บันเทิง

คุยกับ‘นิโคลัส โฮลท์’ซูเปอร์สตาร์มาแรง

คุยกับ‘นิโคลัส โฮลท์’ซูเปอร์สตาร์มาแรง

17 เม.ย. 2559

คุยกับ “นิโคลัส โฮลท์” ซูเปอร์สตาร์มาแรงจากซอมบี้สู่หนุ่มมาดเนี้ยบใน “Equals”


          เรียกได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทอีกครั้งหนึ่งสำหรับ นิโคลัส โฮลท์ ซูเปอร์สตาร์หนุ่มหล่อ ที่เคยทำเอาสาวๆ กรี๊ดกร๊าด จากบทบาทซอมบี้หนุ่มในภาพยนตร์เรื่อง Warm Bodies และครั้งนี้เขาจะมารับบทเป็นหนุ่มมาดนิ่งแฝงรักลึกอย่าง ไซลัส แถมได้ประกบคู่กับ คริสเทน สจ๊วต ในภาพยนตร์เรื่อง “Equals” ชายหนุ่มที่จะต้องเลือกระหว่างการพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองคงอยู่ในสังคมได้ หรือจะทำตามเสียงหัวใจเรียกร้อง ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับนักแสดงหนุ่มคนนี้ กับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ที่เขายอมรับว่าเป็นบทที่ท้าทายไม่น้อยกว่าหนังเรื่องก่อนๆ ที่เขาเคยเล่น
 
 
@ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณได้ร่วมงานกับผู้กำกับไฟแรงอย่าง เดรค โดเรมัส รู้สึกอย่างไรบ้าง
          การทำงานกับเดรคสนุกมาก ผมว่าเขาเป็นผู้กำกับที่เก่ง ในการเล่าเรื่องของจิตใจมนุษย์มากเลยนะ เขาเป็นเจ้าพ่อหนังรักคนหนึ่ง ในสายตาผมเลยล่ะ เขาชอบเล่าถึงความสัมพันธ์ ความเป็นมนุษย์ การแสดงหนังเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพนักแสดงของผมเลย เวลาอยู่ในกองถ่ายรู้สึกได้เลยว่า เดรคสามารถปลุกอารมณ์ของทุกคนให้เข้าถึงหนังอย่างสุดๆ แม้แต่ทีมงานยังอินไปด้วยเลย
 
 
@ หนังเรื่องนี้บอกเล่าถึงอะไร
          เรื่องเกิดขึ้นในโลกอนาคต ที่โลกยุคของเราล่มสลายไปแล้ว ผู้คนที่เหลืออยู่ ก็สร้างรัฐบาลขึ้นมา มีเมืองใหม่ที่ทุกคนทำงานเกี่ยวกับการเดินทางไปอวกาศ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ พวกเขาคิดว่าการล่มสลายที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เป็นเพราะอารมณ์ความรู้สึกที่มากเกินไปของมนุษย์ เลยดัดแปลงยีนส์ ให้อารมณ์หายไปจนหมด แต่ไม่ถึงกับเป็นหุ่นยนต์นะ ทุกคนยังคงปฏิบัติหน้าที่การงานได้ แต่อารมณ์ความรู้สึกไม่เหลืออยู่เลย ผมเล่นเป็นไซลัส ชายคนหนึ่งที่อยู่ๆ เกิดมีความรู้สึกขึ้นมา จากนั้นเขาก็เกิดสะดุดตาเข้ากับนีอา ตัวละครของ คริสเทน สจ๊วต จนไซลัสรู้สึกตัวว่า “นี่มันไม่ปกติแล้ว ทำไมฉันเกิดรู้สึกอะไรขึ้นมาล่ะ” แล้วเรื่องก็จะเริ่มจากตรงนั้นไป บทบาทในหนังเรื่องนี้ คล้ายๆ กับบทซอมบี้ที่ผมเล่นใน warm bodies เหมือนกันนะ อยากให้ทุกคนได้ดูครับ ไอเดียของเรื่องนี้สดใหม่มาก มันบอกเล่าถึงพลังแห่งความรักได้งดงามจริงๆ
 
 
@ ได้ยินมาว่าในภาพยนตร์เรื่่องนี้ คุณได้ถ่ายทำในสถานที่ใหม่ๆ ที่ฮอลลีวู้ดไม่ค่อยไปกันด้วย
          ใช่แล้ว เรื่องนี้เราไปถ่ายทำกันที่ญี่ปุ่นกับสิงคโปร์ หนึ่งในนั้นคือ พิพิธภัณฑ์ซายามะอิเคะของคุณทาดาโอะ อันโดะ สถาปนิกมือหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นที่ที่สวยจนต้องหยุดหายใจเลย อาคารออกแบบมาได้เรียบหรู นอกจากนี้ ที่สิงคโปร์ก็ยังมีสวนสวยๆ ร่มรื่นมาก การเลือกสถานที่ถ่ายทำของเรื่องนี้เพิ่มคุณค่าให้หนังได้มากจริงๆ
 
