
รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง Someone Like You: ตอนจบ
‘เฉินหยู่ซี’ ฟื้นขึ้นมาพบซีดีงานแต่งงานของเธอกับ ‘ฟางจ่านเฉิง’
รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง Someone Like You: ตอน 33 จบ
ซีรีส์ไต้หวัน Someone Like You: รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 น. / 01.00 น. ทางช่อง NOW26
กลางดึก เฉินหยู่ซีรู้สึกตัวขึ้น เธอค่อยๆ ลุกขึ้น มองรอบๆ ห้อง แล้วมองฟางจ่านเฉิง เธอเห็นแหวนที่นิ้วนางตัวเอง เธอมองไปที่มือฟางจ่านเฉิงก็พบแหวนที่นิ้วนางเช่นกัน
เฉินหยู่ซีลุกขึ้นเอาผ้าห่มให้ฟางจ่านเฉิงแล้วเธอก็ลุกออกจากห้องไป
เฉินหยู่ซีมาดูวีซีดีงานแต่งงานของเธอกับฟางจ่านเฉิง
แม่ฟางจ่านเฉิงกล่าวว่า “จ่านเฉิงเขาเตรียมตัวพร้อมแล้ว”
พ่อเซี่ยเฟยเฟยว่า “งั้นเริ่มได้”
“เขาเตรียมตัวพร้อมแล้ว พร้อมจะให้ความสุข และความรักเธอตลอดไป”
พ่อเซี่ยเฟยเฟยเห็นด้วย “ใช่ๆ”
แม่ฟางจ่านเฉิงบอกเฉินหยู่ซี “หยู่ซีรีบตื่นขึ้นมานะ”
พ่อเซี่ยเฟยเฟยเอ่ยต่อ “พยายามเข้านะ ตื่นมาแล้วอย่าลืมกินผัดคะน้า กับน้ำแกงไก่เยอะๆ สร้างเซลล์ที่แข็งแรงต่อไป สรุปคืออวยพรให้พวกเธอ พยายามเข้านะ”
เฉินหยู่อันมองทางพี่สาว “พี่ ยินดีด้วยครับ”
เสิ่นเวยเหลียนบอก “หยู่อัน มองกล้องสิ”
เฉินหยู่อันหันมาทางกล้อง “อ้อ พระเจ้ามอบความรักและเมตตาให้พี่และพี่จ่านเฉิง”
เซี่ยเฟยเฟยบอกต่อว่า “หยู่ซี เธอต้องดูพี่ชายฉันให้ดีๆ ห้ามรังแกเขานะ”
หวางเสี่ยวหลินกล่าวต่อ “หยู่ซี แต่งงานแล้วห้ามเอาแต่สนใจสามีจนลืมเพื่อนอย่างฉันนะ พวกเรายังต้องเป็นเหมือนเมื่อก่อนออกไปกินข้าวด้วยกัน อ้อ ฉันจะดูหนังผีเป็นเพื่อนเธอก็ได้ ดังนั้น เธอรีบตื่นมานะ จะต้องมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุข”
ถึงเสิ่นเวยเหลียนก็ยิ้มทะเล้น “คุณเลขา เออ คุณเลขา คุณนายผู้จัดการใหญ่ ฉันมอบความสุขของเพื่อนรักไว้ในมือเธอ เธอต้องฟื้นขึ้นมาเร็วๆ เร็วๆ นะ”
หวางเสี่ยวหลินบอกต่อ “รีบตื่นขึ้นมานะ”
เสิ่นเวยเหลียนเห็นด้วย “ใช่”
สวีหย่าถีอวยพรต่อ “หยู่ซี เธอต้องรีบตื่นขึ้นมา พวกเราจะทำคำอธิษฐานให้เป็นจริงด้วยกัน รู้หรือเปล่า”
หวางอี้เจินสะอื้น “ลูกต้องรีบตื่นขึ้นมา ลูกรู้มั้ยว่าตอนใส่ชุดแต่งงานลูกสวยแค่ไหน แม่มีความสุขแทนลูกเหลือเกิน”
บาทหลวงกล่าว “คุณฟางจ่านเฉิง คุณเต็มใจรับคุณเฉินหยู่ซีเป็นภรรยาของคุณ ต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าและสักขีพยานทุกคน ให้คำสัญญาจะรัก และทนุถนอมเธอ ให้เกียรติเธอ ดูแลเธอ ปกป้องเธอ ตราบจนสิ้นลม”
