บันเทิง

ซีรีส์ไต้หวัน Someone Like You: รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง

ซีรีส์ไต้หวัน Someone Like You: รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง

08 มิ.ย. 2559

างจ่านเฉิงขับรถพาคู่หมั้นไปเกิดอุบัติเหตุจนเธอเสียชีวิต ตัวเองต้องตาบอด จ้างพยาบาล เฉินหยู่ซี มา คอยดูแล หน้าตาเหมือนกับคู่หมั้นซะงั้น

ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 น. ทางช่อง NOW26

 

รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง

 

            เมื่อชายหนุ่มขับรถพาคู่หมั้นไปเกิดอุบัติเหตุจนเธอเสียชีวิต พร้อมกับที่ตัวเองต้องตาบอด ครอบครัวของเขาเลยจ้างพยาบาลมาคอยดูแล แต่ดันหน้าตาเหมือนกับคู่หมั้นซะอย่างนั้น

            แถมโชคชะตายังเล่นตลกไม่พอเพราะหัวใจของอดีตคนรักกลับถูกนำไปปลูกถ่ายให้หญิงสาวอีกคน จนนับวันกลายเป็นเหมือนคนรักกลับชาติมาเกิด แล้วหนุ่มสุดหล่อคนนี้จะเลือกใครระหว่างสาวหน้าเหมือนกับหญิงคนใหม่ใส่หัวใจดวงเดิม

 

 

รักครั้งใหม่ หัวใจอลเวง 5

 

            ฟางจ่านเฉิงชวนเฉินหยู่ซีไปหาของขวัญให้แม่ เขาคิดจะซื้อเก้าอี้นวดตัว แต่เฉินหยู่ซีว่าดูไม่อบอุ่นเลย เธอพาเขาเลือกของขวัญชิ้นใหม่เป็นผ้าพันคอ

            เซี่ยเฟยเฟยทะเลาะกันหญิงคนหนึ่งที่คิดว่าเซี่ยเฟยเฟยเอาหมาเธอไป เพราะเซี่ยเฟยเฟยอุ้มอยู่ เธอบอกว่าไม่ได้ขโมวย ถึงกับจะพาไปโรงพัก เฉินหยู่อันเข้ามาเห็นและช่วยพูดให้ว่าอาจจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะเซี่ยเฟยเฟยไอมากน่าจะแพ้ขนหมา จะเอาหมาเธอไปได้ยังไง หญิงคนนั้นยอมเชื่อ

            “เป็นยังไงบ้างครับ” เฉินหยู่อันถามเซี่ยเฟยเฟย

            “ฉีดยาไปก็ดีขึ้นมาก ไม่คิดว่าแค่อุ้มหมาจะทำให้อาการกำเริบ”

            “รู้แล้วว่าตัวเองแพ้อะไร ต้องระวังให้มากขึ้นนะ”

            “ขอบคุณค่ะ จริงสิคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันแพ้ขนหมา เมื่อตอนเด็กพี่ฉันเก็บหมาจรจัดตัวนึงกลับมาบ้านตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าฉันแพ้ขนหมาฉันเองก็ไม่อยากขัดใจเขาเลยพูดอะไรแต่อาการหอบหืดของฉันกำเริบจนต้องเข้าห้องฉุกเฉินพี่ฉันรู้สึกเสียใจมากเขายังมานั่งเฝ้าฉันไว้คอยดูแลฉันทั้งคืนถึงตอนนั้นอาการของฉันจะกำเริบหนักแต่ฉันก็ดีใจมากจริงๆ”

            เฉินหยู่อันว่า “ผมเดาน่ะ”

            เซี่ยเฟยเฟยแปลกใจ “เดาเหรอ”

            “ใช่ครับ โชคดีที่เดาถูก”

            “วันนี้ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะฉันชื่อเซี่ยเฟยเฟย”

            “ผมชื่อเฉินหยู่อัน”

            เซี่ยเฟยเฟยเขินอาย “คุณจะไปทางไหน”

            เฉินหยู่อันอึกอัก “ผมไปทางนี้”

            “เหมือนกันเลย” ทั้งสองเดินคุยกันไป

            ด้านเฉินหยู่ซีก็บอกฟางจ่านเฉิงว่าเธอต้องการผ้าพันคอไปให้แม่เหมือนกัน ลดได้เท่าไหร่ ฟางจ่านเฉิงให้เธอเลย เธอดีใจมาก เฉินหยู่ซียังระแวงว่าทำไมฟางจ่านเฉิงถึงดีกับเธอ

