'ใหญ่' จิตอาสาเดินตามรอย ‘พ่อ’ คือไม่ท้อ ‘อดทน’ รอผลสำเร็จ
"ใหญ่" ฝันดี จรรยาธนากร เผยคำสอน "พ่อหลวง" ที่ยึดถือ รับเป็นจิตอาสาช่วยดูแลความเรียบร้อยในวันที่ประชาชนเฝ้าสักการะพระศพ
หลายคนรู้ว่าคู่พี่น้องฝาแฝด “ใหญ่” ฝันดี และ “เล็ก” ฝันเด่น จรรยาธนากร ได้เสียสละทำงานจิตอาสา มานานกว่า 20 ปี พวกเขาไม่ได้ทำ เพื่อต้องการ “โอ้อวด” กับใครเพราะอยากได้ชื่อว่าเป็น “คนดี” จึงทำ หรือต้องการได้รับคำ “ชื่นชม” แต่พวกเขาทำด้วยความ “รัก” และอยากให้สิ่งที่เขาทำ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วยใจจริง “คมชัดลึก” เคยมีโอกาสสัมภาษณ์ ใหญ่ ถึงงานจิตอาสาที่เขาทำไว้เรื่องมูลนิธิ “ใจถึงใจ” ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ณ ปัจจุบัน เขามีโอกาสทำงานจิตอาสา โดยการลงพื้นที่ไปในบริเวณท้องสนามหลวงรอบพระบรมหาราชวัง ไปช่วยเหลือประชาชนที่เดินทางเข้ามาสักการะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สิ่งหนึ่งที่ฝาแฝดคู่นี้ยึดถือและปฏิบัติมาตลอดคือการเดินตามรอยเท้า “พ่อหลวง”
ใหญ่ - ฝันดี
คำสอน “พ่อหลวง” ที่ใหญ่ยึดและปฏิบัติตามมาตลอด
มีหลายอย่างเลย แต่ของผมจะเอามาผสมผสานกันในการใช้ แต่สิ่งที่ผมใช้และยึดถือเอาไว้มาที่สุด คือ การทำอะไรก็ตามมันไม่สามารถที่จะสำเร็จได้เพียงชั่วข้ามวัน บางอย่างหรือทุกอย่างต้องใช้ระยะเวลาและการ “อดทนรอ” เหมือนที่พ่อทำ เพราะการทำ “ความดี” เพื่อผู้อื่น มักจะมีคำพูดของคนที่ไม่ชอบเรามาเป็นเครื่องบั่นทอน แต่สิ่งที่พ่อสอนคือสิ่งที่เราทำ เหมือนเป็นการ “ปิดทองหลังพระ” เราต้องทำไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ย่อท้อต่อการกระทำของเรา สิ่งเหล่านั้นที่เราตั้งใจทำดี มันจะออกมาปรากฏอยู่ตรงด้านหน้าพระเอง ผมใช้สิ่งนี้ในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคม รวมถึงกลุ่มคนที่มีจิตอาสา เพราะเราไม่ใด้ใช้เงินทองในการสร้าง แต่ใช้ศรัทธาที่เรามี และทุกคนที่ร่วมกันทำเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จได้ คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นความสำเร็จเพียงเล็กน้อยหรืออะไรก็ตาม แต่สำหรับผมความหมายที่ผมได้รับคือการได้เพื่อน ได้ความสามัคคี ได้เอื้อเฝื้อแผ่ซึ่งกันและกันคือพลังที่ผมได้รับกลับมา ณ วันนี้
กิจกรรมเทิดพระเกียรติที่ผ่านมาที่ ใหญ่ เคยได้ทำ
อย่างการเดินไป “วังไกลวังวล” กิจกรรมนั้นเป็นเล็ก (ฝันเด่น จรรยาธนากร) ที่ตั้งใจทำมาก ผมติดภารกิจไม่สามารถไปได้ แต่งานหลายๆ งานอย่างการปั่นจักรยานหรืออะไรก็ตาม หลายครั้งผมจะเป็นคนคอยประสานตลอด คอยช่วยเหลือในกิจกรรมพวกนี้ คิดว่าจะทำอะไรเพื่อสิ่่งไหนที่เราทำได้
กิจกรรมหลักที่ใหญ่ ทำเพื่อในหลวง
