"เวิร์คพอยท์" จับมือ "ทรู แฟนเทเชีย" หยิบเพลง "เฉลียง" ทำละครเวทีมิวสิคัล | คมชัดลึก

  ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม หรือ สังข์ 108 มงกุฎ บิ๊กบอสโต๊ะกลม และผู้กำกับละครเวทีเรื่องนี้ เล่าว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากความที่เป็นคนชอบเพลงเฉลียงอยู่เดิม ประจวบเหมาะกับได้ไปดูละครเวทีแนวจู๊กบอกซ์ที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นละครเวทีลักษณะที่นำเพลงของศิลปินดังๆมาร้อยเรื่องราว ดังเช่นเรื่อง วิ วิล ร็อกยู ที่นำเอาเพลงควีนส์มาร้อยต่อเป็นเรื่อง จึงเกิดแนวคิดนำเพลงเฉลียงมาทำเป็นละครเวทีลักษณะเดียวกัน

 "เราอยู่ เวิร์คพอยท์ ซึ่งก็มีพี่จิก (ประภาส ชลศรานนท์ หนึ่งในสมาชิกวงเฉลียง) อยู่ เพลงเฉลียงก็เป็นเพลงที่คนชื่นชอบ แฟนๆ ยังอยากฟังอยู่ เลยคิดว่าน่าจะเอาเพลงเฉลียงมาร้อยเรียงทำเป็นละครเวที
 
 ความยากของการคิดอยู่ตรงที่หากเป็นละครเพลงธรรมดา เวลาตัวละครคิดอะไร ก็จะร้องออกมาเป็นเพลงได้เลยตามเนื้อเรื่อง แต่สำหรับละครเพลงลักษณะนี้เราต้องเอาเพลงเฉลียงมาเป็นแกนหลัก จากนั้นจึงมาผนวกกับเรื่อง แล้วมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เนียน บางเพลงชอบแต่นึกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ ก็ไม่เอา หรือบางเพลงตอนแรกไม่ได้คิดถึง แต่เผอิญมันเหมาะกับเนื้อหาก็หยิบมาใช้ ซึ่งเผอิญว่าโครงเรื่องที่คิดไว้มันลงตัวกับเพลงเฉลียงด้วย

 ตอนที่คิดเราต้องเอาเพลงมาฟังทุกเพลง เรียกว่าครบทั้ง 60-70 เพลงเลย ก่อนที่จะเลือกมา 20 เพลง มีทั้งเพลงที่คนทั่วไปรู้จักและเพลงที่อาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ ผมว่าเพลงเฉลียงเป็นเพลงที่ดี แต่บางเพลงไม่ค่อยได้ฟังกัน และด้วยความที่เฉลียงเป็นเพลงอารมณ์ดี เวลาที่เราจะพูดในส่วนที่เป็นผู้ร้ายมันไม่มีเพลงที่จะใส่ลงไป ทำให้ต้องใช้วิธีเอาเพลงเฉลียงที่ดูหม่นๆ มาแต่งเนื้อเพลงใหม่ เพื่อเล่าเรื่องให้ง่ายขึ้น"

 สังข์ ยังบอกด้วยว่าไม่อยากให้มองแค่ว่าเป็นละครเวทีที่นักล่าฝันเอเอฟแสดง หรือไม่ใช่แฟนคลับแล้วคงไม่น่าสนใจ เพราะจริงๆ น้องๆ ที่มาร่วมแสดงทุกคนมีความสามารถ อยากให้เปิดใจให้กว้าง

 "เมืองนอกเวลาเขาเลือกคนที่จะแสดงละครเวที เขาจะเลือกคนลักษณะเหมือนน้องๆ นี่แหละ คือร้องเพลงได้ แอ็กติ้งได้ โดยไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าเป็นดาราหรือเปล่า แต่เผอิญน้องๆเอเอฟเขาเป็นดาราด้วยมันก็ยิ่งดี แฟนๆ ทั่วไปหากเปิดใจให้กว้าง ผมเชื่อว่ามาดูแล้วได้ของดีกลับไปแน่นอน

 ส่วนแฟนเพลงเฉลียงก็จะได้ดูเฉลียงในรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่การฟังเพลง แต่อย่างที่บอกก็ต้องเปิดใจกว้าง อย่าไปยึดติดว่าต้องเป็นแบบเดิม เพราะนี่คือเฉลียงในรูปแบบใหม่ ที่สำคัญพี่จิกเป็นคนมาดูแลดนตรีในละครเวทีเรื่องนี้เองด้วย แฟนๆ เฉลียงน่าจะชื่นใจนะ แต่ถ้าใครเป็นคนยึดติดกับสิ่งเก่าๆ เราก็คงไปช่วยอะไรไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาดู คงไม่เหมาะกับเขา เพราะโครงของเรื่องก็พูดถึงการเปิดใจให้กว้างด้วย"

 สำหรับจุดเด่นของละครเวทีเรื่องนี้ สังข์ บอกว่าเป็นการมองโลกอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานที่โต๊ะกลมตั้งใจทำออกมาทุกครั้ง

 "โต๊ะกลมเหมือนเป็นเด็กที่ได้รับการหล่อหลอมมาอีกแบบหนึ่ง การมองโลกด้วยอารมณ์ขัน ซึ่งทั้งหมดก็จะอยู่ในงานที่ทำออกมา เช่นเดียวกันในละครเวทีเรื่องนี้สิ่งที่เราบอกเป็นสิ่งที่ซีเรียสมากเลย แต่การบอกของเราเป็นการบอกด้วยอารมณ์ที่ดี ถามว่าไปดูแล้วจะได้อะไรบ้าง ก็ต้องลองไปดู เพราะคงบอกไม่ได้ แต่แน่นอนความบันเทิงต้องได้แน่ๆ คนที่จะดู ผมว่าอย่าคิดอะไรมาก ถ้าคิดมากจะไม่ได้ทำ อยากดูก็ดู ไม่อยากดูก็ไม่ต้องดูเลยแค่นั้น

 เมื่อถามความเห็นถึงตลาดละครเวทีในบ้านเราทุกวันนี้ บิ๊กบอสคนเดิมให้ความเห็นว่า
 "ละครเวทีบ้านเราคึกคักดี รู้สึกดีใจที่เป็นอย่างนี้ อยากให้เป็นไปเรื่อยๆ แต่จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ได้ ต้องมีความหลากหลาย มันจะไม่สามารถเดินต่อไปได้ หากมีละครเวทีออกมาแบบเดียวตลอดไป คนดูเองก็ต้องเปิดใจ ยอมรับว่าสิ่งที่แตกต่าง เช่น การไม่ร้องเพลง การออกมาเล่นกันแค่ 2 คน ก็เป็นละครเวทีเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าต้องเป็นละครเวทีขนาดบิ๊กเท่านั้นถึงจะดู"

 "เดอะ เลเจนท์ ออฟ เร่ขายฝัน เฉลียง เดอะ มิวสิคัล" จะเปิดทำการแสดงในวันที่ 2-18 ตุลาคมนี้ ณ เอ็มเธียเตอร์ ถนนเพชรบุรี จำหน่ายบัตรทาง www.we-booking.com หรือโทร. 0-2900-9999 กด 4