            เซี่ยเฉียนจิ้นอาของฟางจ่านเฉิงมาพบเขา พูดเรื่องวันเกิดแม่ของฟางจ่านเฉิง แล้วบอกว่าแม่คงอยากเต้นรำกับฟางจ่านเฉิง เฉินหยู่ซีได้ยินก็บอกให้เขาสอนเธอเต้น แต่ฟางจ่านเฉิงไม่ยอมสอน

            ประธานเกาเรียกวาเนสซ่ามาบอกเรื่องงาน แต่วาเนสซ่าไม่สนใจเธอทำตามใจเธอเอง ประธานเกาจึงเรียกหลี่โป๋เยี่ยนมาต่อว่าที่ไม่ห้ามปรามลูกสาวเธอ เรื่องที่อยากได้เคาน์เตอร์แบรนด์ของไจแอนท์ซิตี้ หลี่โป๋เยี่ยนว่าเขาเห็นด้วยแล้วจะช่วยทำให้สำเร็จ

            หลี่โป๋เยี่ยนไปหาเฉินหยู่ซีเพื่อหลอกถามถึงฟางจ่านเฉิงว่ามีปัญหาอะไรถึงต้องจ้างเธอมาดูแล 24 ชั่วโมง แต่เฉินหยู่ซีบอกว่าเธอเซ็นสัญญาไว้บอกความลับไม่ได้ ยิ่งทำให้หลี่โป๋เยี่ยนสงสัยมาก

            เฉินหยู่ซียังคงพูดจาหว่านล้อมจนฟางจ่านเฉิงยอมสอนเธอเต้นแทงโก้สำเร็จ แล้วที่สำคัญเขาจะได้ไปเต้นรำกับแม่ได้ด้วย พอล้มหลายรอบฟางจ่านเฉิงก็จะไม่ยอมเต้นต่อ เฉินหยู่ซีพยายามพูดให้กำลังใจไม่ให้เขาท้อแท้

            “พวกเราฝึกมาตั้งนานขนาดนี้แล้วในสภาพนี้ฉันคงทำไม่ได้หรอกยอมแพ้เถอะ”

            “ไม่ ยอมแพ้ไม่ได้คุณจำได้รึเปล่าเวยเหลียนบอกตอนที่คุณดูงานท่าทางคุณมั่นใจ เต็มที่ขนาดนั้นไม่มีใครมองออกเลยว่าคุณมองไม่เห็น ตอนนั้นคุณทำได้ตอนนี้ก็ต้องทำได้เหมือนกัน”

            “เธอรู้มั้ยว่าฉันใช้เวลาไป นานแค่ไหนกว่าจะเตรียมตัวพร้อม”

            เฉินหยู่ซีลังเล “นานแค่ไหน”

            “ครึ่งปีใช้เวลาไปตั้งครึ่งปี ฉันน่ะ ทุกวันหลังห้างปิดจะฝึกเดินไปมาอยู่ในนั้นแค่การเคลื่อนไหวง่ายๆ แบบนั้น ฉันยังใช้เวลาไปนานขนาดนั้นเรื่องเต้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง”

            “พวกเรามาไกลถึงขั้นนี้แล้วนะขอแค่มุ่งมั่นต่อไปจะต้องทำได้แน่ๆ”

            “ถึงฉันจะมองไม่เห็นแต่มือเธอคงมีแผลอยู่ไม่น้อยล่ะสิ”

            เฉินหยู่ซีเสียงเบา “ไม่มีหรอก”

            “ไม่ต้องมาหลอกฉัน ฉันเองก็มี ช่างมันเถอะมีบางเรื่องถึงฝืนไปก็ไม่ได้หรอกนะไม่ใช่ว่าแค่พยายามก็จะทำได้สำเร็จ”

            เฉินหยู่ซีกลับไปบ้าน นำผ้าพันคอไปให้แม่ หวางอี้เจินดีใจก่อนจะเตือนว่าให้เก็บเงินไว้ไม่ควรซื้อของแบบนี้ เฉินหยู่ซีจึงบอกว่าฟางจ่านเฉิงมอบให้

            ถึงวันเกิดของหยางอี๋หมิ่น เธอกังวลและรอคอยการมาของฟางจ่านเฉิง แม้เซี่ยเฉียนจิ้นจะคอยปลอบ และมอบของขวัญให้ เซี่ยเฟยเฟยก็มอบบัตรสปาให้เป็นของขวัญ หยางอี๋หมิ่นชวนไปด้วยกัน ไม่นานฟางจ่านเฉิงก็มาถึง เขามอบของขวัญให้แม่