ฟางจ่านเฉิงตอบ “ผมเต็มใจ”
เฉินหยู่ซีมองภาพแล้วก็ตอบพร้อมด้วย “ฉันก็เต็มใจ”
“เอาละครับ เชิญแลกแหวนแต่งงานได้”
ฟางจ่านเฉิงที่หยิบแหวนแล้วกล่าวกับเฉินหยู่ซี “ผม ฟางจ่านเฉิง ขอใช้แหวนนี้เป็นพยาน ขอสัญญาชั่วชีวิตนี้ จะรักผู้หญิงคนนี้ เฉินหยู่ซี ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ร่ำรวย หรือยากจน แข็งแรงหรืออ่อนแอ จะรักเธอ ทนุถนอมเธอ ยกย่องเธอ ดูแลเธอ ให้ความสุขกับเธอ ตราบจนสิ้นลม”
เฉินหยู่ซีมองภาพทีวีแล้วพูดตาม “จะรักเธอ ทนุถนอมเธอ ยกย่องเธอ ดูแลเธอ ให้ความสุขกับเธอ ตราบจนสิ้นลม” เฉินหยู่ซีสะอื้นกดค้างที่ภาพฟางจ่านเฉิง “ฉันได้ยินแล้ว ฉันได้ยินแล้ว ฉันได้ยินหมดแล้ว”
ฟางจ่านเฉิงตื่นขึ้นมาไม่เห็นเฉินหยู่ซีก็ตกใจ เขาเดินออกมาเห็นเฉินหยู่ซีนั่งริมน้ำ เขาน้ำตาไหลดีใจ เขาเช็ดน้ำตาแล้วเดินมานั่งข้างๆ เฉินหยู่ซี จับมือกันไว้
“หยู่ซี”
เฉินหยู่ซีมองฟางจ่านเฉิง “ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนอนฝันไป พวกเรา แต่งงานกันแล้วใช่มั้ยคะ”
“ใช่สิ ตอนนี้เธอเป็นภรรยาฉันแล้ว” ฟางจ่านเฉิงสะอื้นกอดเฉินหยู่ซีไว้ “หยู่ซี ขอบใจที่เธอตื่นขึ้นมา ขอบใจที่เธอกลับมาอยู่ข้างกายฉัน”
ฟางจ่านเฉิงนั่งที่โต๊ะอาหาร เฉินหยู่ซีถือเค้กพร้อมร้องเพลงวันเกิดให้
“Happy birth day to you happy birth day to you happy birth day happy birth day to you สุขสันต์วันเกิดค่ะ”
ฟางจ่านเฉิงยิ้ม “ขอบใจนะ”
“ก่อนนี้คิดจะทำขนมเค้กให้คุณเอง แม้จะสายไปหน่อย ขอโทษนะคะ ไม่ได้เตรียมของขวัญวันเกิดให้คุณ”
“เธอฟื้นขึ้นมาได้ ก็เป็นของขวัญอันดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว”
เฉินหยู่ซียิ้ม “รีบอธิษฐานคะ อธิฐานอะไรต้องพูดออกมาสิคะ”
“คำอธิฐานข้อแรก คือหวังว่าคนที่อยู่ข้างกาย จะมีสุขภาพแข็งแรงปลอดภัย คำอธิฐานข้อที่สอง หวังว่าพวกเราจะมีความสุขตลอดไป คำอธิฐานข้อที่สาม”
“แอบบอกฉันหน่อยสิคะคำอธิฐานข้อที่สามคืออะไร”
“ไม่ได้ เป็นความลับ”
“บอกฉันหน่อยน่า พวกเราแต่งงานกันแล้วยังจะมีความลับอะไรกันอีก” ฟางจ่านเฉิงจูบเธอไม่ให้พูด “สุขสันต์วันเกิด”
“ขอบใจนะ”
“เป่าเทียนค่ะ ตัดเค้กสิคะ”
ฟางจ่านเฉิงทำตามแล้วบอกว่า “ฉันอยากกินสตอเบอรี่”
เฉินหยู่ซีหัวเราะ “รู้ว่าคุณชอบกินสตอเบอรี่”
“มาฉันป้อน” ฟางจ่านเฉิงกับเฉินหยู่ซีรู้สึกมีความสุข
ที่บ้านเฉินหยู่ซี หวางอี้เจินกับเฉินหยู่อันเปลี่ยนหลอดไฟกัน
หวางอี้เจินถาม “ติดแล้วยัง”
เฉินหยู่อันตอบ “ติดแล้วแม่”
