บันเทิง

คุยกับ“ปาร์ค ชานวุค”กับหนังรักสุดอื้อฉาว

คุยกับ“ปาร์ค ชานวุค”กับหนังรักสุดอื้อฉาว

30 ก.ค. 2559

คอลัมน์ เอเชียเอนเตอร์เทนเมนท์

 

          เรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่อง “the handmaide ล้วง เล่ห์ ลวง รัก” เป็นภาพยนตร์สุดอื้อฉาวแห่งปี เพราะนอกจากหนังเรื่องนี้ จะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 69 ปี 2016 แถมได้กระแสตอบรับไปในแง่บวก ในขณะเดียวความสัมพันธ์ของ ปาร์ค ชานวุค ผู้กำกับและ คิม มินฮี นักแสดงนำในเรื่องก็อื้อฉาวไม่แพ้กัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากนวนิยายของนักเขียนชาวอังกฤษ ซาราห์ วอเตอร์ส เรื่อง Fingersmith แล้วมาเล่าเรื่องในยุค 1930 ที่มีอาณานิคมเกาหลีและญี่ปุ่นเป็นฉากหลัง นำเสนอเรื่องราวร้อนแรงของคุณหญิงชาวญี่ปุ่นผู้สูงศักดิ์ และหญิงสาวชาวเกาหลีผู้ทำหน้าที่เป็นสาวรับใช้แต่พัวพันอย่างลับๆกับแผนร้ายของชายนักต้มตุ๋นเพื่อหวังสมบัติของคุณหญิง ซึ่งผู้กำกับคนดังได้กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า

@ อะไรที่ทำให้คุณเลือกทำภาพยนตร์เรื่องนี้
          มันก็เหมือนกับกรณีของหนังเรื่อง oldboy คือผู้อำนวยการสร้าง ซิด ลิม นำนิยายต้นฉบับมาเสนอให้ผม แล้วถามว่า “คุณคิดอย่างไร” เมื่อผมอ่านหนังสือจบไปบทที่ 1 ผมตื่นตะลึงมากๆ ผมชื่นชอบสไตล์การเขียนอันจัดจ้านและละเอียดละออ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องของผู้หญิงสองคนที่เป็นศูนย์กลางของเนื้อเรื่อง มันรู้สึกมีชีวิตชีวาจริงๆ คนหนึ่งมีอดีตอันดำมืดและอีกคนก็อยู่กับปัจจุบันที่ไร้ความหวัง แต่ทั้งสองก็เผยความเป็นปัจเจกบุคลและเสน่ห์อันแรงกล้าอีกด้วย


@ ทำไมถึงกำหนดท้องเรื่อง ให้เกิดขึ้นในยุคอาณานิคม ปี 1930 ซึ่งแตกต่างจากต้นฉบับที่เป็นยุควิคตอเรียนของอังกฤษ
          มันมีเหตุผลตามความเป็นจริงอยู่แล้ว เมื่อคิดถึงองค์ประกอบของพล็อตหนังเกี่ยวกับสภาพสังคม ที่มีการแบ่งแยกชนชั้น มีอาชีพคนรับใช้ มีคนที่ชอบเก็บสะสมทรัพย์อันแสนหายาก อีกเหตุผลหนึ่ง คือมันเป็นยุคที่วิถีชีวิตดั้งเดิมบางส่วนยังคงอยู่ แต่ความทันสมัยเริ่มเข้ามีบทบาท


@ ทราบมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนแรกจะถ่ายทำในระบบสามมิติ
          คือบ้านในหนังเรื่องนี้ใหญ่มากนะ และมีตัวละครไม่กี่คน มันมีหลายฉาก ที่เราเห็นจากมุมมองของซุคีและฮิเดโกะ มีหลายครั้งที่เราต้องถ่ายแบบโคลส-อัพ และหลายครั้งที่ต้องเคลื่อนกล้องไปมา ในตอนแรก ผมตั้งใจจะถ่ายหนังด้วยเทคนิคหนัง 3 มิตินะ หลายคนมักใช้สำหรับหนังไซไฟหรือหนังแอ็กชั่น แต่ผมคิดว่าคงน่าสนใจแน่ๆ ถ้าใช้ในหนังดราม่าพีเรียด เทคนิค 3 มิติจะช่วยเน้นมุมมองของแต่ละตัวละครในรูปแบบที่จับต้องได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เพราะข้อจำกัดเงินทุน กระนั้นเทคนิคการเคลื่อนกล้องก็สามารถมาแทนที่ได้ที่ผมต้องการ


@ อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจเลือก คิม เตรี มาแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้
          ผมต้องการนักแสดงหน้าใหม่อยู่แล้ว เราเลยเปิดออดิชั่นครั้งใหญ่ ได้เจอคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพมาหลายคน แล้วเป็นที่แน่ชัดว่าคิม เตรี นี่แหละคือสาวใช้ซุคีของเรา เธอมีเอกลักษณ์ เวลาเธอพูดเธอจะมีความเข้มแข็งในตัว นั่นเป็นความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เราเลือก กัง เฮจอง (ที่แจ้งเกิดจาก oldboy) เธอเป็นคนที่สามารถถ่ายทอดมุมมองของเธอได้ดีทีเดียว


@ ภาพยนตร์ทุกเรื่องของคุณจะมีอารมณ์ขันแฝงไว้ แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ล่ะ
          อารมณ์ขันในหนังเรื่องนี้ มาจากการที่ตัวละครพยายามปกปิดตัวตนที่แท้จริง และมาจากการแสดง มันมีหลายฉากที่พวกเขาซุกซ่อนความรู้สึกและคิดถึงบางอย่างที่แตกต่างจากสิ่งที่เขาพูด ต่อให้ผู้ชมไม่ได้หัวเราะออกมา ผมคิดว่าผู้ชมก็จะสนุกสนานไปกับอารมณ์ขันร้ายๆผ่านหนังเรื่องนี้


@ อยากให้คุณนิยาม หนังเรื่องนี้เป็นประโยคสั้นๆ
          มันคือหนังระทึกขวัญเกี่ยวนักต้มตุ๋น เรื่องราวสุดเข้มข้นที่มาพร้อมกับจุดหักมุมแบบคาดเดาไม่ได้ และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือหนังรัก

          ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉาย 4 สิงหาคม ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น