บันเทิง

‘ผู้ผลิตละคร’โอนถ่ายแปลผันสรรสร้างผลงานป้อนต่างช่อง

‘ผู้ผลิตละคร’โอนถ่ายแปลผันสรรสร้างผลงานป้อนต่างช่อง

21 เม.ย. 2559

‘ผู้ผลิตละคร’ โอนถ่ายแปลผันสรรสร้างผลงานป้อนต่างช่อง : สกู๊ปบันเทิง


          ทิศทางวงการละครไทยตอนนี้ มีช่องทางหลากหลายขึ้น หลังจากเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัล ทำให้มีเวลาในการออกอากาศเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บรรดาค่ายผู้ผลิตละคร ผู้จัด และผู้กำกับ เกิดการโยกย้ายถ่ายโอน มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้ยึดติดอยู่กับที่เดิม เหมือนกับที่ผ่านมา ที่ค่ายละคร ผู้จัด และผู้กำกับมักจะมีการเซ็นสัญญาผูกขาดกับช่องใดช่องหนึ่ง ในยุคนี้จึงได้เห็นผู้ผลิตละครมีการผลิตละครให้ต่างช่อง บางส่วนไปพร้อมกับเซ็นสัญญาใหม่ บางส่วนไปในฐานะฟรีแลนซ์ หรือมีการแตกไลน์บริษัทออกไป ว่าแต่จะว่ามีใครกันบ้าง แล้วมาสำรวจกัน 
 
          เริ่มจาก “บุ๋ม” รัญญา ศิยานนท์ จากผู้กำกับ ที่กำกับละครให้ “ช่อง 3” เป็นส่วนใหญ่ มีผลงานการกำกับละครที่สร้างชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มากมาย อาทิ ปีศาจแสนกล ต้นรักริมรั้ว ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ เจ้าบ้านเจ้าเรือน ฯลฯ แต่บุ๋มได้สร้างความเซอร์ไพรส์ ด้วยการประเดิมเป็นผู้กำกับให้ “ช่อง 7” ครั้งแรกกับเรื่อง “พริ้ง คนเริงเมือง” ของผู้จัด “หนิง” ปณิตา ธรรมวัฒนะ และ “นีโน่” เมทนี บุรณศิริ ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากดูแล อยากช่วยหนิง ซึ่งจริงๆ ผู้กำกับชื่อดังไม่ได้มีการเซ็นสัญญากับที่ไหน กับช่อง 3 ก็ไม่เคยเซ็น เพราะเป็นการทำงานด้วยใจ และการมากำกับเรื่องนี้ถือเป็นการสานฝันให้ตัวเอง ซึ่งหากมองย้อนไป ก่อนหน้านี้บุ๋มเคยกำกับละครให้เอ็กแซ็กท์มาแล้ว ทั้ง เมียไม่ใช่เมีย มารยาริษยา และฝันเฟื่อง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักกับการลองมากำกับช่อง 7 ดูบ้าง ในฐานะผู้กำกับฟรีแลนซ์ แต่เป็นการมาที่น่าสนใจไม่น้อย 
 
          มาต่อกันที่ “ต้อ” มารุต สาโรวาท จากผู้กำกับมากฝีมือของ “ช่อง 3” สู่การเป็นผู้จัดละครและผู้กำกับให้ “ช่อง 7” มีผลงานผู้จัดละครโด่งดังหลายเรื่อง อาทิ คนละโลก เพลิงพรหม พริกกับเกลือ ปีกมงกุฎ ดั่งสวรรค์สาป ฯลฯ แต่ตอนนี้มีโปรเจกท์ใหม่ เป็นผู้จัดละครให้ช่อง “พีพีทีวี” ประเดิมเรื่อง “ธิดาผ้าซิ่น” นอกจากนี้แววมาว่าเจ้าตัวได้เสนอโปรเจกท์ให้ช่องทรูโฟร์ยูอีกด้วย โดยการมาครั้งนี้เจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีปัญหากับทาง “ช่อง 7” อีกทั้งยังเตรียมโปรเจกท์ใหม่ไว้กับทางช่อง 7 อยู่  แต่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรต้องรอติดตามชม 
 
          ด้าน “เป๊ป” ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม หลังจากที่เคยทำช่วงหนังดังทาง “ช่อง 3” จนมาผลิตละครให้ช่องทรู และกลับมาทำเรื่อง “ไฟเปลี่ยนสี” ให้กับทาง “ช่อง 3 เอสดี" นอกจากนี้เป๊ปยังมีโปรเจทก์ “อุบัติรักเทวา” ให้ช่อง “ทรูโฟร์ยู” ที่เพิ่งบวงสรวงไปหมาดๆ   เรียกว่าเป็นการหมุนไปเวียนมา แต่เป็นการมอบความหลากหลายให้ผู้ชม 
 
