
รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง Someone Like You 21
‘ฟางจ่านเฉิง’ เซอร์ไพร้ส์ตกแต่งกระเช้าสวยงามบอกรัก ‘เฉินหยู่ซี’
ซีรีส์ไต้หวัน Someone Like You: รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 น. / 01.00 น. ทางช่อง NOW26
ทางด้านหน้าห้างไจแอนด์ ฟางจ่านเฉิงก็แถลงข่าว มีเฉินหยู่ซีฟังอยู่ด้านล่างด้วย
“ห้างไจแอนด์ จะกลายเป็นศูนย์กลางห้างสรรพสินค้า พวกเราจะมีทั้งแฟชั่น และวัฒนธรรมดั้งเดิม สรุปก็คือ ต่อไปห้างไจแอนด์ จะรวมสินค้าพื้นเมืองและความอินเทรนด์ เป็นที่พักผ่อนของครอบครัว มีเครื่องเล่นสวนสนุก เหมาะสมกับลูกค้าทุกเพศทุกวัย”
“ประธานฟาง คุณก็พูดเองว่า โปรเจ็คนี้ต้องใช้เงินทุนมหาศาล ไจแอนด์จะรับมือไหวมั้ยคะ” นักข่าวคนหนึ่งถาม
“ต่อไป ผมมีความยินดีที่จะแนะนำให้รู้จัก ผู้ร่วมทุนสำคัญของเรา คุณกู่เจิ้งปัง”
“ประธานกู่เชิญทางนี้ค่ะ ประธานกู่”
เฉินหยู่ซีเชิญประธานกู่ขึ้นเวที นักข่าวต่างถ่ายภาพฟางจ่านเฉิงกับประธานกู่ที่จับมือกันอย่างยินดี
ประธานเกาโกรธมากไล่หลี่โป๋เยี่ยนออกทันที วาเนสซ่าพยายามห้ามก็ไม่ฟัง หลี่โป๋เยี่ยนขอคุยกับวาเนสซ่า บอกให้เธอดูแลสุขภาพด้วย
ฟางจ่านเฉิงเดินคุยมากับเฉินหยู่ซีที่เดินกระเผลก เพราะส้นรองเท้าหักไปข้างหนึ่ง
“บอส งานแถลงข่าวเมื่อกี้ถือว่าสำเร็จใช่มั้ยคะ ฉันมีอะไรที่ทำไม่ดี หรือต้องแก้ไขตรงไหนบ้างมั้ย”
ฟางจ่านเฉิงชม “ดีมาก เธอทำได้ดีมาก แต่ว่า ยังมีอยู่อีกอย่างหนึ่ง”
เฉินหยู่ซีชะงัก “อะไรคะ”
ฟางจ่านเฉิงชี้ไปที่ส้นรองเท้าที่เฉินหยู่ซีถืออยู่ “ก็คือ รองเท้าเธอพังแล้ว”
เฉินหยู่ซีเสียงอ่อย “เออ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ฟางจ่านเฉิงบอกให้เธอนั่งที่เก้าอี้ เฉินหยู่ซีนั่งแบบงง แล้วฟางจ่านเฉิงก็ก้มลงจะถอดรองเท้า เฉินหยู่ซีร้องห้ามแต่ฟางจ่านเฉิงไม่สนใจ ถอดรองเท้ามาแล้วหักส้นรองเท้า แล้วใส่คืนให้เธอ
“ลองเดินดูสิ”
“โห บอสคุณฉลาดจังเลย ทำไมคิดไม่ถึงนะ”
ฟางจ่านเฉิงว่า “นี่แค่ชั่วคราว”
ว่าแล้วฟางจ่านเฉิงก็พาเฉินหยู่ซีไปที่ร้านรองเท้า เพื่อซื้อใหม่
“เป็นไงคะบอส ดูดีมั้ย” เฉินหยู่ซีใส่รองเท้าคู่ใหม่
ฟางจ่านเฉิงมองหน้าเฉินหยู่วี “ดูดีมาก”
เฉินหยู่ซีเขินๆ “เออ บอส ฉันพูดถึง รองเท้าค่ะ”