            “โอ้โห ผ้าพันคอสวยมากเลยแม่ยังคิดว่าช่วงนี้อากาศเย็นลงจะไปซื้อผ้าพันคอซักผืนพวกเราสองคนแม่ลูกนี่รู้ใจกันจริงๆ”

            “แม่ครับ ผมพันให้แม่เอง”

            หยางอี๋หมิ่นดีใจมาก “ได้สิจ๊ะ”

            เฉินหยู่ซีให้คนนำหูฟังไปใส่ให้ฟางจ่านเฉิง เธอพูดบอกเขาให้ชวนแม่เต้นรำ แต่ฟางจ่านเฉิงยังกังวลว่าจะทำไม่ได้ เฉินหยู่ซีบอกว่าเธอจะคอยบอกเขาเอง

            ฟางจ่านเฉิงเดินตามที่เฉินหยู่ซีบอก เขาพาแม่ออกมาเต้นรำ หยางอี๋หมิ่นปลื้มใจสุดๆ แล้วฟางจ่านเฉิงก็พาหยางอี๋หมิ่นเต้นรำตามที่เฉินหยู่ซีบอกสำเร็จด้วยดี

            “แม่ครับ สุขสันต์วันเกิดครับ”

            หยางอี๋หมิ่นร้องไห้ “ขอบคุณ ขอบคุณจ่านเฉิง ในชีวิตของแม่ นี่คือของขวัญที่ดีที่สุด ขอบคุณเด็กดีของแม่”

 

(จบตอนที่ 5)

 

0000000000000000

 

Someone Like Youตอน 6

 

            เซี่ยเฟยเฟยตื่นเต้นถามฟางจ่านเฉิง

            “พี่ชาย พี่ทำยังไงคะ ถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้”

            “เรื่องนี้จริงๆ แล้ว ต้องขอบคุณพยาบาลใหม่ของผม ทั้งหมดเพราะเขา ผมถึงทำเพื่อแม่ได้ เป็นเรื่องดีจริงๆ”

            “พยาบาลใหม่เหรอ”

            “ครับแม่”

            เฉินหยู่ซีนำเค้กเข้ามา “เค้กมาแล้ว สุขสันต์วันเกิดค่ะ”

            เซี่ยเฉียนจิ้นร้องเพลง “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ธเดย์ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู”

            เฉินหยู่ซีกล่าว “สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณแม่”

            หยางอี๋หมิ่นกับเซี่ยเฉียนจิ้นเห็นหน้าเฉินหยู่ซีชัดเจนก็ตกใจ “ลั่วหาน”

            ฟางจ่านเฉิงแปลกใจ “แม่ ลั่วหานทำไม”

            หยางอี๋หมิ่นว่า “พยาบาลของลูก ทำไมเหมือนลั่วหานยังกับแกะ”

            ระหว่างทางกลับ ฟางจ่านเฉิงถามว่าถึงป้ายรถเมล์รึยัง เฉินหยู่ซีว่าใกล้แล้ว

            ฟางจ่านเฉิงว่า “งั้นไปจอดเทียบป้ายก่อน”

            เฉินหยู่ซีมองรอบๆ ตาโต “วู้ว ทุ่งหญ้ากว้างมากๆ สวยมากๆ เลย”

            “ลั่วหานก็พูดแบบนี้ เราคุยกันว่า ที่นี่เป็นที่ถ่ายรูปแต่งงานของเรา”

            “เจ้านาย ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าฉันเหมือนลั่วหาน อาจทำให้คุณเศร้า แล้วก็ไม่ต้องการฉันแล้ว”

            “หมายความว่าไง”

            “บางทีในใจคุณ ฉันเป็นของเลียนแบบลั่วหาน แต่ฉันจะบอกก่อนนะ ฉันไม่ใช่ตัวแทนของใคร เฉินหยู่ซีก็คือเฉินหยู่ซี ฉันก็คือตัวฉัน”

            “ไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ปฏิเสธ ตอนแรกที่จ้างคุณ ก็เพราะเสียงของคุณเหมือนลั่วหานมากๆ ทำให้ผมคิดถึง แต่ว่าผมไม่เคยจะให้คุณมาเป็นลั่วหาน สำหรับผม ลั่วหานคือหนึ่งเดียว ไม่มีใครมาแทนได้ แต่ผมคิดว่า เรื่องที่คุณกับลั่วหานหน้าเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”