“งั้นดี ระวังหน่อยระวังหน่อย”
“ครับ แบบนี้ไม่น่ามีปัญหา”
“อืม ดีจริงๆ ที่มีเธอ”
เฉินหยู่ซีที่อยู่หน้าบ้านพร้อมฟางจ่านเฉิงและสวีหย่าถี
“แม่” เฉินหยู่ซีเรียก
หวางอี้เจินได้ยินก็แปลกใจถามเฉินหยู่อัน “แกเรียกแม่เหรอ”
เฉินหยู่อันงง “ไม่นี่ครับ”
เฉินหยู่ซีเดินมากอดหวางอี้เจินร้องไห้ “แม่”
หวางอี้เจินร้องไห้ “แม่คิดถึงแกมาก”
“ขอโทษนะคะ ที่ทำให้เป็นห่วง”
หวางอี้เจินพาทุกคนมาไหว้เจ้าแม่
“ขอบคุณเจ้าแม่ ขอบคุณที่คุ้มครองหยู่ซีของลูกให้ฟื้นขึ้นมาได้ ลูกขอบคุณเจ้าแม่จากใจจริง ขอบคุณที่คุ้มครองเธอ ต่อไปเธอจะต้องมีความสุข สุขภาพแข็งแรง มา”
ฟางจ่านเฉิงส่งธูปให้ “ขอบคุณครับแม่”
สวีหย่าถีหันมาบอกเฉินหยู่ซี “หยู่ซี เธอกับแม่เฉินสนิทกันจังเลย น่าอิจฉาเนอะ”
“หย่าถี แม่เฉินมีความคิดเรื่องหนึ่ง เธออยากจะฟังดูมั้ย”
“ค่ะ แม่เฉินพูดได้เลยค่ะ”
“ฉันคิดว่าถ้าเธอเห็นด้วย แม่คิดจะรับเธอเป็นลูกบุญธรรม”
สวีหย่าถีดีใจ “แม่เฉิน”
“แม่ชอบเธอมากจริงๆ แล้วเธอยังเป็นพี่น้องกับหยู่ซี ถ้าหากว่า มีทั้งเธอกับหยู่ซีเป็นลูกของแม่จริงๆ แม่จะดีใจมากเลย”
เฉินหยู่ซีรีบบอก “นั่นสิ แบบนี้พวกเราก็เป็นพี่น้องกันจริงๆ หย่าถีเธอตกลงเถอะนะ”
สวีหย่าถียิ้ม “อืม”
เฉินหยู่ซีเอาเก้าอี้ให้หวางอี้เจินนั่ง
หวางอี้เจินงง “ทำอะไรน่ะ”
เฉินหยู่ซีว่า “นั่ง เอ้า”
สวีหย่าถีเองก็แปลกใจ “นี่มัน”
เฉินหยู่ซีรินน้ำชามาให้สวีหย่าถี ฟางจ่านเฉิงมองเฉินหยู่ซียิ้มๆ ในความเจ้ากี้เจ้าการของเธอ
หวางอี้เจินว่า “ยกน้ำชา ยกน้ำชาให้แม่บุญธรรม”
สวีหย่าถียกน้ำชาให้ “แม่เฉินเชิญดื่มน้ำชา”
“เอ๊ะๆ แม่เฉินอะไรกัน ต้องเรียกคุณแม่สิ”
“คุณแม่ดื่มน้ำชา”
“ดี แม่ดื่มชาแล้วนะ”
เฉินหยู่ซียิ้มดีใจ “พี่ หยู่อัน มา มาเรียกพี่ใหญ่”
เฉินหยู่อันเข้ามาเรียก “พี่ใหญ่”
เฉินหยู่ซีบอกต่อว่า “ต่อไปเรียกฉันว่าพี่รอง รู้มั้ย”
เฉินหยู่อันเรียกตาม “พี่รอง”
ที่สถานเลี้ยงเด็ก เฉินหยู่อันกับเซี่ยเฟยเฟยกำลังแสดงนิทานกับเด็กๆ
เด็กหญิงคนหนึ่งเล่า “มีวันหนึ่งสาวน้อยเบลล์เดินทางมาถึงป่าใหญ่ เห็นปราสาทหลังใหญ่หลังหนึ่ง”
เซี่ยเฟยเฟยเดินมาที่ปราสาท “โห ปราสาทหลังใหญ่จังเลย ข้างใน มีคนอยู่มั้ยคะ”
“เธอเดินไปเดินไป ก็เห็นดอกไม้สวยงามมากมาย”
เซี่ยเฟยเฟยทำเสียงตื่นเต้น “ว้าว ที่นี่มีดอกไม้สวยงามอยู่มากมาย เธอคือดอกไม้อะไร”
“ดอกกุหลาบ”
เซี่ยเฟยเฟยถามต่อ “แล้วเธอล่ะ เป็นดอกไม้อะไร”
“ฉันคือดอกบัว”
เซี่ยเฟยเฟยถามอีก “ดอกบัว แล้วเธอเป็นดอกไม้อะไร”
“ฉันคือทานตะวัน”
“ทานตะวันสวยจังเลย”
