ทำทุกวันให้มีความสุขในชีวิตวิธีคิดแบบ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ | คมชัดลึก

 

          เป็นพระเอกหนุ่มหล่อ มากฝีมือ ที่สาวๆ ต่างพากันเทใจให้ มาริโอ้ เมาเร่อ ล่าสุดนักแสดงหนุ่มกลับมาอีกครั้งกับผลงานภาพยนตร์สยองขวัญที่หลายคนรอคอย “Take me home สุขสันต์วันกลับบ้าน”  วันนี้  “คม ชัด ลึก” ฉบับนี้จะพามารู้จักกับหนุ่มโอ้ให้มากขึ้น ว่าแล้วไปสัมผัสตัวตนของหนุ่มคนนี้กันเลย....

 

 

          หนักเลย...เพราะเหตุการณ์ที่เจอมันหนัก ต้องไล่อารมณ์และความรู้สึก ภาพในหัว ต้องบิวท์อารมณ์ จินตนาการภาพในหัวตลอด ผมว่าเรื่องนี้ยากที่สุดแล้วตั้งแต่เคยแสดงมา ใช้พลังงานเยอะ มีทั้งวิ่ง ทั้งหนี ทั้งสู้ คิด ดูเราถ่ายทำกันตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 6 โมงเช้า ตอนนั่งรถกลับ หลับเลย รู้สึกว่าทำอะไรไปบ้าง มันเจออะไรเยอะมาก วันหนึ่งถ่ายกันเยอะมาก ส่วนเรื่องอาถรรพณ์โชคดีที่ไม่มีเลย เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับพี่ปีเตอร์ (นพชัย ชัยนาม) ผมเคยดูผลงานพี่ปีเตอร์หลายอย่าง ไม่เคยคิดว่าจะได้มาร่วมงานกับพี่เขา เขาส่งอารมณ์มาให้สุดๆ เลย กับพี่โขม (ก้องเกียรติ โขมศิริ) เป็นคนใจดี มีวิธีการสอน เขาจะเข้าใจเรา เวลาที่เราเล่นอะไรแบบนี้ มีการบอกอารมณ์ เพราะบางทีมีการถ่ายฉากข้ามไปข้ามมา เขาพยายามจะอธิบายเหตุผลตลอด ทำให้เราอินง่ายขึ้น และจับจุดเรื่องได้ พี่เขาตั้งใจในทุกช็อต สวยทุกช็อต ด้วยความที่เขาไม่ได้ทำหนังผีมานาน บทนี้พี่โขมเป็นคนเขียนเอง ก่อนที่โอ้จะได้รับเล่น โอ้ได้คุยกับพี่โขม แค่ฟังบท ผมรู้สึกว่าพี่โขมตั้งใจมาก เป็นบทที่น่าสนใจมาก และเคยได้ดูผลงานของพี่โขมมา ทั้ง ลองของ เฉือน อันธพาล เรื่องนี้จะเป็นอีกแบบ ต้องรอติดตาม

 

 

          วิวส่งอารมณ์ได้เต็มที่มาก สมาธิเขาเยอะ บางทีวิวพูดอะไรมา ผมนี่ขนลุกเลย ไม่ได้แบบอยากจะเข้าห้องน้ำนะ (หัวเราะ) แต่อารมณ์ได้จริงๆ หม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) มองว่าผมกับวิวมีหน้าตาคล้ายกัน ในเรื่องโอ้กับวิวเล่นเป็นเหมือนพี่น้องกันด้วย ส่วนตัวโอ้ว่ามีส่วนคล้ายนะ เคยเรียนการแสดงคลาสเดียวกับวิวมาบ้าง คิดเหมือนกันว่าวันหนึ่งน่าจะมีโอกาสร่วมงานกัน อย่างตอนเรื่อง “จันดารา” ได้เจอกัน แต่เจอกันแวบๆ พอรู้ว่าจะได้มาเจอกับวิวเต็มๆ รู้สึกดีใจ และประทับใจที่ได้ร่วมงานกับวิว เขาเป็นคนเต็มที่มาก เป็นคนตั้งใจในการทำงาน ทำการบ้าน และตั้งใจกับงานที่เขาทำ

 

 

          ฟีดแบ็กดี หลายคนบอกอยากไปดู ไปดูแน่ๆ ไม่พลาดแน่ ผมก็ดีใจ อยากเห็นคนไปดูหนังไทยเยอะๆ และช่วงนี้หนังไทยมีน้อยด้วย อยากให้ช่วยกันสนับสนุน อยากให้ไปดู ถ้าคนไทยไม่อุดหนุนหนังไทย แล้วใครจะดู

 

 

          เล่นหนังไม่ได้คิดว่าจะกี่ล้าน จะร้อยล้าน แค่คนดูดูแล้วชอบแล้วพากันไปดูเยอะๆ ก็โอเค ต้องฝากด้วย เป็นหนังที่โอ้ตั้งใจ เป็นบทที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ยอมรับว่ายากและเหนื่อยมาก รวมถึงทีมงานนักแสดง ก็เพื่อผลงานของเรา อยากให้ช่วยกันสนับสนุน เป็นหนังผีด้วย และมีเรื่องราวความรัก ความผูกพันของครอบครัวด้วย ผมว่ามันเหมาะกับช่วงสงกรานต์นี้ 13 เมษายนนี้ อยากให้ไปดูกัน คิดว่าน่าจะชอบ เป็นหนังที่ไม่ค่อยจะได้เห็นที่เป็นบทแบบนี้