            “หมายความว่าไง”

            “คุณไม่เคยสงสัยบ้างเลยเหรอ สองคนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ทำไมถึงโตมาคล้ายกันมาก ลั่วหานถูกพ่อแม่รับมาเลี้ยง พอเขาโตขึ้นมา ผมก็ช่วยเขาหาพ่อแม่แท้ๆ มาตลอด”

            “คุณคงไม่คิดว่า ลั่วหานคือพี่สาวหรือน้องสาวฉันนะ นี่ แม่ฉันไม่เคยพูดมาก่อน”

            เฉินหยู่ซีพาฟางจ่านเฉิง พร้อมด้วยเสิ่นเวยเหลียน ไปหาหวางอี้เจินที่บ้าน แล้วสอบถาม หวางอี้เจินโกรธมากบอกว่านางไม่ได้มีลูกแฝดและเคยบอกเสิ่นเวยเหลียนไปแล้ว

            ฟางจ่านเฉิงเห็นว่ามาถึงบ้านแล้วจึงให้เฉินหยู่ซีหยุดอยู่กับแม่วันหนึ่ง แต่ตกค่ำเธอก็โทรหาหลี่โป๋เยี่ยน เพื่อชวนไปดูฝนดาวตกแต่หลี่โป๋เยี่ยนมีโทรศัพท์เข้ามาเรื่องงาน เขาเลยต้องกลับไปทำงาน เฉินหยู่ซีออกจากบ้านมาแล้วเลยกลับไปหาฟางจ่านเฉิง

            เฉินหยู่ซีกลับไปอยู่กับฟางจ่านเฉิง แต่ก็มีอาการเหม่อลอย ทำแก้วแตกจนฟางจ่านเฉิงรู้สึกได้ เฉินหยู่ซีดูข่าวเรื่องฝนดาวตกที่จะมีคืนนี้ก็รู้สึกเสียดาย ฟางจ่านเฉิงชวนเธอออกไปนอกบ้าน

            ฟางจ่านเฉิงพาเฉินหยู่ซีนั่งเรือออกไปกลางทะเล โดยมีคนขับเรือ เขาสั่งให้จอดกลางทะเล

            “จอห์นจอดตรงนี้แหล่ะ คุณไปพักได้แล้วล่ะ”

            “เจ้านายคะ ทำไม เราต้องมาจอดกลางทะเลล่ะ สวยจังเลย บรรยากาศคืนนี้มันสวยมากๆ แต่ว่า คุณมองไม่เห็น แล้วก็หนาวจริงๆ พวกเราจะไม่เข้าไปในเรือกันหรอ ฉันไม่ไปไรหรอก ฉันกลัวคุณหนาว”

            “คุณห่วงตัวเองก่อนเถอะ”

            “ขอบคุณนะ ดาวตก นั่นฝนดาวตก เจ้านาย อธิฐานๆ ดาวตกที่รัก ขอให้ปีหน้า ปีนู้น และก็ปีต่อๆ ไป พวกเราจะกลับมาพบกันอีก มาเยอะมากเลย มาเยอะมากเลย มาเยอะมากเลย เจ้านายดูสิ ดาวตกเยอะมากเลย ดาวเยอะมากเลย เจ้านาย คุณตั้งใจพาฉันมาดูฝนดาวตกเหรอ เจ้านาย คุณตั้งใจพาฉันมาดูฝนดาวตกเหรอ ขอบคุณนะ จริงๆ แล้ว วันนี้ฉันก็มีเรื่องไมสบายใจ แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว”

            “เรื่องอะไรทำคุณไม่สบายใจ”

            “เจ้านาย คุณเคยโกหกคู่หมั้นของคุณมั้ย”

            “ไม่เคย”

            “ไม่เคยเลยเหรอ”

            “ไม่เคยสักครั้ง”

            “วันนี้แฟนของฉันโกหกฉัน เขาบอกว่าจะกลับไปประชุมที่ออฟฟิศ จริงๆ คือโกหกฉัน”

            “บางครั้งการโกหก ก็ไม่ใช่เจตนาร้าย บางครั้งก็เพื่อปิดบังอะไรเลยต้องโกหก บางครั้งก็โกหกเพื่อฝ่ายตรงข้ามเลยต้องโกหก แต่ผมไม่รู้ว่าแฟนของคุณเป็นแบบไหน”

