บันเทิง

รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง Someone Like You: 28

รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง Someone Like You: 28

03 ก.ค. 2559

'หลี่โป๋เยี่ยน' สัญญาว่าจะไม่หลอกเธออีก 'เฉินหยู่ซี' ว่า เรื่องบางเรื่องที่เคยสูญเสียไปแล้ว ไม่อาจกลับมาได้

รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง Someone Like You: 28

ซีรีส์ไต้หวัน Someone Like You: รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 น. / 01.00 น. ทางช่อง NOW26

    เฉินหยู่ซีกำลังเดินมา หลี่โป๋เยี่ยนดักหน้าเธอไว้ถามว่าเป็นอะไร
    “เปล่าค่ะ คุณมาหาฉัน มีอะไรหรือเปล่า”
    “ตอนนี้ผม เป็นผู้จัดการห้างคริสตัลแล้ว”
    เฉินหยู่ซีอึ้งไปนิด “ห้างคริสตัลเหรอ?”
    “อื้ม ผมบรรลุเป้าหมายในชีวิตแล้วของผมแล้ว และมีความสามารถมากพอ ที่จะปกป้องคุณ ดูแลคุณ ให้คุณมีชีวิตที่มีความสุขได้ ดังนั้น คุณกลับมาอยู่เคียงข้างผมได้ไหม”
    “ยินดีด้วย ความใฝ่ฝันเป็นจริงแล้ว ฉันเชื่อมาตลอดว่าคุณทำได้ แต่ว่า ระหว่างพวกเรา เป็นไปไม่ได้แล้ว”
    หลี่โป๋เยี่ยนจะเดินเข้าหาแต่เฉินหยู่ซีถอยหนีอีก “หยู่ซี ถ้าเพราะว่าเป็นเรื่องที่ผมทำกับคุณไว้ก่อนหน้านี้ ผมขอโทษจริงๆ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่าผมเย็นชากับคุณ หลอกใช้คุณ ทำร้ายคุณเท่าไหร่ ผมสัญญา จากนี้ ผมจะไม่หลอกใช้คุณอีกแล้ว”
    “มีเรื่องบางเรื่อง สูญเสียไปแล้ว ก็ไม่สามารถกลับมาอีก โป๋เยี่ยน ครั้งหน้า ถ้าคุณเจอคนที่สามารถ ทำให้คุณใจเต้นแรง อย่าทำผิดแบบนี้กับเธออีก คุณต้องมีความสุขแน่”
    “ความสุขของผม อยู่ในมือคุณ มีแค่คุณที่ให้ผมได้” หลี่โป๋เยี่ยนจับมือเฉินหยู่ซี
    แต่เฉินหยู่ซีคิดถึงคำพูดของฟางจ่านเฉิงที่ว่า “ผมจะเอาความสุขของผม ใส่ไว้ในมือของคุณ” 
    เฉินหยู่ซีจับมือเขาออกแล้วตอบว่า “ฉันให้ไม่ได้”
    “หยู่ซี คุณเคยรักผม นั่นก็หมายความว่า ในอนาคตคุณอาจจะ รักผมอีกครั้ง”
    เฉินหยู่ซีนั่งดูพวงโคมไฟที่ฟางจ่านเฉิงให้ไว้แล้วคิดถึงเขา ร้องไห้ออกมา
    “ขอโทษนะ ฉันให้ความสุขที่คุณต้องการไม่ได้”
    “ทำไมล่ะ”
    “แม่ แม่มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
    “แกนั่งเหม่อดูโคมไฟตั้งแต่เมื่อไหร่ แม่ก็มาตอนนั้นแหละ เกิดอะไรขึ้นเหรอ วันนั้นจ่านเฉิงมา เขาบอกว่าแม่ป่วยแม่ก็รู้สึกแปลกๆ เขาไปฟังผิดมาจากไหนกันนะ เอาล่ะ ในเมื่อลูกไม่อยากพูด แม่จะโทรไปถามเขาเอง”