ฟางจ่านเฉิงเขินๆ ก้มมองรองเท้า “อ้อ รอง รองเท้าก็ดูดี”
“ขอบคุณค่ะ”
“งั้น ก็เอาคู่นี้นะ” เฉินหยู่ซีมัวแต่ก้มดูรองเท้า ฟางจ่านเฉิงเลยจ่ายเงินกับพนักงาน
เฉินหยู่ซีตกใจ “บอสฉันจ่ายเงินเองค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
เฉินหยู่ซีหยิบเหรียญให้ “ถ้างั้น ฉันให้คุณสิบเหรียญ คุณต้องรับไว้นะคะ เออ ฉันจะไปแผนกขายรับเอกสาร ไปนะคะ บอส ขอบคุณที่ซื้อรองเท้าให้ค่ะ”
ฟางจ่านเฉิงงงๆ เฉินหยู่ซีรีบเดินออกไปเลย เสิ่นเวยเหลียนเข้ามาหาฟางจ่านเฉิง
เสิ่นเวยเหลียนแซว “ดูท่าเลขานายจะงมงายนะ ไม่ยอมให้นายจ่ายเงิน คงจะไม่อยากจากนายเหมือนกัน”
“นายไปฟังเรื่องนี้มาจากไหน”
“เอาล่ะๆ พูดเรื่องงานกันดีกว่า เมื่อกี้ นายไม่ทันได้เห็นละครฉากเด็ดที่ห้างคริสตัล หลี่โป๋เยี่ยนที่ทำหน้าเหรอหรา กับรังสีอำมหิตของประธานเกา ดูท่าครั้งนี้หลี่โป๋เยี่ยน จะอยู่ที่เกาเติงได้ยากแล้วล่ะ กลยุทธออกเรือยืมธนูของนายนี่สุดยอด ไม่เพียงให้ประธานกู่ขายหุ้นเอาเงินมาเข้าหุ้นกับเรา แล้วยังได้สั่งสอนหลี่โป๋เยี่ยน เหอะ ได้นกมาสองตัว นายนี่เป็นขงเบ้งกลับชาติจริงๆ”
“ตอนนี้เงินทุนเข้ามาพร้อมแล้ว พวกเรามีงานต้องทำอีกเยอะ”
ที่โบสถ์ เซี่ยเฟยเฟยรอเฉินหยู่อันปฏิบัติหน้าที่เป็นบาทหลวงเสร็จก็นำของมาให้
“คุณซื้อมาหรือ ผมรับไม่ได้หรอก”
“ทำไมล่ะ ไม่ชอบงั้นหรือ ถ้างั้นเธอชอบแบบไหนล่ะ ฉันจะเอาไปเปลี่ยน”
“ไม่ใช่แบบนั้น เป็นบาทหลวงต้องอยู่แบบเรียบง่าย ใช้ความเรียบง่ายเติมเต็มจิตใจของเราเพื่อพบสัจธรรม แบบนี้จึงจะอบรมผู้อื่นได้ และเข้าใกล้พระเจ้าอีกนิด”
“ก็แค่เสื้อผ้าไม่กี่ตัวไม่ได้ใช้เงินสักเท่าไร ไม่เป็นไรมั้ง”
“มันไม่ใช่เรื่องเงินนะสิ”
เซี่ยเฟยเฟยเซ้าซี้ “เอาล่ะๆ ฉันรู้แล้ว อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธได้มั้ย ลองดูของในถุงก่อน ดูก่อนสิ”
“เฟยเฟย ผมรู้ว่าคุณไม่สนใจเรื่องเงินทอง ซื้อของก็มักจะตามใจ แต่การที่จะซื้อเสื้อผ้าเหมือนๆ กันหลายตัว มันสิ้นเปลืองไปนะ”
“เธอดูไม่ออกหรือว่ามันเป็นเสื้อผู้ชาย ไม่เห็นเรอะไซด์ของมันใหญ่ขนาดนี้น่ะ”
“อ้อ ยิ่งรับไม่ได้ใหญ่ คุณเอาไปคืนเถอะ ของพวกนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ”