            “ตอนคุณอยู่ด้วยกันกับลั่วหาน คุณก็ยุ่งเขาก็ยังอยู่ข้างคุณมั้ย”

            “ลั่วหานก็ยุ่งมาก พวกเราอยู่ซึ่งกันและกัน”

            “งั้นคุณทั้งคู่ก็ยุ่ง คุณไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ใช่มั้ยคะ”

            “ไม่เลย ถ้าผมรับปากกับลั่วหาน ผมต้องทำให้ได้ ลั่วหานก็ด้วย”

            “นั่นก็เพราะคุณคือเจ้านาย ไม่ต้องรอรับงาน ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนกับคุณ”

            “ตำแหน่งยิ่งสูง หน้าที่ยิ่งหนัก พูดก็คือผมคิดว่านี่เป็นเรื่องของการเลือก ถ้าคุณคิดว่ามันสำคัญ คุณจะเอาเรื่องสำคัญที่สุดไว้ที่หนึ่ง”

            “เอาเรื่องสำคัญที่สุด ไว้ที่หนึ่ง สวยจริงๆ เลย ดูดาวบนเรือนี่ ดาวดูสว่างมากเลย ดาวตกแต่ละดวงมันใกล้เข้ามา เข้ามา เจ้านาย คุณเชื่อมั้ยว่าดาวอยู่ในมือฉัน”

            คำพูดนี้ยิ่งทำให้ฟางจ่านเฉิงคิดถึงเหลียงลั่วหานเพราะเธอก็พูดคำเดียวกันนี้

            “เจ้านาย ถ้าคุณมองเห็นก็คงจะดีนะ แต่น่าเสียดาย ทำได้แค่ฟังที่ฉันพูด ขอให้เจ้านายได้ออกจาก ทางที่มืดมิด ได้รับการรักษาเร็วๆ กลับมามองเห็น พบเจอกับชีวิตที่ดี”

            เฉินหยู่ซีดูฝนดาวตกเพลิน หันมาอีกทีก็ไม่เห็นฟางจ่านเฉิงแล้ว เธอร้องเรียกก็ไม่มีเสียงขานรับ คิดว่าเขาตกน้ำ จึงโดดลงไปช่วย ฟางจ่านเฉิงได้ยินเสียงก็ออกมาดูได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเฉินหยู่ซี ก็เรียกจอห์นให้ช่วย แต่ไม่เห็นได้ยินเสียง จึงโดดลงไปช่วยเอง จอห์นได้ยินรีบออกมาดูแล้วโยนห่วงยางลงไปช่วยทั้งสองขึ้นมา

            “เจ้านาย คุณโมโหเหรอ เรียกคุณก็ไม่ตอบ ฉันก็คิดว่าคุณตกน้ำไป ทำเอาตกอกตกใจ”

            ฟางจ่านเฉิงว่า “ผมอยู่ในเรือไม่ได้ยิน” เฉินหยู่ซีจาม “คุณคิดว่าผมตกน้ำเหรอ ก็เลยโดดน้ำไปช่วยผมเหรอ”

            เฉินหยู่ซีจาม “หนาวขนาดนั้น ฉันอยากจะลงไปว่ายน้ำหรือไง ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นตะคริว คุณรู้มั้ยว่าคุณโดดลงไปมันอันตรายมาก พวกเรายังโชคดีนะ ถ้ากัปตันไม่ได้ยินเข้าไม่ใช่แค่ช่วยฉันไม่ได้ คุณเองก็จะเป็นอันตรายมากด้วย ฉันฟังเวยเหลียนพูด ตาของคุณถูกรักษาดีแล้ว เรื่องจริงใช่มั้ย เจ้านาย ฉันคิดว่าคุณควรรักษาตาให้หายนะ ถึงจะปกป้องคนข้างๆ ได้ แน่นอนว่าไม่ใช่ปกป้องฉัน หนาวจังเลย”

            “ก็ได้”

            “หนาวจังเลย ปวดหัวจังอยากจะนอน”

            ฟางจ่านเฉิงจับตัวเฉินหยู่ซี “อัยยา ตัวร้อนมาก เป็นไข้แล้ว”

            “ไม่เป็นไรหรอก ได้นอนเดี๋ยวก็หาย ฉันคิดว่าคุณควรรักษาตาให้หายนะ ถึงจะปกป้องคนข้างๆ ได้”

 

(จบตอน 6)