"กะเทยสี่ภาค" เพลงล้อพระตุ้ด ตีแผ่พระนะยะภาคเหนือ | คมชัดลึก

ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ได้ลงตรวจสอบถึงเรื่องอื้อฉาวในวงการสงฆ์ภาคเหนือนั้นมีอยู่นานนมมาแล้ว ถึงขนาดที่ว่า เมื่อสี่ปีที่ผ่านมา มีเพลงตลกๆ ชื่อเพลง”กะเทยสี่ภาค” จากเสียงร้องของนักร้องคำเมือง ชื่อ วิฑูรย์ ใจพรหม เพลงนี้แรกๆ เมื่อหลายคนได้ฟังตอนจบของเพลงอาจจะเข้าใจว่า เป็นเพลงตลกคำเมืองที่ล้อเลียนวงการสงฆ์ที่ดูรุนแรงไปสักหน่อย นักจัดรายการวิทยุบางสถานีถึงกับไม่ยอมเปิดเพลงนี้ก็มี แต่มาถึงวันนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากเพลงเป็นเพียงเศษเสี้ยวของพฤติกรรมของอลัชชีเหล่านี้ ประเสิรฐ ฝักฝ่าย หรือ ประเสิรฐ คาเนชั่น ผู้แต่งเพลงนี้ เล่าถึงเหตุที่มาในการหยิบมุก "พระกะเทย" นี้มาแต่งเป็นเพลงว่า “เพลงนี้เขียนมาตั้งแต่ ปี 2548 แล้ว แรงบันดาลใจมาจากที่ผมไปห้องบันทึกเสียงพิกกี้ สตูดิโอ (อยู่ที่ จ.เชียงใหม่) ได้คุยกับดีเจคนหนึ่งเขาบอกว่า ทำไมไม่เขียนเพลงแนวเนื้อหาแบบนี้บ้าง เพราะแกไปเห็นมาแล้วมีอารมณ์ต่อต้าน ผมเองก็เห็นมาบ่อย เพราะเคยบวชมา 8 พรรษา ตั้งแต่จบป.4 กว่า 30 ปีที่ผ่านมา ก็เห็นเรื่องราวแบบนี้มาโดยตลอดมันมีมานานแล้ว แต่สมัยก่อนไม่มีการแต่งหน้าแต่งตา มีแค่กระตุ้งกระติ้งพอมองออกว่าเป็นกะเทย และมีการรวมกลุ่มกัน วี้ดว้ายบ้าง พาพระหนุ่มๆ ไปเที่ยวน้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคนั้น แต่การครองจีวรก็ปกติ ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่เอาจีวรมากระโจมอก หรือครองผ้าแบบเฉียงๆ ไม่ได้คลุมทั้งตัว” ประธานชมรมศิลปินล้านนา กล่าวถึงความกังวลว่าจะเกิดกระแสต่อต้าน ก่อนทำเพลงออกมาว่า “ผมคุยเรื่องนี้กับคุณสีนวล นภดล (นักจัดรายการและเจ้าของค่ายเพลง)กับวิฑูรย์ ใจพรหม คนร้องเพลง พอเขาฟังแล้ว ก็บอกว่า ต้องการเพลงประเภทนี้พอดี เพราะกระแสเพลงของวิฑูรย์ เวลาร้องเพลงเกี่ยวกับกะเทย คนฟังจะชอบ ผมแต่งเพลงนี้จากจินตนาการ มุกตอนท้ายเพลงเป็นสิ่งที่เราเห็นจริงๆ พระเดินกระตุ้งกระติ้งมาจับผ้าบังสุกุล ส่วนเสียงกะเทยในเพลงเป็นเสียงผมเอง แต่เสียงพระสวดแบบเสียงกะเทยตอนท้ายนั้น เป็นเสียงของวิฑูรย์ ตอนแรกเรากลัวมาก คิดกันมากเกี่ยวกับเพลงนี้ กลัวกระแสต่อต้าน พอเพลงออกมาแล้ว หลายคนก็เห็นด้วย พระก็มาคุยและก็เห็นด้วยว่า ทำถูกแล้ว เป็นการสะท้อนสังคม ไม่มีกระแสด่ากลับมาเลย เพลงชุดนี้อยู่ในชุดที่ 12 เพลงจะอยู่กลางๆอัลบั้ม ไม่ใช่เพลงหัวชุด” นักแต่งเพลงหนุ่มวัยสี่สิบต้นๆ แนะถึงทางออกว่า ควรจะช่วยกันสอดส่องดูแลและกล่าวต่อว่า พระอุปัชฌาย์ บางรูปก็เป็นเสียเอง “น่าจะมีการสแกนกันได้ก่อนจะบวช เพราะคนที่มีลักษณะเช่นนี้จะเห็นได้ชัด ตามพุทธศาสนาเรียกว่า บัณเฑาะก์ จะไม่ให้บวช การบวชเป็นหน้าที่พระอุปัชฌาย์ แต่พระอุปัชฌย์บางรูปก็เป็นซะเองก็มี ถ้าเขาบวชแล้วจะจับสึกยาก เพราะไม่อาบัติรุนแรงจะจับสึกไม่ได้ ผมคิดว่า พระกะเทยมีอยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ไม่แสดงออกยังมีอีกเยอะชาวบ้านเขาดูไม่ออก