เซี่ยเฟยเฟยเสียงดัง “นี่ วางลงนะ เอ๊ะ เฉินหยู่อันวางลงนะ เสื้อผ้านี่ฉันไม่เอาเธอจัดการเองแล้วกัน”
เซี่ยเฟยเฟยเดินหนีไปเลย เฉินหยู่อันมองตาม “โมโหจริงๆ หรือ”
ที่ห้าง ฟางจ่านเฉิงเดินมาขึ้นรถกำลังจะขับรถออก หลี่โป๋เยี่ยนมาขวาง ฟางจ่านเฉิงลงรถมาหา หลี่โป๋เยี่ยนจะชกหน้าแต่ชะงักระงับอารมณ์อย่างมาก
ฟางจ่านเฉิงจ้องหน้าตอบ “ไม่เลวนะ ยังมีสติอยู่ ผมเคยบอกแล้ว ว่าจะทำให้คุณหมดสิ้นทุกอย่าง ผมพูดได้ก็ทำได้”
“ฟางจ่านเฉิง แกใช้คู่แข่งทางการค้าอย่าง กู่เจิ้งปัง มาหลอกให้ฉันติดกับ แกมันต่ำช้า”
“เหอะ ธุรกิจไม่มีศัตรูที่ถาวร ผมกับคุณกู่ ร่วมมือกันทำธุรกิจ ทุกอย่างเปิดเผยจริงใจ ส่วนคุณ คุณหลอกใช้ความรักที่หยู่ซีมีต่อคุณเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ต่ำช้าสองคำนี้ เหมาะกับคุณมากกว่า”
“ฉันก็แค่ให้หยู่ซีเห็นราคาเท่านั้น ส่วนเธอจะพูดไม่พูดนั้นแล้วแต่เธอเลือก ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“ที่จริง ผมก็ให้คุณได้เลือกเหมือนกัน คุณไม่จำเป็นต้องแอบนัดคุณกู่ไปพบประธานเกา แต่คุณก็ทำ คุณขัดขวางการซื้อหุ้นในครั้งนี้ได้ แต่คุณก็ยังลงมือทำ เหล่านี้เป็นการเลือกของคุณ และเหมือนกัน ไม่เกี่ยวกับผมสักนิด ที่จริงแล้วคุณทำได้ดีกว่านี้ แม้กระทั้งรู้ว่าผมกับคุณกู่ร่วมมือกัน แต่ว่าเพราะคุณอยากสำเร็จทางลัด บวกกับความไม่พอใจที่มีต่อผม เลยเลือกใช้วิธีที่แย่ที่สุด จนทำให้ต้องล้มเหลวในวันนี้”
“เหอะ ใช่ ครั้งนี้ฉันแพ้แล้ว แต่ว่าสำหรับหยู่ซี ฟางจ่านเฉิงแกยังไม่ชนะ ฉันไม่มีทางยอมแพ้แน่” ฟางจ่านเฉิงรู้สึกกังวลและเป็นห่วงเฉินหยู่ซีทันที
เฉินหยู่อันเรียกเซี่ยเฟยเฟยออกมาพบที่โบสถ์ เพื่อขอใบเสร็จเสื้อ จะเอาไปแลกเงินคืน แล้วจะนำเงินไปบำรุงสถานเลี้ยงเด็ก เซี่ยเฟยเฟยโมโหมาก
“เธอ ..... สถานเลี้ยงเด็กมีเงินไม่พอ เธอบอกกับฉันก็ได้นี่ พวกเรามาคิดหาวิธีช่วยกัน ทำไมต้องเอาเสื้อไปคืนด้วยล่ะ”
“ผมคิดว่า ถ้าหากคืนเป็นเงินไม่ได้ ก็เอาไปเปลี่ยนเป็นเสื้อที่เด็กๆ ใส่ได้ มีเสื้อผ้าใหม่ใส่พวกเขาจะต้องดีใจแน่”
“เอาล่ะ เอาเสื้อมานี่ ฉันเอาไปคืนเอง”
“ได้ รบกวนคุณแล้ว” เฉินหยู่อันนำถุงเสื้อมาคืน
เซี่ยเฟยเฟยหยิบเสื้อออกมา “เสื้อตัวนี้คืนไม่ได้นะ”
เฉินหยู่อันงง “ทำไมล่ะ”
