ซีรีส์ ‘หมอ’ ที่มันไม่ ‘หมู’ตามมาดูละครไทยทำได้ถึงแค่ไหน? | คมชัดลึก

          สิ่งที่น่าจับตามองอย่างหนึ่ง ในละครซีรีส์ยุคใหม่ของไทย คือมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีให้เลือกเข้าถึงหลายกลุ่มคน แต่ส่วนใหญ่จะมัดใจวัยรุ่น และหนุ่มสาววัยทำงาน ที่สำคัญบางเรื่องสามารถดูได้เฉพาะผ่านเว็บไซต์อย่าง Line.tv

          ที่ผ่านมาแนวของละครไทย มักจะถูกโจมตีจากคอซีรีส์ต่างประเทศว่า ไม่มีความลึกของอาชีพตัวละครหลัก เส้นเรื่องมีแค่ประเด็นความรัก ความใคร่ ตบตี แย่งผู้ชาย ส่วนอาชีพเปรียบเสมือนพร็อพประกอบฉาก ที่ตัวละครใส่สูท แต่งชุดสวย เดินไปเดินมาในบริษัทเท่านั้น แต่ไม่มีเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ พระเอก นางเอก เลยแม้แต่น้อย

          ย้อนกลับมามองที่ซีรีส์ฟอร์มเล็กอย่าง “I See you พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง” ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 4 ทุ่มครึ่ง ทางช่อง "GMM25" ผลิตโดย “GDH 559” กับเรื่องราวของหมอ และพยาบาล ในโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง กับนางพยาบาลหน้าใหม่อย่าง “ไพริน” (“แพท” ชญานิษย์ ชาญสง่าเวช) ที่มีสัมผัสพิเศษในการมองเห็นวิญญาณ พร้อมกับเรื่องราวของคนไข้ในเคสต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น พร้อมตัวละครหลักคนอื่นๆ อย่าง “หมอเอ็ม” (“เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ) “หมอเม่น” (“ต่อ” ธนภพ ลีรัตนขจร) และ “นิว” (“มายด์” วิรพร จิรเวชสุนทรกุล)

 

          เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล เป็นการติดตามการรักษาของหมอกับคนไข้แต่ละคน บวกรวมกับเรื่องผี และความรักที่เกิดขึ้นเป็นกิมมิกมุ้งมิ้งในเรื่อง ถือว่าเป็นซีรีส์ที่เจาะเกี่ยวกับอาชีพโดยตรง ที่มีให้เห็นไม่มากนัก มองเห็นความพยายามของคนทำที่จะใส่เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยต่างๆ ในช่วง “Doctormentary” ตอนท้ายของซีรีส์ในแต่ละตอน โดยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ มาเป็นคนให้ความรู้ เนื้อเรื่องจะมีพล็อตหลักเป็นโครงใหญ่ของเรื่อง คลุมอยู่ในพล็อตย่อยที่เป็นการตามดูการรักษาของหมอกับคนไข้ในแต่ละตอน

          มีความคล้ายกับซีรีส์เกาหลีในการนำเสนออยู่ไม่น้อย เพียงแต่ความตื่นเต้นน่าติดตาม อาจจะต่างกัน เรื่องนี้เสน่ห์ของนักแสดงนำน่ารัก เพียงแต่เรื่องราวออกจะเรื่อยมากเกินไปหน่อย จนคนดูมีความรู้สึกว่า ดูก็ได้ หรือไม่ดูก็ได้ ทั้งที่เนื้อหาและพล็อต น่าสนใจ แต่เหมือนยังขาดเสน่ห์อะไรบางอย่าง ที่จะทำให้ซีรีส์เจาะวิชาชีพเรื่องนี้ ดึงดูดและเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่านี้ ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งงบประมาณในการถ่ายทำ และความเชี่ยวชาญในเชิงเทคนิคของวิชาชีพหมอ ที่มีรายละเอียดเยอะ และค่อนข้างยาก ในแง่ของการเขียนบท