    “แม่ อย่าทำแบบนี้สิ”
    “แกก็บอกแม่สิว่าทำไม”
    ด้านที่บ้านฟางจ่านเฉิง เสิ่นเวยเหลียนถามเพื่อนว่า
    “แม้แต่เรื่องที่นายพูดที่ร้านกาแฟ ก็เปลี่ยนใจหยู่ซีไม่ได้เลยเหรอ ยัยบ๊องนี่คิดอะไรอยู่กันแน่”
    ฟางจ่านเฉิงพยักหน้าแล้วตัดบท “เอาล่ะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว นายรีบกลับบ้านเถอะ”
    “ได้ เรื่องของหยู่ซีก็ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป นายไม่ต้องคิดมากไปหรอก แต่ว่า มีบางเรื่อง ที่ฉันยังไม่เข้าใจ หยู่ซีปกติเป็นคนดื้อรั้น แต่ครั้งนี้ ไม่มีท่าทีดื้อรั้นเลยนะ เอาล่ะ ไม่กวนนายละ รีบไปพักผ่อนเถอะ”
    ฟางจ่านเฉิงดูการ์ดที่เฉินหยู่ซีเคยทำให้แล้วก็คิดถึงที่เธอบอกเลิก ทั้งยังคำพูดเสิ่นเวยเหลียน
    “หยู่ซี แล้วครั้งนี้ เธอคิดเพื่อใครอีกล่ะ”
    ที่บ้านเฉินหยู่ซีเล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง พร้อมกับร้องไห้ออกมา 
    “หัวใจของลั่วหานจะได้เต้นต่อไป หย่าถีจะได้ดีขึ้น บอสเขา จะได้ไม่ต้องเสียใจเพราะเสียลั่วหานไปอีก ไม่ต้องเจ็บปวดอีก”
    “แกน่ะ ต้องโทษฉัน ที่สั่งสอนแกมาได้โง่ขนาดนี้”
    “คนโง่ก็ทำแต่เรื่องโง่ แบบนี้แหละค่ะ”
    “หยู่ซี ถ้าแม่บอกว่า แม่ไม่เห็นด้วยที่แกทำแบบนี้ล่ะ”
    “ทำไมคะ แม่ แม่เคยบอกไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าหนูจะตัดสินใจอะไร แม่ก็จะสนับสนุนหนู”
    “เพราะว่าตัดสินใจแบบนี้ แกจะไม่มีความสุข คนเป็นแม่ที่ไหนจะทนเห็นลูกตัวเองไม่มีความสุขได้ ไป”
    เฉินหยู่ซีร้องไห้ “แม่ แม่จะพาหนูไปไหน”
    “ไปหาจ่านเฉิง แม่ทนเห็นแกมานั่งเสียอกเสียใจคนเดียวแบบนี้ไม่ได้”
    เฉินหยู่ซีร้องไห้ “ไม่นะ ขอร้องนะคะแม่”
    “ทำไมแกเป็นแบบนี้ ทำไมแกปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้" หวางอี้เจินว่าต่อ “เพราะว่าลั่วหาน เป็นพี่สาวแกใช่ไหม แกก็เป็นซะอย่างนี้ เอาแต่ให้ความสำคัญกับคนอื่นเป็นอันดับแรก”
    เฉินหยู่ซีร้องไห้ “หนูแค่อยากให้ หัวใจของพี่ดีขึ้น หย่าถีจะได้ดีขึ้น หนูต้องการแค่นี้ ต้องการแค่นี้ก็พอ”
    “รู้ แม่รู้ดี แม่รู้ดี” หวางอี้เจินกอดปลอบ “โอ๋”