เซี่ยเฟยเฟยอึกอัก “เพราะว่า เสื้อตัวนี้ที่ร้านบอกว่าซื้อแล้วไม่รับคืน”
“ตอนนี้ยังจะมีไม่ให้เปลี่ยนหรือคืนอีกเรอะ”
เซี่ยเฟยเฟยเสียงดัง “ไม่รับคืนก็ไม่รับคืนสิ ยังไงเสื้อตัวนี้ก็คืนไม่ได้”
“ก็ได้ๆ ไม่คืนก็ไม่คืน”
“ฉันเอาเสื้อไปเปลี่ยนก่อน ขอบใจนะนายท่อนไม้”
หลี่โป๋เยี่ยนไปที่ร้านยา บังเอิญเห็นยาตัวหนึ่งซึ่งเขาเคยเห็นจึงถามคนขาย มียาวิตามินของคุณแม่และเด็ก หลี่โป๋เยี่ยนอึ้งไป
เฉินหยู่ซีนั่งอยู่ในห้องนอน ฟางจ่านเฉิงโทรศัพท์เข้ามาเตือนว่าอย่าลืมนัดพรุ่งนี้นะ เฉินหยู่ซีว่าจดไว้แล้ว แต่ขอถามหน่อย
“พรุ่งนี้คุณนัดฉันไปทำอะไรคะ”
“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ”
“มีอะไรก็พูดตอนนี้ได้นี่คะ”
“ผมอยากพูดซึ่งหน้ามากกว่า”
“อ้อ เจอกันพรุ่งนี้”
ฟางจ่านเฉิงกล่าว “ราตรีสวัสดิ์”
เฉินหยู่ซีคิดๆ คนเดียว “โธ่เอ๊ย เขามีเรื่องอะไรกันนะ โธ่ มีเรื่องอะไรกันนะ” มีโทรศัพท์เข้ามาอีก “หย่าถี สบายดีมั้ย พรุ่งนี้เธอจะมาไทเป ดีจังๆๆ พรุ่งนี้เธอจะมาถึงกี่โมง”
วันรุ่งขึ้นที่ร้านอาหาร เฉินหยู่ซีนั่งคุยกับสวีหย่าถี พอดีได้ยินสวีหย่าถีคุยโทรศัพท์แล้วขอบคุณที่ใช้บริการรถพ่อของเธอ เฉินหยู่ซีคิดได้ทันที
“ที่แท้ตอนนั้น บอสให้ฉันจดเลขทะเบียนรถเอาไว้ก็เพราะเหตุนี้นี่เอง ยังจะบอกว่าเป็นความลับ ทำเป็นลึกลับไปได้ เชอะ”
“จริงสิ หยู่ซี ขนมกล่องนี้ จะรบกวนเธอเอาไปให้บอสได้มั้ย”
“ได้สิ ฉันจะเอาไปให้เอง จริงสิ วันนี้เธออยากจะเที่ยวไหนมั้ย ฉันลางานครึ่งวันแล้ว ถ้าจะไปไหนฉันจะพาเธอไปเอง”
“จริงหรอ ฉันอยากไปเฟยเทียนกู่ เมื่อก่อนได้ยินเธอบอกว่าสวยเหมือนกับแดนสวรรค์ แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสไปสักที”
“สบายมากฉันพาไปเอง ฉันยังพาเธอไปรู้จักกับเจ้าแม่ประจำเฟยเทียนกู่ด้วยนะ ไปเถอะ”
ทั้งสองกำลังจะออกจากร้าน สวีหย่าถีก็เกิดหมดสติล้มลง เฉินหยู่ซีรีบร้องขอให้ช่วยตามรถพยาบาลที
ที่โรงพยาบาลหมอบอกว่าไม่มีไรน่าห่วง น้ำเกลือหมดก็กลับบ้านได้ เตือนให้คอยระวังเพราะเธอเป็นเคสที่ผ่าตัดหัวใจมาจะต้องคอยสังเกตให้ละอียดทุกอย่าง
เฉินหยู่ซีกล่าวกับหมอ “ขอบคุณค่ะ หย่าถี เคยได้ยินพ่อเธอพูดว่าเธอเป็นโรคหัวใจ คิดไม่ถึงว่าจะหนักอย่างงี้ ถึงขนาดผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจด้วย ทำไมไม่บอกฉันล่ะ ตอนอยู่ร้านกาแฟเมื่อกี้ทำฉันหัวใจจะวาย”
