เส้นทางรัก ‘วุ้นเส้น-ชาคริต’ ลงเอยด้วยการ 'หย่า’ จริงหรือ? | คมชัดลึก

         หากพูดถึงคู่สามีภรรยาที่กำลังตกเป็นข่าวฮือฮาในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นคู่รักของ ชาคริต แย้มนาม กับ “วุ้นเส้น” วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ที่กำลังถูกโยงว่าเป็นคู่สามีภรรยาเตียงหักซะแล้ว เพราะข่าวคราวลือหึ่ง! ว่าคู่สามีภรรยาสุดฮอตได้ตัดสินใจหย่าขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากประคองความรักแบบลุ่มๆ ดอนๆ มาพักใหญ่ ซึ่งหลายคนพุ่งเป้าไปที่คู่รักของ “วุ้นเส้น-ชาคริต” อีกทั้งร่ำลือว่าฝ่ายสามีนั้นมีสาวคนใหม่แล้ว!

         ขณะที่คนใกล้ชิดของทั้งสองฝ่ายได้ออกมาเปิดใจว่า ณ ปัจจุบัน วุ้นเส้นและชาคริต ยังไม่ได้หย่ากัน แต่ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ได้มีการนัดกัน ที่จะทำการจดทะเบียนหย่ากันจริงๆ ภายในสัปดาห์หน้า แต่ล่าสุดเมื่อมีกระแสข่าวออกมา ทั้งคู่จึงได้ทำการระงับการดำเนินการจดทะเบียนหย่ากันเอาไว้ก่อน

         ดูเหมือนว่าหลังจากข่าวคราวแพร่สะพัดออกไป ชาคริตและวุ้นเส้น จึงเป็นคู่สามีภรรยาที่ถูกหลายคนจับตามองเป็นพิเศษ จะว่าไปแล้วคู่นี้ก็เป็นคู่ที่เป็นเป้าสายตาตั้งแต่ก่อนที่ทั้งคู่จะประกาศคบหาดูใจกัน เพราะจุดเริ่มต้นของความรักของทั้งคู่ เรียกได้ว่าการทำงานทำให้ “พบรัก” เพราะสาววุ้นเส้นได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ “ครัวแล้วแต่คริต” ซึ่งหนุ่มชาคริตเป็นพิธีกรอยู่ จากที่ทำอาหารด้วยกัน หยอกล้อกันไปตอนถ่ายทำ งานนี้เลยกลายเป็นข่าวขึ้นมาว่าทั้งคู่แอบกิ๊ก แต่เมื่อนักข่าวได้สอบถามทั้งคู่ เจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธ หลังจากนั้นไม่นานจู่ๆ ก็มีภาพของชาคริตกับวุ้นเส้น จับมือเดินควงกันที่โรงเรียนสอนฟุตซอลที่ชื่อ “บี ฟุตซอล” ของหนุ่ม “แมน” ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์

          เมื่อมีภาพยืนยันขนาดนี้ ในที่สุดทั้งคู่ก็ออกมารับแต่โดยดีว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ ความสัมพันธ์ก็เริ่มขยับไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่คบหาดูใจกันนั้น สาววุ้นเส้นก็เจอกับคำถามตลอดว่ารู้สึกอย่างไรกับฉายา “พระเอกไม้เลื้อย” ของชาคริต ซึ่งสาววุ้นเส้นก็ตอบแบบมั่นใจว่า “ฉายาไม้เลื้อยในสายตาของคนอื่นมันคืออะไร เพราะตัวเราเองไม่ได้ตัดสินใครจากข่าว ว่าเขาจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แล้ววุ้นเคยโดนข่าวแบบนี้มาเยอะ เราเองก็ไม่ชอบเหมือนกัน ถ้าใครจะมาตัดสินตัวเราจากข่าว วุ้นคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับคนคนหนึ่งที่ต้องมาโดนอะไรแบบนี้”

