เปิดใจ “พร” จากหลังบ้านสู่เสาหลัก ‘โคลีเซียม’  | คมชัดลึก

          ในวันที่  9 สิงหาคมนี้ จะเป็นวันครบรอบ 4 ปีการจากไปของ คมน์ ผู้กำกับชื่อดังที่ได้สร้างคุโณปการมากมายให้กับวงการบันเทิงไทย ทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์ และผู้ก่อตั้ง บริษัท โคลีเซียม  ถึงแม้ในวันนี้จะไม่มีผู้กำกับคนดัง  ทว่า “พร” พรพิมล ภรรยาของ คมน์ อรรฆเดช ยังคงเดินหน้าสานต่องานในวงการบันเทิงตามเจตนารมย์ของสามีอย่างเนื่อง  ล่าสุดได้มีโอกาสพูดคุยในเรื่องของการทำงาน “พร” พรพิมล ได้ความ  

          “ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม (ทอดเสียง) เหนื่อยนะ ถ้าสมมุติว่าคุณคมน์ยังอยู่ คงจะเป็นคนที่มาคุยกับนักข่าวแล้ว   เราก็จะเป็นคนอยู่ข้างหลัง คอยดูแลความเรียบร้อยนะ  เวลาสัมภาษณ์คุณคมน์เป็นคนพูด แล้วเขาเป็นคนที่หน้าขายได้  เขาเป็นคนที่สันทัดเรื่องพวกนี้ เราอยู่ด้านหลัง   คอยดูแลความเรียบร้อย   ตอนนี้ต้องมาดูแลเอง อย่างเรื่องมหาหิน นี้ เราทำ 2 พิธีเลยนะ มีฤกษ์มาตอนตี 3 กว่า จนถึงตี 4 แล้วเราก็ขอขึ้นไปพัก แล้วลงมาดูความเรียบร้อยใหม่อีกรอบ  บางที่เราสั่งอะไรไป ก็ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ เราก็ต้องมาดูแลเอง  เราก็ต้องตามทุกเรื่อง  อย่างการทำงาน ก็ต้องตามนะ ละครเป็นยังไง ต้องถ่ายถึงกี่โมง  ต้องดูหมด  เราต้องมาดูว่าละครถ่ายกันกี่ซีน แต่เราเป็นคนที่ชอบทำงานนะ อย่างล่าสุดเพิ่งขึ้นมาจากใต้เนื่องจากว่ามีงาน  ถ้าคุณคมน์ยังอยู่ก็ไปด้วยกัน   เราทำงานจนชินแล้ว ทำมา 30-40 ปีแล้ว เราไปคนเดียวนะ ขับรถไปคนเดียว  ตอนที่คุณคมน์ยังอยู่ เขามีหน้าที่เป็นคนขับ เรามีหน้าที่นั่งนะ และป้อนผลไม้ให้ทาน  ส้มเนี่ยก็มีติดรถให้ทานกันเป็นโลๆเลยนะ แล้วยิ่งสละเป็นถุงเลย ปอกให้ทานตั้งแต่จันทบุรีถึงกรุงเทพเลย นิ้่วถลอกหมดเลยนะ”  พรพิมลกล่าวถึงความหลัง 

 

         คมน์ อรรฆเดช

 

          นอกจากนี้ “พร” พรพิมล กล่าวเสริมว่า “เอาจริงๆ เมื่อกี้ขนาดพูดถึงยังจะร้องไห้ (น้ำตาคลอ) เอ่ยไม่ได้เลย (เสียงเครือ) มันมีความผูกพัน  เหมือนพี่เหมือนเพื่อนเหมือนน้อง แล้วเราไม่มีลูก เวลาไปไหน เราก็ไปด้วยกัน อย่างถ้าวันว่างๆ เขาจะถามแล้วว่าเราไปไหนกันหนู ?  ไปทานก๋วยเตี๋ยวที่แปดริ้วบ้าง    (จากการเป็นแม่บ้านสู่การดูแลบริษัท) บังเอิญเป็นคนที่ชอบทำงาน ทุกวันนี้ที่ต้องทำงาน ขอให้ได้ทำงาน ทุกวันนี้ก็กว่าจะนอน เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง จะไม่อยู่เฉยๆ เพราะว่าเราไม่มีเพื่อน  แต่ถ้าคุณคมน์ยังอยู่ เขาก็จะลงมาตามแล้วพอตอนนี้ไม่มี ง่วงก็ขึ้น  พอขึ้นไปถึงห้อง  ซึ่งก็จะมีรูปเขา เราก็จะไปปูที่นอนให้ก่อน บอกว่า ดูทีวีไปก่อน พอตอนเช้าก็มีกาแฟ  กลางวันเป็นอาหาร ตอนเย็นก็เป็นผลไม้  ทำอยู่ตลอด จนทุกวันนี้   ที่จริงเขาก็ยังอยู่นะ  เราสัมผัสได้นะ เขาเคยมานะ มาบอกว่าไม่สามารถเข้าฝันเราได้เลย  เพราะว่าสมองหนูไม่ว่าง อ้าวเราก็บอกว่า ถ้าไม่ว่าง ก็ทำให้หนูเห็น  ให้ได้กลิ่น และเราก็ได้เห็น และได้กลิ่นทั้งสองอย่าง วันที่แถลงข่าว วันปิดกล้อง  เราจะบอก บางที่เราขนลุกตั้งเลย  เขาอยู่ใกล้เรา เราจะบอกว่าบางครั้งเราไปงาน ตัวต้องมานะ บางทีเราลืมเรียกนะ (ยิ้่ม)  ต้องบอก  เขายังไม่ไปไหน ยังอยู่กับเรา” พรพิมลกล่าว