“ฉันไม่อยากให้เธอเป็นห่วงน่ะ”
“เพื่อนกันไม่เห็นต้องเกรงใจเลย เป็นอะไรหรอ”
“หยู่ซี รู้เรื่องความทรงจำของเซลล์มั้ย”
“ความทรงจำของเซลล์ ตอนฉันเรียนหนังสือ เคยอ่านรายงานวิจัยพวกนี้เหมือนกัน มีเคสตัวอย่างด้วย”
“แล้วเธอคิดว่ายังไง”
“ถึงแม้จะพิสูจน์ไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ แต่มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเลย ดังนั้นจึงมีคนตั้งทฤษฏีความทรงจำของเซลล์ขึ้นมา”
“แล้วเธอเชื่อว่า เรื่องแบบนี้มีจริงหรือไม่”
“อาจจะนะ เพราะว่า โลกเรามีเรื่องตั้งมากมายที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้”
“หยู่ซี”
“โทษทีนะ” ฟางจ่านเฉิงส่งข้อความมาบอกว่ารอคุณอยู่ที่ฐานลับของเรา
สวีหย่าถีเห็นเฉินหยู่ซีดูเวลา เธอจึงบอกว่า “หยู่ซีเธอยังมีธุระอะไรไช่มั้ย”
“ก็นิดหน่อย โทษทีนะ เมื่อกี้เธอพูดว่าไงนะ”
“ไม่มีอะไร เธอไปทำธุระของเธอก่อนเถอะ”
“ไม่เป็นไรไม่ใช่เรื่องด่วนอะไร ฉันจะรอให้น้ำเกลือเธอหมดก่อน”
“อืมขอบใจนะ”
สักพักหนึ่ง สวีหย่าถีได้ออกจากโรงพยาบาล ทั้งสองเดินมาด้วยกัน สวีหย่าถีให้เฉินหยู่ซีไปก่อน พอเฉินหยู่ซีขึ้นแท็กซี่ไป ก็มีแท็กซี่ต่อท้ายหลี่โป๋เยี่ยนลงจากแท็กซี่ แล้วเดินไปหาวาเนสซาที่นัดไว้
วาเนสซาถามว่านัดมาทำไม หลี่โป๋เยี่ยนว่าให้เข้าไปค่อยคุยกัน แต่วาเนสซ่าไม่พอใจให้เขาปล่อย
“หลีโป๋เยี่ยน คุณจะทำอะไรกันแน่”
“คุณตั้งท้องใช่มั้ย นี่สำหรับสตรีมีครรภ์ใช้”
“ที่คุณนัดฉันมาที่นี่ก็เพราะจะเช็คเรื่องนี้งั้นหรือ”
หลี่โป๋เยี่ยนถอนใจ “เด็กคนนี้ไม่ควรจะอยู่ วาเนสซา เด็กคนนี้เป็นแค่อุบัติเหตุ ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราคาดการไว้ก่อน เขาจะเป็นภาระที่หนักอึ้งของคุณ ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะแบกรับไว้”
“ดังนั้นความหมายคุณคือ ... ทำไมคุณต้องทำแบบนี้”