คงเป็นกิจกรรมในโครงการ “ใจถึงใจ” ที่ทำให้แก่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกิจกรรมหาทุนการศึกษาให้แก่ น้องๆ นักเรียน ในสามจังหวัดที่ภาคใต้ ผมทำมาเรื่อยๆ หลายปีแล้วติดต่อกันมา มีการลงพื้นที่ไปเยี่ยมพบปะน้องๆ ที่โครงการลูกพระดาบส ในพระราชดำริ และหาทุนต่างๆ มาสบทบ ให้แก่มูลนิธิลูกพระดาบส เพื่อให้น้องได้มีโอกาสมากขึ้น ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ทำผมเพราะกิจกรรมหรือมูลนิธิเขาเล็กนะ ไม่ใช่ แต่เราทำ เพราะต้องการไปเสริมสร้างให้เขามีความรู้สึกมากขึ้นว่า มีคนภายนอกที่อยู่นอกเหนือจากจังหวักสามชายแดนภาคใต้ หรือนอกเหนือจากความเมตตาของพระองค์ท่าน ได้เล็งเห็น และช่วยสนับสนุน ให้เห็นว่ายังมีประชาชนคนไทยอีกมากที่เดินตามรอยของพ่อ ช่วยกันสนับสนุนสิ่งนี้ เพื่อให้น้องๆ มีการศึกษา มีวิชาชีพติดตัวไป และได้นำปรัชญาในการใช้ชีวิต กลับไปปรับใช้กับชีวิตและครอบครัวของเขาเองด้วย
น้องๆ ส่วนใหญ่ ในโครงการคือขาดเงิน
อย่างน้องๆ ที่ไปเรียนในมูลนิธิชัยพัฒนาที่ จ.ยะลา ของสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ เรามีการหาทุนให้น้องๆ เรียนเกี่ยวกับด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้น้องๆ ได้กลับไป ช่วยเหลือในชุมชนของเขาได้อีกครั้งหนึ่ง
คนมองใหญ่ เป็นตัวแทนของการทำเพื่อสังคม อยากให้ฝากถึงคนที่อยากเดินตามรอยเท้าพ่อ
จริงๆ แล้วการจะทำอะไรก็ตาม อยากให้คิดถึงสิ่งที่ตัวเองชอบและรักก่อน ในสิ่งที่นอกเหนือจากคำว่าอาชีพ ถ้าเรารักและชอบในสิ่งนั้น เราจะทำไปเพื่อประโยชน์ต่อสังคมจริงๆ มันย่อมจะมีผลดีที่สุดต่อตัวผู้ทำเอง อยากจะฝากว่า การที่เราจะทำอะไรนั้น สังคมของเรามีความหลากหลาย มากด้วยความคิด มากด้วยจิตวิญญาณ ที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้นถ้าเราทำอะไรที่เกิดจากความชอบ และเป็นสิ่งที่ดีเพื่อสังคม เราจงทำ ถ้าเกิดท้อ เราแค่หยุด แล้วหันมามอง เพื่อก้าวต่อไป ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ “คำพูด” แต่ความสำเร็จ เกิดจากการ "กระทำ" และการกระทำจะส่งผล เป็นคำตอบให้แก่ตัวเราเอง และคนรอบข้างที่ช่วยเหลือเรา
ใหญ่ มีโอกาสได้เข้าไปที่ท้องสนามหลวงในวันเคลื่อนพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ร่วมกับกลุ่มจิตอาสา เพื่อดูแลประชาชน
ใช่ ผมอยู่ที่ท้องสนามหลวงกับกลุ่มน้องๆ จิตอาสาที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลประชาชน ในเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเป็นลม ซึ่งก่อนที่เราจะทำงาน จะต้องมีการประชุมกันก่อนเพื่อจะได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งแต่ละหน่วยงาน ภายใต้ตราสัญญลักษณ์อะไรก็ตาม แต่เรามีหัวใจเดียวกัน คืออยากมาช่วยเหลือประชาชน