    หมอมาบอกสวีหย่าถีกับพี่เจียนว่าอาการไม่มีหวัง ต้องได้รับการปลูกถ่ายหัวใจอีกครั้ง ไม่มีวิธีอื่นแล้ว พี่เจียนจะโทรบอกพ่อสวีหย่าถี แต่เธอห้ามไว้ บอกว่าแม้แต่พี่เจียนเองเธอยังไม่อยากให้รับรู้เลย
    พี่เจียนฟังแล้วยิ่งจะร้องไห้ “ยัยเด็กคนนี้ เธอนี่มันจริงๆ เลย”
    “พี่เจียน ฟังหนูนะคะ คุณรู้ไหมคะ วันที่ต้องรอปลูกถ่ายหัวใจ หนูเป็นทุกข์มากจริงๆ ทุกวันเมื่ออาทิตย์ขึ้น ก็เริ่มมีความหวัง พออาทิตย์ตกก็เริ่มสิ้นหวังแบบนั้น ทรมานมากจริงๆ หนูก็เลยไม่อยากให้พ่อรู้”
    “จนถึงตอนนี้แล้ว เธอก็ยังคิดเพื่อคนอื่น”
    “พี่เจียน ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำใจมาตั้งนานแล้วค่ะ ฉันรู้ว่าหลังจากที่ปลูกถ่ายหัวใจแล้ว หนูจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิม แต่ว่าฉันไม่เคยคิดว่า มันจะเร็วแบบนี้”
    พี่เจียนร้องไห้ “ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ทำไม”
    สวีหย่าถีได้แต่คิดในใจ “ขอแค่หยู่ซี ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคุณฟาง ฉันก็วางใจแล้ว”
    หวางอี้เจินเปลี่ยนหลอดไฟแล้วตกลงมาร้องลั่น เฉินหยู่อันรีบเข้ามาดู พาแม่มานั่งประคบให้
    “ดีขึ้นบ้างไหมครับ ต่อไปนี้เรื่องแบบนี้ ต้องให้ผมทำนะครับ”
    “ฮะ? ให้ลูกทำน่ะเหรอ?” หวางอี้เจินหัวเราะ “ฮึๆ”
    “แม่ ผมมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอกแม่”
    หวางอี้เจินแปลกใจ “เรื่องอะไร”
    “ผมจะไม่ทำแล้วครับ”
    “ไม่ทำอะไร”
    “ผมจะไม่ เป็นบาทหลวงแล้วครับ”
    “ทำไมล่ะ ลูก เดี๋ยวนะ ไม่เป็นไรๆ เกิด เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า ลูกมีปัญหาอะไรก็บอกแม่ได้นะ ฮะ”
    “ไม่ใช่ครับ แม่ ขอโทษครับ ก่อนหน้านี้ผมทำแต่เรื่องที่ตัวเองอยากทำ ไม่ได้สนใจใส่ใจความรู้สึก ของแม่เลย มองข้ามแม่กับพี่ ที่ทำทุกอย่างเพื่อผมมาตลอด”
    “เสี่ยวอัน ถ้าเป็นเพราะว่าเรื่องเปลี่ยนหลอดไฟเมื่อกี้ล่ะก็ นั่นเป็นอุบัติเหตุ ลูกอย่าลาออกจากการเป็นบาทหลวงเพราะเป็นห่วงแม่เลย ทั้งๆ ที่ลูกพยายามมากแท้ๆ”
    “ผมคิดดีแล้วครับ ถ้าการที่ผมเป็นบาทหลวง แม่ต้องมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ งั้นผมก็ยอมล้มเลิก ผมเอาเปรียบแม่กับพี่แบบนี้ไม่ได้ ในใจของผม สำคัญที่สุดก็คือแม่กับพี่ ดังนั้น จากนี้หลอดไฟในบ้าน ผมเปลี่ยนเอง ถ้าของเสียหาย ผมซ่อมเอง จากนี้ถ้ามีเรื่องอะไร เรียกผมได้นะครับ”