แล้วเซี่ยเฟยเฟยก็เห็นช่อดอกไม้คล้ายกับตอนแต่งงานของฟางจ่านเฉิงกับเฉินหยู่ซีอยู่กลางดอกไม้อื่น
เซี่ยเฟยเฟยเสียงดัง “ว้าว ที่นี่มีดอกไม้สวยงามขนาดนี้ ขอบใจนะ ขอบใจเจ้าของปราสาทแห่งนี้”
กลุ่มเด็กตบมือ “เธอหาดอกไม้พบแล้ว เธอหาดอกไม้พบแล้วๆๆ ใช่แล้ว หาดอกไม้เจอแล้ว”
“เบลล์เห็นเดอะบีสต์นอนหายใจรวยรินจึงกอดเขาด้วยความเสียใจ”
เซี่ยเฟยเฟยเข้ามาหาเฉินหยู่อันที่นอนอยู่ “เธอเป็นอะไรไปน่ะ เธอตื่นมาสิ”
“เบลล์มองเดอะบีสต์อย่างอาลัยอาวรณ์ จากนั้นจูบเขาเป็นการล่ำลา”
เซี่ยเฟยเฟยทำเสียงเศร้า “ลาก่อนนะเดอะบีสต์”
เซี่ยเฟยเฟยจับศีรษะเฉินหยู่อันแล้วค่อยๆ ก้มลงจะจูบ แต่เฉินหยู่อันจูบเธอก่อน
กลุ่มเด็กโวย “ผิดแล้วพี่หยู่อัน เป็นเบลล์ที่จูบเดอะบีสต์ ไม่ใช่เดอะบีสต์จูบเบลล์”
เซี่ยเฟยเฟยปล่อยเฉินหยู่อันหัวโขกเลย “โอ๊ย”
“จริงด้วย นิทานไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย ต้องเป็นเบลล์ที่จูบเดอะบีสต์ ไม่ใช่เดอะบีสต์จูบเบลล์สักหน่อย อีกอย่างเฉินหยู่อัน ใครบอกให้เธอขโมยจูบฉัน” เซี่ยเฟยเฟยโวยบ้าง
เฉินหยู่อันเสียงดัง “ความมหัศจรรย์ปรากฏขึ้นมาในชั่วพริบตา เดอะบีสต์ฟื้นชีพมาแล้ว ผมรับผิดชอบเอง” เฉินหยู่อันกระซิบบอกเซี่ยเฟยเฟย “เด็กๆ ในโบสถ์มีของว่างกับไอติมเยอะเลย พวกเธอรีบเข้าไปกินกันดีหรือเปล่า”
“ดี ไปกินไอติม” เด็กๆ วิ่งไปเลย
เซี่ยเฟยเฟยเอาเรื่องเฉินหยู่อัน “เฉินหยู่อัน เธอพูดว่าจะรับผิดชอบ หมายความว่ายังไง”
เฉินหยู่อันอึกอัก “เออ”
“ทำไมต้องแอบจูบฉันด้วย”
เฉินหยู่อันรวบรวมความกล้าตอบว่า “อืม คือว่า ผม เป็นเพราะ ห้าม ผมห้ามใจไม่ได้”
“ฉันก็ด้วย” เซี่ยเฟยเฟยจูบเฉินหยู่อันเลย
00000000000000
ที่โรงพยาบาล วาเนสซารอตรวจครรภ์อยู่ เธอมองครอบครัวอื่นแล้วก็สะท้อนใจ คิดถึงหลี่โป๋เยี่ยน ฟางจ่านเฉิงกับเฉินหยู่ซีเข้ามาหา วาเนสซามองเฉินหยู่ซีแปลกใจมาก
“เฉินหยู่ซี เธอฟื้นแล้วหรือ ดีจังเลย ถ้าโป๋เยี่ยนรู้เข้า จะต้องดีใจมาก”
เฉินหยู่ซีจับมือวาเนสซา “วาเนสซา ให้ฉันเข้าห้องตรวจเป็นเพื่อนคุณได้มั้ย” วาเนสซานิ่งมองฟางจ่านเฉิง “คุณไม่พูดอะไร ฉันถือว่าคุณตกลงแล้วนะ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง จ่านเฉิงกับฉัน อยากจะเป็นพ่อและแม่บุญธรรมของเด็กในท้องคุณ ได้มั้ยคะ”
ฟางจ่านเฉิงบอกวาเนสซาว่า “ผมกับหยู่ซีหวังว่าเขาจะได้ความรักที่อบอุ่น เติบโตขึ้นอย่างมีความสุข เพื่อให้โป๋เยี่ยนจากไปอย่างมีห่วงใดๆ”
วาเนสซายิ้มดีใจ “ขอบคุณนะ ขอบคุณพวกคุณมาก”