“ถ้าหากตอนนี้เรากำลังคบกัน ผมจะดีใจมากกับชีวิตที่จะเกิดมา แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น นี่เป็นเรื่องที่พวกเราต่างก็คาดกันไม่ถึง เด็กที่ไม่ต้องการ เกิดมาคงไม่มีความสุข ไม่ใช่เรื่องดี สำหรับคุณเลย อย่าลืมสิ ในใจคุณมีคนอยู่ ต่อไปคุณยังต้องเจอเขาอีก แม้มันจะเป็นร่างกายของคุณ ที่ผมไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย แต่สำหรับเด็กคนนี้ เป็นความรับผิดชอบ และภาระที่ต้องเผชิญหน้าพร้อมกับคุณ คุณโยนความผิดทั้งหมดให้กับผมได้ เพราะผมเป็นคนตัดสิทธิ์การเกิดของเด็กคนนี้ ไม่ใช่คุณ คุณวางใจ ผมนัดคุณหมอที่เชี่ยวชาญทางนี้ไว้แล้ว ไม่เป็นไร”
“มันเป็นเรื่องของฉัน ในเมื่อฉันตัดสินใจให้เขาเกิด ฉันจะดูแลเขาเอง ไม่ต้องตัดสินใจแทนฉัน”
เฉินหยู่ซีรีบวิ่งมาที่ทางขึ้นกระเช้า พอเห็นกระเช้าตกแต่งสวยงามกำลังลงมารับเธอตื่นเต้นมาก พนักงานถามเธอว่า
“คุณเฉินหยู่ซีใช่มั้ยครับ”
“ใช่ค่ะใช่”
“นี่เป็นรถม้าเที่ยวพิเศษสำหรับคุณ เชิญครับ” เฉินหยู่ซีขึ้นรถอย่างตื่นเต้น
เฉินหยู่ซีเดินไปที่ฐานลับ ซึ่งประดับตกแต่งอย่างสวยงาม จนเดินมาเจอฟางจ่านเฉิง
“บอส พวกนี้ คือ ...”
ฟางจ่านเฉิงเอ่ย “ยังจำตอนที่เธอ พูดกับฉันตอนอยู่โฮมสเตย์ว่า ถ้าดวงตาฉันหายดีแล้ว คิดจะไปที่ไหนก็ที่นั่น คิดจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้น แล้วยังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไปตามหาความสุขที่เหลืออยู่ได้มั้ย ฉันว่า ฉันหาความสุข ที่เหลืออยู่นั้นพบแล้ว ฉันพบผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้น เป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา เป็นเหมือนพระอาทิตย์ ที่อยู่ตรงไหน ก็มีแต่ความอบอุ่น เบิกบานใจ ไม่ว่าจะพบกับปัญหา อุปสรรคอะไร เผชิญหน้าอย่างไม่ย่อท้อ ไม่เคยจะยอมแพ้ เป็นเพราะเธอ น้ำแข็งในใจฉันจึงหลอมละลาย มีความสว่างขึ้นในใจ ทำให้ฉันมีความหวัง มีความกล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ ดังนั้น หยู่ซี เธอเต็มใจที่จะช่วยให้คำอธิฐานของฉันเป็นจริงหรือไม่” ฟางจ่านเฉิงจับมือเธอไว้
เฉินหยู่ซีน้ำตาซึมดีใจ “บอส ขอบคุณที่รู้สึกดีๆ กับฉัน ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ดีใจจัง ดีใจจริงๆ” เฉินหยู่ซีจับมืออีกข้างของฟางจ่านเฉิง
“ดังนั้น ....เธอเต็มใจ ที่จะช่วยให้ คำอธิฐานของฉัน เป็นจริงหรือไม่”
เฉินหยู่ซีพยักหน้ายิ้มๆ แทนคำตอบ ฟางจ่านเฉิงยิ้ม ทั้งสองโผกอดกัน
(จบตอนที่21)