บันเทิง

‘นนท์’ ขอเดินตามรอย “ในหลวง” กับมุมมองของคนรุ่นใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“นนท์” ธนนท์ จำเริญ เปิดใจถึงความประทับใจที่มีต่อ “ในหลวง” ในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ ขอเลือกเป็นคนดีตามคำสอนของพระองค์ท่าน

          เป็นหนึ่งในนักร้องเสียงดี ที่เกิดมาจากรายการประกวดร้องเพลงอย่าง เดอะวอยซ์ เสียงจริง ตัวจริง อย่าง “นนท์” ธนนท์ จำเริญ และนับว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ที่อาจจะไม่ได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดหรือรับทราบเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มากนัก ในมุมมองของคนรุ่นใหม่อย่างนนท์นั้น มีความประทับใจต่อพระองคค์ท่านอย่างไรบ้าง

          “เรื่องความประทับใจ คือเล่ากี่ปีก็ไม่มีวันหมดนะผมว่า ผมเองประกวดร้องเพลงหลายๆ เวที ก็มีโอกาสได้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ของท่านหลายต่อหลายเวที เคยทำหนังสั้นเกี่ยวกับเรื่องราวพระราชกรณียกิจของท่าน เกี่ยวกับโครงการของพระองค์ท่านเอง ทำให้เห็นว่า พระองค์ท่านทำเพื่อประชาชนคนไทยมากมายขนาดไหน เล่ายังไงก็เล่าไม่มีวันหมด พระองค์ท่านมีแนวคิดหลายๆ อย่างให้พสกนิกรของท่านได้ดำเนินรอยตาม” นนท์กล่าว

         

‘นนท์’ ขอเดินตามรอย “ในหลวง”  กับมุมมองของคนรุ่นใหม่

 

          ผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่า สำหรับคนรุ่นใหม่อย่างนนท์ที่อายุ 20 ปี อาจจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดหรือรับทราบเรื่องราวของพระองค์ท่านมากนัก โดยนักร้องหนุ่มเปิดใจว่า

"ตอนที่ผมเริ่มโต จะได้ทราบเรื่องราวของพระองค์ท่าน ก็ตอนที่ท่านทรงพระชนมพรรษามากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็มีความผูกพันกับในหลวงรัชกาลที่9 มากมาตั้งแต่เด็ก ตอนที่เราเด็กมากๆ เราจะเห็นแม่ร้องไห้อยู่หน้าทีวี เราก็งงว่าการที่เขาดูข่าวในพระราชสำนักเขาจะร้องไห้ทำไม แม่ก็ตอบกลับมาว่าแม่สงสารพระองค์ท่าน ท่านทรงเหนื่อยทำงานมาตั้งแต่อายุ 10 กว่าปี ทำก็ไม่ใช่เพื่อตัวท่านเอง แต่ทำเพื่อพสกนิกรทั้งนั้น แม่สงสารพระองค์ท่าน ตอนนั้นเราไม่เข้าใจหรอก แต่พอเราโตขึ้น เราไม่ใช่แค่เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ชัดขึ้น แต่เวลาทุกครั้ง ที่เราได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ผมจะน้ำตาคลอทุกครั้ง ผมรู้สึกว่าตัวเองมีบุญเหลือเกิน ที่ช่วงชีวิตนี้ ได้มีโอกาสเกิดในรัชสมัยของพระองค์ท่าน ได้เกิดทันเห็นพระองค์ท่านในช่วงที่ท่านยังทำงานอยู่บ้าง ผมก็พยายามศึกษาหาอ่านข้อมูลของพระองค์ท่านอยู่เรื่อยๆ วิธีแสดงออกของผม คือผมรักท่านด้วยการปฏิบัติดี เราพอเพียง ถึงแม้ช่วงนี้เราชาวไทยจะอยู่ในช่วงถวายความอาลัย แต่ผมเชื่อว่าเราเองก็ยังต้องมีพรุ่งนี้กันต่อไป วันนี้ที่เราเห็น คือคนไทยเริ่มรักกันมากขึ้น นี่คือสิ่งที่ผมชอบมาก เพราะนี่คือการรักพระองค์ท่าน ด้วยวิธีปฏิบัติจริงๆ มอเตอร์ไซค์รับ-ส่งฟรี ข้าวน้ำฟรี ผ้าเย็นฟรี หน่วยบริการแพทย์ฟรี นี่คือคนไทยทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจจริงๆ มันเป็นอะไรที่มีพลังมากๆ