ผมทำได้เพียงแต่งเพลงบอกเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามันมีมานานแล้ว ฝากถึงกรมศาสนาและพระเถระ ต้องดูแลกันจริงๆ ไม่ใช่เป็นข่าวทีก็ทำกันทีแล้วก็เงียบ มันมีมาเป็นสิบปีแล้ว ต้องแก้ไขจริงจัง ส่วนของฆราวาสก็ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล จับผิดกัน เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน หรือจับสึกไป เพราะทำให้ศาสนาเสื่อม” เพลง “กะเทย 4 ภาค” วิฑูรย์ ใจพรหม ขับร้อง ประเสิรฐ คาเนชั่น แต่ง (ท่อนร้อง) โลกเขาไม่สมดุล เรื่องชุลมุลมีมากมาย ผู้ชายก็มากมี แม้แต่สตรีก็มากหลาย ร้องเรียกสิทธิตน สิทธิส่วนบุคคลที่พึงได้ กท.ก็สำคัญ นัดประชุมกันทั้งประเทศไทย (หยุดพูด) กะเทย-1 สวัสดีเจ้า ข้าเจ้า บัวเกี๋ยง ตัวแทนกะเทยจากภาคเหนือ ขอยินดีตอนรับสมาชิกที่เป็นกะเทยที่มาจากทุกภาคของประเทศไทย วันนี้หมู่เฮาทุกคนต้องมาร่วมใจกัน ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง นยสมคกท. กะเทย-2 ขออนุญาตค่ะ ดิฉัน นางสาวฟ้าประทาน วิหารประทีป ตัวแทนกะเทยจากภาคกลางขออนุญาตถามว่า นยสมคกท. แปลว่าอะไรคะ กะเทย1 ขอบคุณเจ้า นยสมคกท. แปลว่า นายกสมาคมกะเทยแห่งประเทศไทยเจ้า โลกเรามันวุ่นวาย ผู้คนมากมายก็แย่งชิง สิทธิ์ใครก็สิทธิ์มัน แต่สิทธิ์ฉันต้องเป็นจริง ร้องเรียกสิทธิ์ตน สิทธิส่วนบุคคลสำคัญยิ่ง สิทธิใดไม่สำคัญ แต่ว่าสิทธิของฉันต้องเป็นผู้หญิง กะเทย-1(พูด) ขอบคุณเจ้าที่เลือกข้าเจ้าเป็นนายกสมาคมกะเทยแห่งประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่ว่านายกต้องเป็นคนเมือง ตอนนี้เชิญตัวแทนกะเทยทั้ง 4 ภาคเสนอข้อเรียกร้องเจ้า เริ่มจากภาคกลาง อีสาน ภาคใต้และก็ภาคเหนือเจ้า กะเทย-2(พูด) ห้ามทุกคนเรียกเราว่ากะเทยหรือสาวประเภทสอง ห้ามพิมพ์ชื่อบนบัตรประชาชนว่านาย เพราะนี่คือปมด้อยของข่อย เอกสารสำคัญทุกใบ ต้องใช้คำสรรพนามนำหน้าว่า นางสาวเด้อค่า.... กะเทย-3 (พูด) ไอ้หย่า ยกเว้นเรื่องการคัดเลือกเกณฑ์ทหาร พวกเราคือผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อ่อนแอไม่สามารถเป็นรั้วของชาติได้นอกจากไปเป็นแม่บ้านรั้วของชาติ กะเทย-1(พูด) ข้อสุดท้าย พวกเจ้าห้ามเรียกหมู่เฮาว่า ไอ้ เพราะมันเป็นคำอู้ที่ หยาบคายที่สุด โลกเราไม่แน่นอน เกิดแก่จากจร โรคคุกคาม เห็นกันอยู่ดีๆ ต้องจรลีเหลือแต่นาม ความตายสัจธรรมสุดแต่เวรกรรมไม่เคยห้าม จากไปไม่กลับมาสวดอนิจจาถึงคราถูกหาม (หยุดพูด ) กะเทย-1(พูด) คิดไปน่าใจหายนะเจ๊ เห็นกันอยู่หลัดๆ ตายเสียแล้วทั่นนายกสมาคมกะเทยแห่งประเทศไทย กะเทย-2 (พูด) ไอ้หย่า ตายโหงแล้ว กะเทย-3(พูด) เขาเป็นไรตายฮะ กะเทย 1-(พูด) จุ๊ ...จุ๊....ก็เป็นโรคงั้นแหละ เสร็จงานศพแล้วพวกเราจำเป็นต้องเลือกตั้งนายกสมาคมกะเทยแห่งประเทศไทยคนใหม่ ไปวางผ้าบังสุกุลกัน เจ๊...แล้วเราจะเลือกใครเป็นนายกสมาคมคนใหม่ล่ะเจ๊ กะเทย 3-(พูด) นายกคนใหม่เดินมาแล้ว (เสียงพระสวดบีบเสียงแบบกะเทย) ....อนิจาวัฏสังขารา..... กะเทย 3(พูด)ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่เลย