na wa” หรือ “Your Name” เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมาย เพราะแม้จะไม่ได้สร้างจากค่ายใหญ่แต่หนังเรื่องนี้กลับทำเงินเป็นประวัติการณ์ ตอนนี้ทำรายได้ 16,410,815,600 เยน คิดเป็นเงินไทย 5,499,735,406.14 บาท ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ มาโกะโตะ ชินไก (makoto shinkai) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากบทกลอนชื่อดังของกวี ono no komachi และนำมาดัดแปลงออกมาเป็นโครงเรื่องระหว่างชายหญิงวัยรุ่นที่สลับร่างกันในความฝันและต้องออกเดินทางมาจนพบกัน โดยภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ ได้ มาซาโยชิ ทานากะ มารับหน้าที่ออกแบบตัวละครและได้ มาซาชิ อันโด มารับหน้าที่กำกับภาพ ซึ่ง เกนคิ คาวามูระ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้
@ ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
มาโกะโตะ ชินไก (ผู้กำกับ) ได้นำทักษะของ มาซาโยชิ ทานากะ (ออกแบบตัวละคร) มาซาชิ อันโด (กำกับภาพ) และเพลงของวง radwimps มาใส่ในผลงานเรื่องนี้ได้อย่างลงตัว ผมคิดว่า ถ้าขาดใครไปสักคน คงไม่สามารถออกมาเป็นผลงานเรื่องนี้ได้ ทานากะกับชินไกนั้น เคยร่วมงานกันใน “cross road” มาก่อนจึงเกิดความคุ้นเคย และภาพผลงานของทานากะ นั้นบรรดาแฟนคลับแอนิเมชั่นจำนวนมากบอกว่า เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ ยิ่งไปกว่านั้น การนำตัวละครมาทำให้มีชีวิตชีวาโดยอันโด และใส่ลงในผลงานของชินไก ทำให้กลายเป็นผลงานแอนิเมชั่น ที่ไม่เคยมีมาก่อน
@ เพลงประกอบภาพยนตร์ทำไมต้องเป็นวง radwimps
คือชินไกนั้น บอกว่าอยากได้เพลงที่ให้ภาพเหมือนเพลง let it be ของวง beatles และตอนที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับดนตรีอยู่นั้น เขาก็ได้เสนอชื่อวงร็อกที่ชื่นชอบออกมานั่นก็คือวง radwimps โชคดีที่ผมเคยร่วมงานกับ โนดะ โยจิโร่ มือกีตาร์และร้องนำของวงมาก่อน ก็เลยลองไปทาบทามซึ่งทางนั้นก็ตกลงเราจึงได้ร่วมงานกัน ตอนเจอหน้ากันครั้งแรกเป็นช่วงเดือนตุลาคมปี 2014 ซึ่งทาง radwimps เข้ามาร่วมงานหลังจากตกลงเสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้แต่งเพลง ที่มีเนื้อร้องด้วยกัน 4 เพลง คือ “zen zen zense” “sparkle” “yumetouru” “nandemonaiya” และดนตรีประกอบอีก 22 เพลงด้วยกัน ทางชินไกก็ถูกใจในดนตรีของ radwimps และนำมาใช้ได้อย่างลงตัว
@ ทราบมาว่ากว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้จะเสร็จสิ้น ทุกขั้นตอนจะต้องชินไกซึ่งเป็นผู้กำกับแทบทุกเรื่อง
มันเป็นสิ่งที่แน่นอนมาก ที่การพูดคุยจะต้องมีความเห็นของชินไกทุกครั้ง สิ่งที่พวกเราทำนั้น ไม่ว่าจะมีตัวเลือกหรือมีความเห็นอย่างไร ก็จะถามอยู่เสมอว่า ผู้กำกับอย่างชินไกอยากทำมากที่สุดคืออะไร ในส่วนของโครงสร้างนั้น เราจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน เช่น ต้องการให้ผู้ชมรู้สึกสนุกขนาดไหน ต้องการสื่ออะไรกับผู้ชม เป็นต้น แล้วจึงสรุปออกมา ยกตัวอย่าง เช่นในส่วนของครึ่งหลัง เนื้อเรื่องจะซีเรียสมากขึ้น มีการแทรกช่วงสนุกตื่นเต้น และคลายปมให้กระจ่างและทำให้เสียน้ำตาในตอนท้าย
(มิทซึวะ พากย์โดย โมเนะ คามิชิราอิชิ)
@ อยากทราบว่าการคัดเลือกนักแสดงที่มาให้เสียงพากย์นั้นยากลำบากแค่ไหน
บทของ มิทซึวะ นั้น ผู้กำกับชินไก วางตัว โมเนะ คามิชิราอิชิ พร้อมกับชมว่า “ถึงจะมีตัวเลือกเป็นร้อย แต่ที่สุดแล้วเธอก็เหมาะที่สุด” ส่วนบทที่วางตัวไว้แต่แรกแล้วก็คือ ริวโนะสุเกะ คามิกิ ที่มารับบท ทาคิ ซึ่งผมคิดอยู่เสมอว่า ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ขึ้นตำแหน่งแถวหน้าเหมือนกับหนังทั้งสามเรื่องอย่าง “the voices of a distant star” “the place promised in our early days” และ “5 centimeters per second” ซึ่งเป็นภาพยนตร์แถวหน้าของผู้กำกับชินไก ก็น่าดีใจไม่น้อย เรื่องราวความรักใกล้ตัว ที่มีชายหนุ่มหญิงสาวรู้สึกรักชอบกัน มุมมองต่อโลกที่สวยงามแต่อยู่ห่างไกลกัน ครั้งนี้ในตอนที่กำลังหานักแสดง ที่ต้องเข้าใจผลงานทั้งสามเรื่อง ของผู้กำกับชินไกอยู่นั้น ริวโนะสุเกะ คามิกิ ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ผลงานผู้กำกับชินไก ก็แวบเข้ามาพอดี และความสามารถการพากย์เสียงของคามิกิเองก็สุดยอดเช่นกัน นักแสดงรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ทำงานกับผู้กำกับฮายาโอะ มิยาซากิและผู้กำกับมาโมรุ โฮโซดะ ก็คงมีแต่เพียงเขาคนนี้เท่านั้น
(มาโกะโตะ ชินไก - ผู้กำกับ) (เกนคิ คาวามูระ - ผู้อำนวยการสร้าง)
ติดตามชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าฉาย 10 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์