ที่ร้านสปา ฟางจ่านเฉิงกับเฉินหยู่ซีพาหวางอี้เจินมาใช้บริการ หวางอี้เจินเห็นก็เสียดายเงิน
“แบบนี้ใช้เงินมากไปไม่ดีหรอกมั้ง แม่ว่าช่างเถอะ”
เฉินหยู่ซีว่า “แม่ นี่เป็นความต้องการของลูกเขยแม่ แม่จะให้จ่านเฉิงผิดหวังได้ยังไง”
ฟางจ่านเฉิงรีบบอก “ใช่ครับแม่ แม่คงไม่ให้ผมผิดหวังหรอกนะ”
หวางอี้เจินอึกอัก เฉินหยู่ซีจัดการเลือกให้เลย
เฉินหยู่ซีกับหวางอี่เจินเข้ามานอนนวดตัว หวางอี้เจินชอบรู้สึกสบาย
เฉินหยู่ซีว่า “ถ้าหากแม่ชอบ ครั้งหน้าเรามาใหม่นะ”
“เออ ดีสิ เรียกแม่ฟางจ่านเฉิงมาด้วยนะ พวกเรามาคุยกันบ่อยๆ จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น”
“ได้เลยแม่”
“เออ จริงสิ เฟยเฟยโทรมาหาแม่ บอกว่าตอนนี้คบกับหยู่อันแล้ว”
เฉินหยู่ซีดีใจกับน้อง “ดีจังเลย”
“แม่ก็รู้ว่ามันดี แต่แม่อยากจะบอกว่า รีบให้พวกเขาสองคนแต่งงานกันดีมั้ย”
เฉินหยู่ซีตกใจ “แต่งงาน? ไม่เร็วไปหน่อยหรอคะ”
“ไม่หรอกน่า แม่ว่าเฟยเฟยน่ารักจะตาย น้องชายแกอย่างกับท่อนไม้ แม่ก็เลยกลัวว่า ถ้าปล่อยนานไปเกิดอะไรขึ้นมาแย่เลย โอ๊ย”
“ก็จริงนะ”
“ถ้าอย่างนั้น แม่ให้แกไปจัดการแล้วกัน”
เฉินหยู่ซีผงกหัวขึ้นทันที “ห๊าให้หนูจัดการ เพราะอะไร”
“ก็แกเป็นพี่สาวไม่ให้แก แล้วจะให้ใครทำ”
“ก็แม่เป็นแม่ แม่ควรจะทำสิคะ ให้หนูทำทำไม”
“โธ่เอ๊ย ถ้าฉันพูดเขาจะรู้สึกกดดัน”
“หนูพูดแล้วไม่กดดันหรอ แม่พูดนั่นแหละ”
“บอกว่าแม่ให้แกไปพูดก็ได้”
“งั้นก็เหมือนกับแม่เป็นคนพูดเองนั่นแหละ แม่พูดเถอะ”
“ยังไงแกไปพูดก็ดีกว่าน่า”
“ไม่เอาแม่พูดเถอะ”
“เงียบๆ ได้แล้วสบายเหลือเกิน”
ที่บ้านเฉินหยู่ซี หวางอี้เจินนั่งอยู่กับเฉินหยู่ซีและเซี่ยเฟยเฟย
เฉินหยู่อันนำชามาให้ “มาดื่มชาก่อน”
หวางอี้เจินบอกลูกชาย “เออ หยู่อันเธอไปซื้อขนมปังมาสิ พวกเราจะไว้กินพรุ่งนี้เช้า”
“ได้”
เซี่ยเฟยเฟยขอไปด้วย “ฉันไปด้วย”
หวางอี้เจินรีบห้าม “นี่ เฟยเฟย จะบอกให้นะ ตอนนี้ผู้ชายบริการเราบ้าง ตอนนี้เป็นเวลาของผู้หญิง มาๆๆ พวกเรามานั่งคุยกันต่อ ให้เขาไปก็พอแล้ว”
เซี่ยเฟยเฟยบอกเฉินหยู่อันอย่างเป็นห่วง “อ้อ งั้นเธอระวังด้วยนะ”
“ได้ งั้นผมไปก่อนนะ”
“อือ ได้” หวางอี้เจินกระซิบเฉินหยู่ซี “นี่แกพูดสิ”
เฉินหยู่ซีกระซิบตอบ “แม่เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านนี้แม่พูดสิ พูดสิ”
หวางอี้เจินตั้งใจ “เอาล่ะๆ เฟยเฟย เธอก็รู้ว่าหยู่อันเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด มีเรื่องอะไรก็เก็บไว้ในใจ เธอรู้ใช่มั้ย ดังนั้นป้าเลยอยากจะพูดอะไรแทนเขา เขาชอบหนูจริงๆ นะ ดังนั้นนะ ป้าอยากจะบอกว่า แบบนี้นะ แต่ว่ายังไงต้องให้หนูเต็มใจด้วยถึงจะได้” หวางอี้เจินอึกอัก “เออ แบบว่า ก็คือว่า เขา น่ะ คือแบบว่า เออ หนูก็รู้ดี” หวางอี้เจินหัวเราะ