 
@ ได้ร่วมงานกับ คริสเทน สจ๊วต เป็นครั้งแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง
          คริสเทนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดสุดๆ เลย ความเข้าใจในหนัง และความตั้งมั่นของเธอสุดยอดมาก ผมรู้สึกว่าเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลย เพราะหลายๆ ครั้ง ตัวผมเองยังไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่เธอสามารถอธิบายออกมาให้ผมฟังได้ และทันทีที่เข้าฉาก ผมเชื่อในทุกสิ่งที่เธอพูดและแสดงออกมาได้ทันที
 
 
@ เดรค โดเรมัส เป็นผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องการเตรียมงานที่ไม่เหมือนใคร เขามีวิธีการทำงานอย่างไรบ้าง
          เขามีวิธีการเค้นการแสดงออกจากเรา แต่ทำให้มันไม่เหมือนการแสดง ทำให้เป็นธรรมชาติที่สุด เท่าที่จะทำได้ ก่อนเริ่มถ่ายทำวิธีซ้อมของเราอาจจะแปลกสักนิด เขาให้พวกเราเช่าห้องอยู่ แล้วก็ทำตัวให้ซื่อสัตย์ที่สุด ตลอดสัปดาห์ในช่วงเวลานั้นเราไม่ได้อ่านบทด้วยซ้ำครับ เราอาจจะไปแตะบทแค่บางจุด แต่หลักๆ ในห้องนั้นก็คือ การพูดถึงชีวิตและประสบการณ์ของตัวเอง และก็เรียนรู้เกี่ยวกับคนอื่นๆ เพื่อให้เรารู้สึกสบายใจ เชื่อใจกันที่สุด เมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริง ในการซ้อมบางวัน ตลอดชั่วโมงแรก ผมกับคริสเทนจะหันหน้าเข้าหากัน และพูดว่า “สวัสดี” อยู่หนึ่งชั่วโมงเต็มเลย มันเป็นวิธีที่แปลก แต่กลับได้ผลมาก เมื่อถึงเวลาถ่ายทำ
 
 
@ กับบทที่ได้รับครั้งนี้ ถือว่ายากที่สุดของคุณเลยหรือเปล่า
          เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายเป็นอันดับต้นๆ ในชีวิตนักแสดงของผมเลย แต่โชคดีที่ทั้งเดรคและคริสเทนเก่งมากๆ และช่วยผมได้เป็นอย่างดี เดรคจะคอยบอกผมเสมอ ว่าต้องการอะไร เขาพูดกับผมเสมอว่า “นิค ผมไม่ได้อยากให้คุณแสดงเป็นใคร เมื่อคุณรู้จักไซลัสดีแล้ว จงทำตามสิ่งที่หัวใจของไซลัสเรียกร้อง แล้วแสดงมันออกมาให้จริงใจที่สุด” สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ต้องไปเกร็งอะไร เล่นไปตามที่ใจคิด ถึงมันจะยาก แต่สมจริงที่สุดครับ อีกอย่างคือ นี่เป็นเรื่องแรกที่เดรคใช้บทภาพยนตร์ในการถ่ายทำ ซึ่งช่วยผมได้นิดหน่อย แต่หลักๆ จะอยู่ที่การเล่นไปตามสัญชาตญาณมากกว่า
 
 
@ เราได้เห็นคุณเล่นหนังมาหลายแนวมาก มีแนวไหนหรือตัวละครไหน ที่คุณฝันอยากจะแสดงเป็นพิเศษไหม หรือว่าแล้วแต่บทและผู้กำกับ
          ผมคิดว่า แล้วแต่บทและผู้กำกับนะครับ จัดมาเลย ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะผมสนใจหลายๆ อย่าง ผมชอบทั้งหนักรักดีๆ ชอบหนังคาวบอย ชอบต่อยมวย ผมว่าจริงๆ มันขึ้นอยู่กับว่าผมสนใจในบทเหล่านั้นด้วยไหม ถ้าเป็นสิ่งที่ผมชอบก็จัดมาเลย ผมชอบความหลากหลายในบทบาทครับ
 
          ติดตามการแสดงของนักแสดงหนุ่มคนนี้ได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีคิวฉายในเมืองไทย 12 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น