          คนในช่วงวัยเท่าผม จะได้เห็นพระองค์ท่านไม่มาก ผมเองถือว่ามีบุญ โชคดีที่พ่อแม่สอน และเล่าเรื่องราวของพระองค์ท่านให้ผมฟังตลอด ผมก็ได้ซึมซับ ผมจึงรักในหลวง ผมเลยเข้าใจว่า ทำไมคนไทยถึงรักในหลวง แต่ในช่วงคนยุคผม คนจะไม่ค่อยได้เห็นพระราชกรณียกิจ หรือท่านทรงงาน ไม่ค่อยได้ดูข่าวในพระราชสำนักกัน ถ้าเขาได้ดู ผมว่าเขาก็คงจะเข้าใจและรักในหลวงแบบผม ถ้าผมได้ทราบหรือเกิดเหตุการณ์อะไร ผมก็จะคอยบอกเพื่อนๆ คนที่รู้จักที่เขาไม่ได้คิดแบบเรา เล่าให้เขาฟังว่า พระองค์ท่านทรงเหนื่อยกับเรายังไงบ้าง พยายามบอกไปเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้และมีโอกาส หลายๆ คนก็เริ่มจะเข้าใจ ผมเชื่อว่ามาถึงวันนี้ ตอนนี้คงไม่มีคนไม่เข้าใจแล้วแหละ ว่าทำไมเราถึงรักพระองค์ท่าน คนที่มีโอกาสแต่งกายชุดสีดำ มารวมตัวกันทำตรงนี้ แค่เขาได้มาสัมผัส และได้เห็นเหตุการณ์ตอนนี้ผมเชื่อว่า เขาเข้าใจโดยที่ผมไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว" นนท์เผย

 

 

‘นนท์’ ขอเดินตามรอย “ในหลวง”  กับมุมมองของคนรุ่นใหม่

          ถามต่อว่าส่วนตัวได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาปรับใช้กับชีวิตคนรุ่นใหม่ยังไงบ้าง “เบสิกมากๆ เลยคือการเป็นคนดี และพอเพียง เมื่อเราอยากเป็นคนดี เราจะสามารถแยกแยะได้ว่า อันไหนควรทำ และไม่ควรทำ เมื่อเราทำสิ่งที่ดีแล้ว ทีนี้ก็ขอให้รู้จักพอ เมือเรารู้จักพอ เราจะไม่เบียดเบียนคนอื่น แม้เขาจะโดนคนอื่นเบียดเบียน แต่เขาก็จะไม่เบียดเบียนคนอื่นกลับ อยากให้ทุกคนใช้วิธีนี้ไปด้วยกัน วันนี้ผมดีใจมาก ผมได้ยื่นขนมให้เด็กไป ผมจำไม่ได้หรอกว่าผมยื่นให้เขาไปแล้ว เขาก็หยิบขนมขึ้นมาให้ดูว่าเขาได้แล้ว เขาพอแล้ว มันเป็นเรื่องที่เล็กมาก แต่ทำให้ผมประทับใจมาก เขาอาจจะทำมันโดยที่เขาไม่รู้ตัว เราดีใจที่ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมอยากบอกท่านว่า จะนำคำสอนของพระองค์มาใช้ ต้องบอกว่า เกิดอีกกี่สิบชาติ ก็ไม่รู้ว่าจะได้เกิดมาเจอมหาราชภูมิพลคนนี้หรือเปล่า ผมรู้สึกเป็นบุญเหลือเกิน ที่เราได้เกิดในแผ่นดินของพระองค์ท่าน ได้เกิดทันพระองค์ท่าน ได้รู้ว่าท่านทรงเหนื่อยกับพวกเรายังไง” นนท์กล่าวทิ้งท้าย

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