    หวางอี้เจินจะร้องไห้ “งั้นหลังจากนี้ต้องพึ่งลูกแล้วล่ะ นะ”
    ฟางจ่านเฉิงมาหาเฉินหยู่ซีที่บ้าน หวางอี้เจินออกมาบอกว่าเขาไม่ยอมมาพบ ฟางจ่านเฉิงขอตัวกลับ เขายืนตรงห้องเฉินหยู่ซี เธอเองก็อยู่ในห้องรู้สึกผิดต่อเขามาก ฟางจ่านเฉิงกดเครื่องส่งสัญญาณเรียกตอนที่เขาตาบอดแล้วเฉินหยู่ซีให้ใช้ เฉินหยู่ซีได้ยินเสียงยิ่งเศร้ามากร้องไห้
    เฉินหยู่ซีวิ่งตามฟางจ่านเฉิงมาร้องเรียก
    “บอส คุณอย่ามาหาฉันอีกเลยนะคะ ที่ควรพูด ฉันก็พูดชัดเจนหมดแล้ว”
    ฟางจ่านเฉิงย้อนว่า “ไม่สักหน่อย คุณยังพูดไม่ชัดเจนเลย วันนั้นคุณบอกว่า ผมไม่เข้าใจคุณ ผมรู้ ว่าคุณทำเพื่อใคร”
    “ฉันไม่ได้ทำเพื่อใคร ฉันทำเพื่อตัวเอง”
    “เป็นไปไม่ได้ เฉินหยู่ซีที่ผมรู้จัก ระมัดระวังความรู้สึกตัวเองมาก ไม่ใช่แค่เกิดภาพลวงตา ก็แสดงความรู้สึกออกไปง่ายๆ คุณกำลังปิดบังอะไรกันแน่”
    เฉินหยู่ซีจะร้องไห้ “ฉันไม่ได้ปิดบังอะไร”
    “หยู่ซี คุณเคยบอกผมว่า คุณดีใจที่มอบความรู้สึกดีๆ ของคุณให้ผม”
    เฉินหยู่ซีคิดแล้วก็ตัดใจ “นั่นเป็นเพราะว่า…”
    ฟางจ่านเฉิงสวนก่อน “เฉินหยู่ซีที่ผมรู้จัก ขอแค่เธอรักใครสักคน ก็จะดีกับเขาอย่างสุดกำลัง แม้ตัวเองจะต้องทุกข์ก็ตาม บอกผมสิ ว่าคุณทำเพื่อใครกันแน่” ฟางจ่านเฉินเสียงดังขึ้น “เฉินหยู่ซี”
    เฉินหยู่ซีตะโกนตอบ “นั่นเป็นเพราะว่าใจของพี่จะเจ็บปวด” เฉินหยู่ซีร้องไห้ “หัวใจของพี่จะเจ็บ หย่าถีเธอรู้ว่า หัวใจของพี่อยู่ที่เธอ เธอรู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับคุณ หัวใจของพี่ เจ็บปวดมากเพราะความสัมพันธ์ของเราสองคน ที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะพวกเราสองคนคบกันเลยเป็นแบบนี้ ฉันไม่อยากให้ ฉันไม่อยากให้ใจพี่ต้องเจ็บปวดอีก ฉันไม่อยากให้หย่าถีเป็นอะไรไป”
    ฟางจ่านเฉิงจะเข้ามาหา “หยู่ซี”
    เฉินหยู่ซียกมือห้ามไว้ “ฉันแค่หวังว่า หัวใจของพี่ จะต่อชีวิตให้หย่าถีได้ ฉันอยากให้พวกเขาดีขึ้น มีชีวิตต่อไป ดังนั้นขอร้องล่ะ ขอร้องล่ะ อย่ามาหาฉันอีกเลย”
    เฉินหยู่ซีร้องไห้กลับไปนั่งที่หน้าบ้าน เฉินหยู่อันเห็นก็เข้ามาปลอบตกใจ
    “พี่ เป็นอะไรครับ”