         และเมื่อทั้งคู่ข้ามผ่านเรื่องข่าวคราวมาได้ และมั่นคงในความรัก จึงตัดสินใจประกาศวิวาห์ หลังจากคบหาดูใจกันมาได้ 9 เดือน โดยจัดงานแต่งไปเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2555 พร้อมจดทะเบียนสมรส ที่ รร.พลาซ่าแอทธินี ท่ามกลางความหวานและโรแมนติก แถมสินสอดก็ไม่ธรรมดา แหวนเพชร 3 กะรัต เงินสดจำนวนหนึ่ง โฉนดที่ดิน เครื่องเพชร ทอง เรียกว่าเป็นการแต่งงานที่อลังการเลยก็ว่าได้

         หลังจากแต่งงาน ชีวิตคู่ก็แฮปปี้เอนดิ้ง หวานแวว จนทำเอาหลายคนอิจฉาตาร้อนความรักของคู่นี้ แต่ระหว่างทางหลังจากแต่งงานไม่นาน ทั้งคู่ต้องเจอกับคำสบประมาทมาตลอดว่า “คู่นี้อาจจะไปไม่รอด” ซึ่งวุ้นเส้นเคยเปิดใจกับ คมชัดลึก ถึงประเด็นนี้ว่า “คนอาจจะมีสิทธิ์คิดได้ว่าคู่นั้นคู่นี้จะไปกันรอดมั้ย แต่เราเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องนี้” ขณะที่ชาคริตได้ตอบว่า “สิ่งที่เราคุยกันตั้งแต่แรกคือ ถ้าคนอื่นมาบอกว่าสมกันเหลือเกิน แต่ถ้าเราไม่มีความสุข ผมก็คงไม่อยู่กับเขา คือเราคุยกันเรื่องนี้ตลอด เราไม่ต้องให้ใครมานั่งบอกว่ามันไม่เข้ากันเลย แต่เรามีความสุข คือมันเป็นเรื่องของคนที่หยั่งไม่ถึงหรอก คนไม่มีทางรู้ แค่จุดนี้ ที่เราเข้าใจเหมือนกัน”

         แม้ว่าทั้งคู่จะเจอกับคำสบประมาท แต่ทั้งวุ้นเส้นและชาคริตก็ก้าวผ่านมาได้ แถมฝั่งสามีอย่าง ชาคริต ก็ดูรักและจริงจังกับคำว่า “ครอบครัว” เพราะเรือนหอที่ตั้งใจสร้างนั้น ชาคริตยอมทุ่มทุนสร้าง และตั้งงบไว้ประมาณ 100 ล้านบาท ที่หมู่บ้านปัญญา รามอินทรา ซึ่งรั้วบ้านติดกับบ้านของ “เจ” เจตริน วรรธนะสิน แต่หลังจากครองรักกันมาได้ 4 ปี เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็มีข่าวลือต่างๆ นานา ว่าทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ข่าวเม้าท์หนักขนาดนี้ วุ้นเส้นเลยต้องออกมาเปิดเผยถึงข่าวลือว่า ยอมรับว่ามีปัญหากันจริง อีกทั้งยอมรับด้วยว่ามีแยกบ้านกันอยู่ แต่ยังอยู่ในช่วงประคับประคองครอบครัว พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายอย่างที่เป็นข่าว

         ระหว่างที่ทั้งคู่ยังประคับประคองครอบครัวอยู่นั้น ทำให้เกิดทริปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนต่างลงความคิดเห็นว่านี่คือ ทริปกระชับความสัมพันธ์ ซึ่งชาคริตและวุ้นเส้นเดินทางไปกันสองต่อเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา เลยมีภาพคู่ลงในไอจีให้ได้เห็นกัน งานนี้ทำเอาลุ้นกันว่าทริปกระชับรักครั้งนี้น่าจะมีลุ้นว่าทั้งคู่อาจจะกลับมาแฮปปี้เหมือนเดิม แต่ความหวังของแฟนๆ ดูจะริบหรี่ เมื่อไอจีของสาววุ้นเส้น ไม่มีภาพคู่ของหนุ่มชาคริตอีกเลย หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น

         กระทั่งล่าสุดมีข่าวถูกโยงว่า ชาคริต และวุ้นเส้น เป็นคู่สามีภรรยาที่จบชีวิตคู่ด้วยการหย่า หลังจากใช้ชีวิตคู่มา 4 ปี