          เพียงแต่ซีรีส์ต่างประเทศที่เห็นบ่อยๆ ในระยะหลัง ยกตัวอย่างซีรีส์เกาหลี มีหลายเรื่องที่เนื้อหาเกี่ยวกับวงการการแพทย์ อย่างล่าสุดอย่าง Doctor, Decsendant of the sun, Yong Pal, Good doctors, It‘ ok that love,Imergency man and woman ฯลฯ ซึ่งแต่ละเรื่องที่กล่าวมา เกี่ยวกับวงการแพทย์ เพียงแต่จะเจาะแยกออกไปอีกว่าเป็นแพทย์สาขาใด ส่วนใหญ่ที่พบบ่อยจะเป็นศัลยแพทย์ หรือแพทย์ผ่าตัด แต่ก็มีเรื่อง it’ ok that love ที่เกี่ยวกับวงการจิตแพทย์ ซึ่งกระบวนการในการถ่ายทำตอนผ่าตัดของซีรีส์เกาหลี จะค่อนข้างตื่นเต้น เห็นขั้นตอนอวัยวะในการผ่าตัดชัดเจน ซึ่งเข้าใจได้ว่าบริบททางสังคม แต่ละประเทศอาจต่างกัน ถ้าถ่ายทอดทางโทรทัศน์บ้านเรา คงดูน่ากลัวเกินไป เด็กดูแล้วหวาดเสียว หรืออาจจะต้องผ่านกองเซ็นเซอร์อะไรกันอีกหลายขั้นตอน จนไม่ได้เห็นขั้นตอนผ่าตัด!!

          หากมองในแง่ของการพัฒนา และความตั้งใจ ทำให้เจอหลายแง่มุมที่ซีรีส์พยายามจะนำเสนอ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของละครซีรีส์ไทยไปในทิศทางที่ดี เพราะซีรีส์ “I See you พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง” ในแต่ละตอน พยายามสอดแทรกเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวผ่านเคสของคนไข้ ความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงาน การเมืองภายในเล็กน้อย หลักการในวิชาชีพหมอ เพียงแต่การเข้าถึงกลุ่มคนดู เจาะแค่วัยรุ่น วัยทำงาน ตามสไตล์หลักของเรื่อง ซึ่งเป็นสไตล์เฉพาะกลุ่ม แล้วแต่ว่าจะถูกจริตคนดูมากน้อยแค่ไหน

          ความจริงละครที่นำเสนอเกี่ยวกับวิชาชีพที่เจาะลึก อาจจะใหม่สำหรับคนไทย แต่ไม่ใหม่ในซีรีส์ต่างประเทศ ก่อนหน้ามีละครอย่าง “วัยแสบ สาแหรกขาด” ทางช่อง 3 ที่นำเอาเรื่องของ “นักจิตวิทยา” และ “ครู” มาใส่ในละคร ซึ่งถือว่าเจาะลึกในเชิงเนื้อหาได้ค่อนข้างดี ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ประเทศอื่นทำละครซีรีส์ประเภทนี้ได้มีเอกลักษณ์ ชัดเจนตามแบบฉบับของเขา แล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง เพียงแต่ประเด็นหลัก ที่น่าสนใจคือ เขาทำให้อาชีพที่เคยดูยาก สำหรับคนทั่วไปที่จะเขาถึง มีความน่าสนใจ มีเส้นเรื่องรัก โลภ โกรธ หลง แก้แค้น เดินวนอยู่ในนั้นได้

          โดยมีทีมเขียนบท และทีมโปรดักชั่นที่แข็งแรงมาก เชื่อว่างานของคนไทย มีเสน่ห์ได้ในแบบของเรา ที่สำคัญสิ่งน่าจับตามองต่อไปคือ ในอนาคตคงได้เห็นพล็อตแปลกใหม่ จากซีรีส์ที่เดินเรื่องอยู่บนเส้นอาชีพ ของคนไทยมากขึ้น ตอนนี้กระแสอาจจะไม่น่าตื่นเต้น เพราะยังหาทิศทางที่เหมาะสม กับความลงตัวไม่เจอ แต่ถ้ามุ่งมั่นต่อไป เชื่อว่าซีรีส์แนวนี้ต้องพัฒนาได้อีก อาจจะมีความล้ำ และโดนใจคนดูได้มากกว่านี้แน่นอน!!