เฉินหยู่ซีทนไม่ไหวโพล่งออกมา “โธ่เอ๊ย แม่ฉันอยากจะถามเธอว่าเต็มใจจะแต่งงานกับหยู่อันหรือเปล่า”
หวางอี้เจินบ่นลูกสาว “ฉันก็บอกแล้วให้แกพูด ไง”
“ก็หนูอดไม่ได้นี่”
“เอาล่ะ ว่ายังไง” หวางอี้เจินถามเซี่ยเฟยเฟย
เซี่ยเฟยเฟยยิ้ม “ได้ค่ะ”
หวางอี้เจินกับเฉินหยู่ซีตาโต “จริงหรอ”
“อืม หนูเต็มใจแต่งงานกับหยู่อัน”
หวางอี้เจินกระซิบ “เธอเปิดเผยมาก”
เฉินหยู่ซีตอบ “ตรงไปตรงมาด้วย”
หวางอี้เจินดีใจ “งั้นก็ดีมากๆ”
เฉินหยู่ซีดีใจกับน้อง “นั่นสิ หยู่อันจะต้องดีใจแน่”
ที่ห้างสรรพสินค้า ทำพิธีเซ็นสัญญาของฟางจ่านเฉิงกับวาเนสซาพร้อมด้วยเสิ่นเวยเหลียน พิธีกรกล่าว
“คู่แข่งการค้ากลายเป็นพันธมิตร ธุรกิจสรรพสินค้าจะพลิกโฉมใหม่ เป็นที่รู้กันว่าไจแอนด์กับเกาเติงแข่งขันกันมานานหลายปี ตอนนี้ภายใต้การนำของผู้จัดการใหญ่สองฝ่ายได้นำหุ้นของไจแอนด์และเกาเติงกับร้านในเครือเข้ามารวมกันกลายเป็นคู่พันธกิจ การจับมือกันครั้งนี้เท่ากับหย่อนระเบิดใส่ธุรกิจสรรพสินค้าทั่วเกาะไต้หวัน มีแนวโน้มว่าธุรกิจสรรพสินค้าทั่วประเทศจะต้องหาแนวคิดในการดำเนินงานแบบใหม่เพื่อรับมือกับคู่ยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้”
เสิ่นเวยเหลียนกล่าว “ยินดีด้วยครับ”
วาเนสซายิ้ม “ขอบคุณค่ะ”
สื่อพากันถ่ายรูปฟางจ่านเฉิง วาเนสซาและเสิ่นเวยเหลียน
ยามค่ำคืน ฟางจ่านเฉิงพาเฉินหยู่ซีมาที่หลังบ้าน แล้วจับมือเธอถอดแหวนออก
“พาฉันมาหลังบ้านทำไมคะ เอ๊ะ” เฉินหยู่ซีตกใจจะไม่ยอมให้ถอดแหวน “คุณจะทำอะไร ตอนนี้คิดเสียใจ จะคืนสินค้าก็ไม่ทันแล้วนะ”
ฟางจ่านเฉิงว่า “เธอเป็นคนที่ฉันจะทนุถนอมไปตลอดชิวิต ไม่เสียใจ ไม่คืนสินค้าแน่นอน”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมต้องถอดแหวนแต่งงานด้วยล่ะ”
“เพราะว่า ฉันอยากจะขอแต่งงานเธอเต็มรูปแบบ” ฟางจ่านเฉิงกดรีโมท ทันใดนั้นก็มีดาวตก
เฉินหยู่ซีตื่นเต้น “ว้าว สวยจังเลย เหมือนเด็ดดาวตกมาไว้ตรงนี้”
“หยู่ซี เธอรู้มั้ย ว่าทำไมพวกเราต้องอธิฐานกับดาวตก” เฉินหยู่ซีส่ายหน้า “เพราะดาวตกมักเกิดขึ้นกะทันหัน แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่มีแสงอยุ่ในเวลาน้อยนิด หากอธิฐานได้แล้วก็อาจเป็นความจริงได้”
“งั้นตอนนี้มีดาวตกมากมาย พวกเรา ก็อธิฐานเอาไว้หลายๆ ข้อ”
“แต่ว่าคำอธิฐานที่ฉันต้องการมีอยู่แค่อย่างเดียว”
“อะไรคะ”
