เปิดใจ “กุ๊บกิ๊บ” คุณแม่ป้ายแดง...ถึง “ลูกเป่าเปา” | คมชัดลึก

           โดยกุ๊บกิ๊บบอกต่อว่า รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ที่สามารถคลอดลูกและทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะว่าตอนที่ตัดสินใจว่าจะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ ทั้งที่ตัวเธอเล็กและเป็นภูมิแพ้ ทำให้ต้องมีการดูแลตัวเอง ทั้งเรื่องสุขภาพ และการควบคุมอาหาร เพื่อไม่ให้ลูกตัวใหญ่จนคลอดออกมาไม่ได้ แต่พอวันที่เป่าเปาคลอดออกมาแล้ว ร่างกายแข็ง และผ่านมาวันนี้ 1 เดือน 17 วัน ลูกเลี้ยงง่ายมาก พัฒนาการเป่าเปาดี และเร็วมากเลย

         “เป่าเปา นางเลี้ยงง่ายมาก นางไม่งอแง นางจะร้องอยู่ 2 อย่าง คือ อึ กับ หิว กลางคืนนางก็ไม่มีร้องอะไรเลย นางเป็นเด็กที่นอนยาวตลอด นางนอนยาวถึงตีสี่ตีห้า ถึงช่วงเวลาหิว นางก็ไม่ลืมตานะ นางทำสัญญาณด้วยการทำปากจุ๊บๆ เพื่อเป็นการบอกว่าขอกินนม พอกินนมเสร็จ นางก็หลับต่อ หลับยาวถึง 9 โมงเช้า แล้วก็ตื่นมาทำปากจุ๊บๆ กินนมแล้วก็นอนยาวถึงบ่ายโมง ตารางเวลาของเป่าเปา แทบจะใกล้เคียงกันทุกวัน เป๊ะมาก และเขาเป็นเด็กที่รู้เรื่อง ไม่งี่เง่า ช่วยเราได้เยอะมาก” กุ๊บกิ๊บบอก

         จากนั้นคุณแม่สุดเฟี้ยวเล่าถึงการเลี้ยงลูกว่า วิธีการเลี้ยงลูก ดูตามนิสัยของลูก แล้วก็เลี้ยงเขาตามแบบนิสัยของเขา โชคดีอีกอย่างคือ ครอบครัวเป็นครอบครัวใหญ่ เลยมีคนมาช่วยเลี้ยง ทั้งแม่ของกุ๊บกิ๊บ รวมถึงญาติๆ ที่คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำ

         “แม่กิ๊บมีหลานมาเยอะมาก เป่าเปาเป็นคนที่ 12 อะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย เลี้ยงกันชำนาญมาก แต่เป่าเปาเลี้ยงธรรมชาติๆ แบบปล่อยๆ เลย ไมได้โอ๋มากเกินไป อย่างนิสัยของเป่าเปา คือนางกินเก่ง นางชอบกิน นางกินเป็นเวลา แล้วกินอิ่มคือจบ ไม่ได้เป็นเด็กที่ต้องอยู่ตรงเต้าแม่ตลอดเวลา กินเสร็จนางก็จะอึ อึเสร็จนางก็จะนอน แล้วถ้านางนอน ใครก็อย่ามากวน มายุ่ง มิฉะนั้นจะหงุดหงิด และเป่าเปาเป็นเด็กที่รักความสะอาดมาก แพมเพิสจะแฉะนิดหนึ่งไม่ได้เลย นางก็จะร้อง ทุกคนก็ต้องรีบมาเปลี่ยนให้ แล้วเวลาที่เขาอึจะร้อง แล้วเป็นเด็กที่ร้องแล้วตลกมาก เพราะว่าหน้าเขาขำไง เราก็จะชอบมอง แล้วอีกอย่างเวลาถอดเสื้อเขา เขาก็จะไม่ชอบ นางรักสะอาดมาก ไม่เหมือนแม่ (หัวเราะ) และนางเป็นคนสู้กล้องมาก ทุกครั้งที่นางหลับตา ถ้าได้ยินเสียงชัตเตอร์ นางจะลืมตาขึ้นมามองกล้องทุกครั้งเลย พอหยุดกดนางก็จะหลับตา ซึ่งแปลกมากเพราะเวลาเสียงคนคุยกัน เสียงอะไรนาง หลับไม่สนใจ” แม่มือใหม่เผย

         ตั้งแต่มีลูก “กุ๊บกิ๊บ” ยอมรับว่าเธอกลายเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนขึ้นเยอะ และจะอารมณ์ละเอียดอ่อนในเรื่องของลูกมาก แค่คิดว่าถ้าลูกป่วย ก็จะร้องไห้แล้ว เพราะสงสารลูก กุ๊บกิ๊บเผยว่า เธอกับบี้ (สามี) มองลูกแล้วเคยถามกันเองว่า ทำไมรักเป่าเปาจังเลย รักโดยไม่มีเหตุผล รักโดยที่ไม่สามารถจำกัดความได้ด้วยว่ารักแบบไหน พูดไม่ทันจบ “กุ๊บกิ๊บ” หันไปเจอ “เป่าเปา” ที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเตรียมพร้อมถ่ายรูป “โอ้ย!! เป่าเปาน่ารักจังเลยลูก เดี๋ยวแม่เอาขนเฟอร์ให้ใส่ลูก ครบ 1 เดือนแล้วใส่เฟอร์ได้ (ยิ้ม)” หลังจากมุ้งมิ้งกับลูกอยู่พักหนึ่ง กุ๊บกิ๊บหันกลับมาคุยกันต่อว่า “กิ๊บโชคดี ที่บี้เขามาช่วยกิ๊บเลี้ยงลูกอยู่ตลอด เขามีส่วนรวมในทุกๆ อย่าง”