    เฉินหยู่ซีสะอื้น “ฉันไม่รักษาสัญญาของตัวเอง บอกว่าจะพูดกันตรงๆ แต่ฉันก็ยังโกหก บอกว่าจะอยู่ข้างเขาตลอดไป แต่ฉันก็ยังจากเขามา ฉัน ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี ฉันทำร้ายจิตใจคนที่ฉันรัก ทั้งๆ ที่ฉันอยากจะปกป้องเขา แต่ว่าฉันกลับทำร้ายเขา ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
    “พี่ เอาล่ะ พี่อย่าร้องไห้เลย”
    หวางอี้เจินเห็นก็เข้ามาหาลูก เฉินหยู่ซีร้องไห้ “แม่ หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะแม่ หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
    “แม่เข้าใจ”
    เฉินหยู่ซีร้องไห้ “หนูอยากขอโทษเขา แม่”
    ที่โรงพยาบาล ฟางจ่านเฉิงเข้ามาหาสวีหย่าถี ถามอาการเธอแต่ใจเขาคิดถึงแต่เรื่องเฉินหยู่ซีตลอดเวลา จนสวีหย่าถีถามว่ามีเรื่องในใจอะไร
    “เปล่าครับ หย่าถี”
    สวีหย่าถีทำเสียงไม่เชื่อ “หืม?”
    “คุณจำตอนที่เรา เจอกันครั้งแรกได้ไหมครับ”
    “จำได้สิคะ”
    “ผมมองไม่เห็น แล้วก็ไม่เคยได้ยินเสียงคุณเลย ผมเลยคิดว่า เราไม่น่าจะรู้จักกัน ตอนนั้น ผมยังจมอยู่กับความเจ็บปวดจากการสูญเสีย ผมจึงทำได้เพียง จมอยู่กับความมืดมิด เวลาหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว เดินหน้าต่อไปไม่ได้ จนได้มาเจอกับหยู่ซี ทุกอย่าง ก็เลยเปลี่ยนไป หยู่ซีบอกผมว่า ความสุขก็เหมือนการนับเลข ค่อยๆ สะสมไป ก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเธอ ก็จับมือของผมไว้ ให้ผมรู้จักกับโลกนี้อีกครั้ง ช่วยผมสะสมความสุข นำความกล้าหาญกลับคืนมา สุดท้าย เธอก็ทำให้ผมรู้จักความรักอีกครั้ง ให้ผมรู้ว่า ที่แท้ ผมก็ยังสามารถรักใครคนหนึ่งได้ มีคนบอกว่า แสงสว่างที่จุดขึ้นในความมืด มันอบอุ่น และสว่างที่สุด สำหรับผมแล้วหยู่ซี ก็คือแสงสว่างนั้น ล้ำค่า แทนที่ไม่ได้”
    “งั้นคุณได้โปรด ปกป้องแสงส่วางนี้ให้ดีๆ นะคะ ให้เธออบอุ่นและสว่างไสวตลอดไป ได้ไหม” สวีหย่าถีจับผมและไหล่ฟางจ่านเฉิง
    “แต่ว่าผมในตอนนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่า ผมจะทำมันได้ไหม” ฟางจ่านเฉิงสะอื้น
    “ได้แน่นอนค่ะ มีแค่คุณที่ทำได้ จ่านเฉิง ความรู้สึกของคุณที่จากไปแล้ว มีเพื่อระลึกถึง ไม่ได้เอามาเป็นทุกข์ เวลาเดินไป คนก็เหมือนกัน อย่ากลัวที่จะบอกลาอดีต เอ่ยคำลา เพื่อรับสิ่งใหม่ๆ ที่สวยงามกว่าเข้ามาอีกครั้ง คุณต้องปกป้องหยู่ซีให้ดี ขอแค่คุณมีความสุข ลั่วหานก็จะยิ้มได้อย่างสบายใจ” ฟางจ่านเฉิงเงยหน้ามองแล้วจับมือเธอไว้ร้องไห้


(จบตอนที่28)