ฟางจ่านเฉิงคุกเข่า ชูแหวนขึ้น เฉินหยู่ซีถึงกับน้ำตาซึมซาบซึ้งใจ
“เธอยินดี จะแต่งงานกับฉันมั้ย เป็นความสุขเพียงสิ่งเดียว ในชีวิตของฉัน เธอก็อยากขอฉันแต่งงานงั้นหรือ”
เฉินหยู่ซีพยักหน้ายิ้มแล้วยื่นมือให้สวมแหวน เฉินหยู่ซีถอดแหวนฟางจ่านเฉิงออกบ้าง
“ฉัน เฉินหยู่ซี ขอใช้แหวนนี้เป็นพยาน ขอสัญญา ชั่วชีวิตนี้ จะรักผู้ชายคนนี้ ฟางจ่านเฉิง ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ร่ำรวย หรือยากจน แข็งแรงหรืออ่อนแอ จะรักเขา ทนุถนอมเขา ยกย่องเขา ดูแลเขา ให้ความสุขกับเขา ตราบจนสิ้นลม คุณก็เป็นความสุขของฉัน ตลอดกาล เป็นเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น” ฟางจ่านเฉิงยิ้มทั้งสองจูบกัน
วันต่อมาฟางจ่านเฉิงกับเฉินหยู่ซีจัดเลี้ยงฉลองแต่งงานกันเล็กๆ ที่บ้าน ท่ามกลางความสุขของทุกคน
พ่อเซี่ยเฟยเฟยเรียก “มาทุกท่าน แขกที่อยู่ในที่นี้ทุกท่าน รวมทั้งครอบครัวของผม มา คุณเดินมานี่สิ ตอนนี้ขอให้พวกเราดื่มเพื่ออวยพรให้กับคู่แต่งงานของเราในวันนี้ จ่านเฉิง และหยู่ซี มีความสุขมากๆ”
“เย้ ยินดีด้วยๆ ยินดีด้วย”
“ยินดีกับบ่าวสาว แล้วก็ยังมีข่าวดีอีกข่าวหนึ่ง ก็คือข่าวดีของเฟยเฟยของเรากับหยู่อัน ใกล้จะมาเร็วๆ นี้แล้ว” พ่อเซี่ยเฟยเฟยกล่าวยิ้มแย้ม
เสิ่นเวยเหลียนแซว “วู้ ยินดีด้วยยินดีด้วย งานมงคลคู่เชียว”
เฉินหยู่ซีหันมาบอกสวีหย่าถี “หย่าถี ขอบใจเธอมากเลยนะ ที่ช่วยทำขนมเค้กแต่งงานที่สวยขนาดนี้ให้”
“สามารถทำขนมเค้กแต่งงานที่มีความสุขให้น้องสาวได้ ฉันก็มีความสุขมาก” สวีหย่าถียิ้มให้
ทุกคนพากันชกแก้วแล้วดื่มฉลอง
แม่ฟางจ่านเฉิงถาม “จริงสิ จ่านเฉิน พวกเธอจะไปฮันนีมูนกันที่ไหน ตกลงกันหรือยัง”
“ผมกับหยู่ซีคุยกันแล้ว”
พ่อเซี่ยเฟยเฟยสอนต่อ “นี่ การไปฮันนีมูนนี่มีความสำคัญมาก ต้องวางแผนให้ดีๆ โดยเฉพาะตารางเวลาอย่าได้เร่งรีบ พวกเธอทั้งสองคนจะได้ค่อยๆ ซึบซับกับบรรยาการฮันนีมูนอันหวานชื่นและสบายใจ แบบนี้จะได้มีหยู่ซีน้อยกับจ่านเฉิงน้อยออกมาเร็วๆ พวกเราจะได้....ใช่” พ่อหัวเราะ เฉินหยู่ซีเขินหลบอยู่ข้างฟางจ่านเฉิง
หวางอี้เจินดุยิ้ม “จะอายไปทำไม แต่งงานก็เพื่อมีลูกมีหลาน”
พ่อเซี่ยเฟยเฟยหัวเราะ “ใช่ๆ มีลูกแฝด”
แม่ฟางจ่านเฉิงว่า “ถูกต้อง พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอจ๊ะ”
เซี่ยเฟยเฟยดุพ่อ “พ่อ การมีลูกไม่ใช่เรื่องคนๆ เดียว ทุกคนเอาแต่ถามหยู่ซี พี่ก็ต้องรับผิดชอบด้วย”
“หนูอย่าประมาทพี่เขา เห็นเขาผอมๆ แบบนี้ ถอดเสื้อมีแต่กล้ามทั้งนั้น เหมือนพ่อไง จะมีกี่คนก็ไม่มีปัญหา” พ่อเซี่ยเฟยเฟยหัวเราะ