          ถัดมาที่ “คุณหญิงแมงมุม” ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล เป็นผู้จัดละครทำโปรเจกท์ป้อนละครให้ช่อง “พีพีทีวี” ในนามบริษัท “ศรีคำรุ้ง” ส่งซีรีส์พีเรียดเรื่องดัง ปริศนา เจ้าสาวของอานนท์ และรัตนาวดี เอาใจแฟนๆ กันไปแล้ว ตอนนี้กำลังถ่ายทำเรื่อง “หมอผี” และกำลังอยู่ระหว่างเตรียมโปรเจทก์เรื่อง “เสียดาย” ด้วยผลงานที่ต่อเนื่อง ทำเอาหลายคนมองว่าเป็นผู้จัดให้ช่องพีพีทีวี แต่คุณหญิงแมงมุมยังคงเป็นฟรีแลนซ์ และยังอยู่ระหว่างคุยกับช่องอื่นๆ อีก 3 ช่อง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะทำ แต่จะทำละครเรื่องอะไรกับช่องไหนต้องรอติดตาม 
 
          เช่นเดียวกับ บริษัท “เจเอสแอล” ผลิตละครให้ “ช่อง 7” มาอย่างยาวนาน อาทิ ราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์ เงา อตีตา ฯลฯ และกำลังมีโปรเจกท์ใหม่ให้ช่อง 7 คือเรื่อง “ละอองดาว” แต่เจเอสแอลก็ยังหันไปผลิตละครให้ช่อง 8 ประเดิมเรื่อง “แม่นาก” อีกด้วย 
 
          ขณะที่ “น็อต” นุติ เขมะโยธิน จากผู้บริหาร “มีเดีย สตูดิโอ” และเคยผลิตละครให้มีเดีย ได้ย้ายไปเป็นผู้จัดละคร ผลิตละครป้อนช่อง "ทรูโฟร์ยู” ประเดิมเรื่องแรก “เวลาในขวดแก้ว” ในฐานะผู้จัดฟรีแลนซ์ ส่วนโปรเจกท์อื่นๆ ก็ต้องรอติดตาม 
 
          ฟาก “กันตนา กรุ๊ป” ผลิตละครให้ “ช่อง 7” มาอย่างยาวนาน มีผลงานที่เติบโตและอยู่ในใจแฟนๆ หลายต่อหลายเรื่อง อาทิ บัวแล้งน้ำ ด้วยแรงอธิษฐาน สุสานคนเป็น ห้องหุ่น ฯลฯ และปัจจุบันกันตนา กรุ๊ป ยังคงผลิตละครให้ช่อง 7 อย่างต่อเนื่อง แต่เพราะมีเจเนอเรชั่นใหม่รุ่นลูกเกิดขึ้น โดย “เต้” ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก และ “สตางค์” ดิษย์ลดา ดิษยนันทน์ กันตนาได้แตกไลน์มาเป็น “กันตนา เอฟโวลูชั่น” ผลิตละคร รายการ และซีรีส์ ให้กับช่อง 3 อาทิ ละคร ห้องหุ่น รายการเดอะเฟซไทยแลนด์ ซีรีส์กอสซิปเกิร์ล ฯลฯ ที่ได้กระแสตอบรับดีอย่างท่วมท้น 
 
          ปิดท้ายกันที่ “บริษัท บางกอก ออดิโอ วิชั่น จำกัด” โดย ฉลอง ภักดีวิจิตร เป็นบริษัทที่อยู่คู่วงการบันเทิงไทยมาอย่างยาวนาน ผลิตผลงานที่มีชื่อเสียงมากมาย ในปัจจุบันยังคงผลิตละครให้ช่อง 7 มีผลงานละครบู๊อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมาเป็นเจนรุ่นลูกโดย กัญจน์ ภักดีวิจิตร “แก้ว” บุญจริา และ “กู๊ด” เฉิดบุญ บริษัทได้มีการแตกไลน์มาเป็นบริษัท “อาหลอง กรุ๊ป” และ “อาหลอง จูเนียร์” ผลิตละครป้อน “ช่อง 3” ซึ่งเตรียมโปรเจกท์ที่หลากหลาย รวมถึงโปรเจกท์ละครบู๊ฟอร์มยักษ์ “อังกอร์” ที่หลายคนรอคอย
 
          ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้น แต่เจตนารมณ์ของผู้ผลิตละคร ยังคงตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานละครที่ดีมีคุณภาพ และพัฒนาต่อไปเพื่อคุณผู้ชมอย่างไม่รู้จบ