บรรยากาศโดยรอบที่ใหญ่เห็น
วันนี้ (15 ต.ค.) ตอนที่ผมอยู่ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. คนเริ่มเข้ามาเยอะมากขึ้น ร้อนนิดหนึ่ง แต่ทุกคนเข้ามาด้วยความเต็มใจ พร้อมที่จะทำความดีเพื่อถวายพ่อหลวงของเรา ทีมจิตอาสามีการรวมตัวกันอยู่เยอะพอสมควรนับเกิน 100 คน อยู่ทั้งในส่วนของตีนสะพาน และใต้สะพาน พระปิ่นเกล้าฯ ตรงท้องสนามหลวง และหลายๆ ทีม เข้ามาแจกข้าว แจกอาหาร มีประชาชนเข้ามาช่วยกัน รวมถึงมีน้องๆ อาสาที่เตรียมกระเป๋ายา และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเข้าไปในพื้นที่บริเวณที่ประชาชนจะเข้ามาเคารพสักการะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เหล่าจิตอาสา จะกระจายตัวไปตามสถานที่ต่างๆที่เรากำหนดไว้ และมีหน่วยลาดตระเวณ คอยดูแลความเรียบร้อย แบ่งเบาภาระของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารอีกที เพราะส่วนใหญ่ประชาชนที่เข้ามาจะมีทั้งผู้สูงอายุ คนที่ร่างกายไม่พร้อม แต่ทุกคนหัวใจเต็มเปี่ยม
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. มีประชาชนหนาแน่นเต็มพื้นที่โดยรอบพระบรมหาราชวัง
คนหนาแน่นมาก ทำให้มีคนเป็นลมเยอะเลย ผมอยู่ท่ามกลางคนที่มารอเฝ้ารับขบวนเสร็จ เขาอยู่กันนานขนาดไหน ผมก็อยู่นานขนาดนั้นเลย เราอยู่ด้วยกัน คอยช่วยเหลือกัน พอถึงเวลาคนเยอะมาก แต่ของที่เราเตรียมไปไม่เพียงพอ พอบอกให้ทุกคนช่วยแบ่งปันกัน ทุกคนก็ช่วยเหลือกันดีมาก เหมือนเรามีน้ำเหลืออยู่ 3 แก้ว มีหลอดอยู่ 10 อัน เราก็บอกว่า ถ้า 3 แก้ว กินคนเดียวก็ได้ 3 คน แต่ถ้าเรามีหลอดอยู่ 10 อัน จิบน้ำคนละอึกก็แบ่งได้ 10 คน ซึ่งทุกคนช่วยเหลือกัน ไม่มีบ่นเลย
อยากให้ ใหญ่ ฝากบอกประชาชนที่จะเดินทางไปถวายอาลัย ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ผมอยากให้ประชาชน พี่น้องทุกคนที่จะเข้ามาที่บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อมากราบพ่อหลวงของเรา ใครที่มีโรคประจำตัวอะไร ผมอยากให้พาเพื่อน หรือญาติมาด้วย ติดยาดมยาหม่อง หรือยาประจำตัวมาให้เรียบร้อย แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ ควรจะจดใส่กระดาษติดตัวเองไว้ และเขียนโรคประจำตัวที่ท่านเป็นอยู่เอาไว้ด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่จะได้ช่วยเหลือได้ทัน แม้แต่คนที่ร่างกายแข็งแรง แต่ปริมาณของคนที่เข้ามามีจำนวนมาก ดังนั้นควรจะมีกระเป๋าเป้ และพกขวดน้ำส่วนตัวมาด้วย น้ำเปล่าหรือน้ำหวาน ยาดม ยาหม่อง เผื่อเอามาไว้เลย และที่สำคัญเข้าห้องน้ำเตรียมตัวมาให้เรียบร้อย เพราะห้องน้ำอาจจะไม่สะดวก และมีไม่เพียงพอ
นี่แหละหัวใจของ "คนจริง" ชื่อ "ใหญ่"