เซี่ยเฟยเฟยสวน “พ่อรู้ได้ไงว่าพี่ถอดเสื้อแล้วมีกล้าม พ่อเคยเห็นหรอ”
“ไม่เคยพ่อเคยเห็นที่ไหนเล่า แต่หยู่ซีต้องเคยเห็น ไม่แน่ตอนเป็นพยาบาลคงจะเห็นไปแล้ว หา” พ่อหัวเราะ
เซี่ยเฟยเฟยตกใจ “พูดเล่นหรือเปล่า ไปเห็นตอนไหน”
เฉินหยู่ซีเขินมาก ฟางจ่านเฉิงเหล่มอง “หืม”
เฉินหยู่ซีรีบแก้ตัว “ไม่ใช่ ตอนนั้นฉันนึกว่าคุณจะกดกริ่งเรียก ก็เลยเข้าไป ฉันคิดว่า โธ่เอ๊ย ....” เฉินหยู่ซีเขินสุดๆ
เสิ่นเวยเหลียนแซว “หยู่ซีแอบดูงั้นสิ”
พ่อเซี่ยเฟยเฟยแก้เก้อให้ “ในจุดนี้พวกเราก็มาดื่มกันอีกแก้ว ดื่มกันอีกแก้ว ชนแก้วๆ”
ฟางจ่านเฉิงเต้นรำกับเฉินหยู่ซี ท่ามกลางความสุขของทุกคน
ที่ท่าเรือ ฟางจ่านเฉิงส่งกระเป๋าให้จอนห์เก็บไว้ในเรือ มีเสิ่นเวยเหลียน หวางเสี่ยวหลิน เฉินหยู่อันและเซี่ยเฟยเฟยมาส่ง
เสิ่นเวยเหลียนอวยพร “อวยพรให้พวกนายมีความสุขมากๆ”
ฟางจ่านเฉิงยิ้มตอบเพื่อน “ขอบใจ”
เฉินหยู่อันบอกพี่ทั้งสอง “พี่ พี่จ่านเฉิง ขอให้เดินทางให้สนุกนะครับ”
เสิ่นเวยเหลียนบอกทั้งสอง “จำคำของลุงเซี่ยให้ดีๆ นะ ฮันนีมูนกลับมา อย่าลืมพาจ่านเฉิงน้อยกับหยู่ซีน้อยกลับมาให้พวกเราดีใจด้วย”
เฉินหยู่ซีค้อน “เสิ่นเวยเหลียนน่าเกลียดที่สุด”
เสิ่นเวยเหลียนยังไม่ยอมหยุด “ขอแค่เสี่ยวหลินชอบก็พอแล้ว ใช่มั้ยเสี่ยวหลิน”
หวางเสี่ยวหลินยิ้ม “อืม ถูกต้อง”
เฉินหยู่ซีเหล่เพื่อนสาว “หวางเสี่ยวหลินมีแฟนแล้วลืมเพื่อนนะ”
ฟางจ่านเฉิงตัดบท “ได้เวลาแล้ว พวกเราเดินทางเถอะ”
หวางเสี่ยวหลินแซว “หยู่ซีเที่ยวให้สนุกนะ รีบพาเบบี้กลับมาด้วยนะ”
“หวางเสี่ยวหลินน่าเกลียดที่สุด ไปเถอะไปได้แล้ว” ฟางจ่านเฉิงกับเฉินหยู่ซีลงเรือกัน
เซี่ยเฟยเฟยตะโกน “พี่ดูแลหยู่ซีให้ดีๆ นะ”
บนเรือที่ล่องไปออกสู่ทะเล เฉินหยู่ซีส่งแก้วให้ฟางจ่านเฉิงที่ขับเรืออยู่
“คุณสอนฉันขับเรือได้มั้ยคะ”
“อยากขับเหรอ” ฟางจ่านเฉิงให้เฉินหยู่ซีจับพวงมาลัย “สองมือจับตรงนี้ แล้วมองไปข้างหน้า จะได้ไม่เมาเรือ”
“ได้ สนุกจังเลย”
“ขับได้หรือยัง”
“แต่ฉันยังเกร็งอยู่หน่อย”
“ไม่ต้องกลัวมีฉันอยู่ หยู่ซี ต่อไปชีวิตของพวกเราก็จะเป็นแบบนี้ เหมือนคนอยู่เรือลำเดียวกัน ช่วยกันบังคับทิศทางของเรือ ขอแค่สองคนร่วมมือกันจะไม่มีวันหลงทาง ดังนั้น”
“ดังนั้น จะต้องจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้ให้แน่น จะปล่อยมือไม่ได้เด็ดขาด”
“ไม่ปล่อยเด็ดขาด”
“แล้วจุดหมายพวกเราอยู่ที่ไหน”
“มุ่งหน้าไปดินแดนแห่งความสุข”
ฟางจ่านเฉิงกับเฉินหยู่ซีล่องเรือออกสู่ท้องทะเล
(จบ)