          ถามว่าวิธีการเลี้ยงลูกและการใช้ชีวิตของกิ๊บไม่เหมือนแม่คนอื่นๆ ดาราสาวบอกว่า เธอเลี้ยงลูกไปด้วย และก็ใช้ชีวิตไปด้วยในเวลาเดียวกัน คนส่วนใหญ่พอเป็นแม่ ก็จะนอยด์และกลัวไปหมด และปล่อยตัวโทรม แต่กุ๊บกิ๊บไม่ได้เป็นแบบนั้น

         “กิ๊บเลี้ยงลูกแบบที่กิ๊บก็สนุก และก็ไม่เหนื่อย ซึ่งกิ๊บเลี้ยงเป่าเปาแบบธรรมชาติ แล้วกิ๊บก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องประคบประหงมมาก เขาจะได้มีภูมิคุ้มกันด้วย กิ๊บไม่อยากรู้สึก ว่ามีลูกแล้วชีวิตเราต้องเปลี่ยน ไม่อยากรู้สึกว่ามีลูกแล้วมันเหนื่อยมาก และไม่มีความสุขเลย กิ๊บไม่ต้องการให้รู้สึกแบบนั้น พวกเราเลยใช้ชีวิตปกติ เวลาที่เห็นคนมาดราม่าเรื่องการเลี้ยงลูกของกิ๊บ กิ๊บไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนะ เพราะว่าแม่กิ๊บมีลูกเยอะ มีหลานเยอะ เรียกว่ามีประสบการณ์การเลี้ยงเยอะมา และอีกอย่างการเลี้ยงของแต่ละบ้านก็ไม่เหมือนกัน สไตล์ใครสไตล์มัน คนอื่นก็ไม่รู้ว่าลูกเรานิสัยแบบไหน การที่เห็นแค่รูปหนึ่งรูป หรือคลิปหนึ่งนาที ไม่สามารถตัดสินอะไรได้ว่าตลอดเวลาเขาทำอะไรกันอยู่ คนชอบตัดสิน คนจากการที่เห็นแค่นิดเดียว ถามว่าเราต้องแคร์ไหม เราไม่ต้องแคร์ เราต้องตอบโต้ไหม ก็ไม่จำเป็น เพราะว่าคนเขา ก็หวังดีกับเรา แต่เราจะเอาไปปฏิบัติไหม มันก็เรื่องของเรา อย่างเวลาถามคุณหมอของเราก็บอกอย่าง ถามแม่เราก็บอกอีกอย่าง คนอื่นก็บอกอีกอย่าง แต่จะให้เราไปเชื่อคนอื่น มากกว่าหมอมากกว่าแม่ ก็ไม่ใช่นะ และในทุกๆ ครั้งที่มีดราม่า เราก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายว่าอะไรยังไง เพราะมันคงไม่ใช่เรื่อง แต่เรายืนยันตรงนี้เลยว่า เราใส่ใจในรายละเอียดเรื่องลูกทุกๆ อย่าง” กุ๊บกิ๊บเผย

          ในตอนสุดท้ายของการพูดคุย ถามว่าสำหรับ “กุ๊บกิ๊บ” แล้ว “เป่าเปา” มีความหมายว่าอะไร “เปาคือคนที่ทำให้ชีวิตกิ๊บรู้ว่า ตรงไหนคือที่พอดีและพอแล้ว ก่อนหน้านี้กิ๊บไม่เคยอยากหยุดกับใคร ตรงไหน อยากแค่จะใช้ชีวิตให้เต็มที่ ไม่เคยกลัวตาย ใช้ชีวิตทุกอย่างสุดมาก แต่พอมีเป่าเปาขึ้นมา ทำให้กิ๊บหยุดตรงนี้ ทำให้จากที่ไม่เคยกลัวตาย แต่พอมีเปาเราระมัดระวังทุกอย่าง อะไรที่กินแล้วว่าดีก็กิน ทำทุกอย่างให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรง เพื่อเราจะได้ไม่ป่วย เราจะได้อุ้มลูกได้ เราจะได้มีแรงดูลูก จะบอกกับตัวเองว่าห้ามไม่สบายเด็ดขาด เพราะถ้าไม่สบาย เราจะหอมลูกไม่ได้ จะเข้าใกล้ลูกไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะทรมาน เปาคือจุดเบรกในชีวิตกิ๊บ” นักแสดงสาวกล่าวเสียงร่าเริง

          ความน่ารักของ “แม่กุ๊บกิ๊บ-ลูกเป่าเปา” มันใช่เลย!!