 

 

          กำลังถ่ายทำ เรื่องนี้เล่นกับเต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ) สนุกดีนะ เป็นอีกอารมณ์เลย รักๆ หวานๆ คุณตู่ (ปิยวดี มาลีนนท์) ก็น่ารัก ช่วยในเรื่องของแอ็กติ้ง คือไม่รู้นะ เรื่องนี้ผมเล่นผมก็ชอบ มันจะเห็นพัฒนาการของตัวละครขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ตอน เรื่องนี้ได้ไปเจอน้องขวัญเมือง น้องช้างลูกของเต้ยด้วย เราก็แบบตอนนั้นอยากจะเซลฟี่กับขวัญเมือง สักพักผมก็ลืมว่าหูเขาใหญ่ มาตบเข้าที่หน้า ดังเป๊าะ ในชีวิตได้โดนช้างตบ (หัวเราะ) เรื่องนี้ขวัญเมืองได้เข้าฉากด้วยมีแวบๆ พอผมได้เจอกับน้องช้าง ผมว่าสิ่งที่เต้ยทำกับอเล็กซ์ (อเล็กซ์ เรนเดล) น่ารักมาก ช่วยช้าง เป็นเหมือนมูลนิธิช้างไทยที่ดูแลช้าง ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองเราต้องช่วยกันอนุรักษ์ ถ้ามีโอกาสอะไรผมยินดีช่วย สำหรับละครเรื่องนี้ ผมคิดว่าได้ชมกันในปีนี้

 

 

          ดีใจได้กลับมาร่วมงานกับน้องใหม่ ได้ร่วมงานกับน้องก็ยินดี โอ้ก็คงเต็มที่ น้องก็เต็มที่ ที่หลายคนอยากดู โอ้จัดให้เลย แต่รออีกแป๊บหนึ่ง เรื่องนี้คงอีกสักพักเลยกว่าจะเปิดกล้อง น่าจะประมาณกลางๆ ปีไปแล้ว พอรู้ว่าจะได้เล่น ก็ดีใจ อยากเล่น ผมชอบบท ในการทำงานผมว่าน่าจะง่ายขึ้น ตอนนี้ยังไม่ได้มีการฟิตติ้งเลย บทมานิดเดียว เรื่องนี้เป็นละครรีเมก ก็ไม่กดดันนะ ผมเคยได้เล่นละครรีเมก หนังรีเมกมาบ้าง โอ้จะไม่เคยมองว่ามันคือรีเมก ไม่งั้นเราจะติดภาพเดิมๆ จะมองว่านี่คือเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ไม่เคยดูมาก่อน คือผมอาจจะเคยดู เคยผ่านตามา แต่เวลาที่ผมเล่นจะไม่คิดว่านี่คือละครที่เคยทำมาแล้วนะ ดีใจเรื่องนี้ได้กลับมาร่วมงานกับพี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธุ์) อีก

 

 

          เขาคงเห็นว่าเราชอบงานตรงนี้ ก็อยากจะทำงานดีๆ แบบนี้ โอ้มีความสุขกับงานมากกว่า โอ้ว่าผู้ใหญ่คงรับรู้ได้ เหมือนเวลาเราทำอะไร ถ้าเรามีความสุข พวกอะไรที่เหนื่อยๆ มันจะหายไป และเราก็ทำงานอย่างเต็มที่กับงานที่ได้รับ

 

 

          เยอะนะ ทั้งความรับผิดชอบ โตเป็นผู้ใหญ่ เรื่องความมีสัมมาคารวะ การดูแลตัวเอง การรู้จักหน้าที่ ตั้งแต่เข้าวงการโอ้สามารถเก็บเงินซื้ออะไรได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน ที่ผมสามารถซื้อได้และเป็นความฝันของครอบครัว ถ้าโอ้ไม่ได้ทำงานตรงนี้ คงไม่มีโอกาสได้ช่วยแม่ ซื้อพวกอสังหาให้กับครอบครัว ภูมิใจ ดีใจที่ได้ทำงานตรงนี้

 

 

          โอ้อยู่วงการมาตั้งแต่อายุ 15 ปี รู้สึกว่ามันสนุก และมีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะ มีเด็กใหม่ๆ เข้ามา ผมมองว่าดี ที่มีน้องๆ ใหม่ๆ เข้ามาทำงานในวงการตรงนี้ ผมว่าเป็นงานที่มีเกียรติ ผมรู้สึกดีใจที่ได้อยู่ตรงนี้ เห็นอะไรหลายอย่างพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เราเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนร่วมเล็กๆ น้อยๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานอะไรอย่างนี้ และทำผลงานดีๆ ให้คนดูได้ดู ก็เลยมองว่าวงการเราก็พัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ว่าโอ้อยากให้คนไทยหันมาสนับสนุนหนังไทยเพิ่มขึ้น ละครไม่พูดถึง เพราะคนดูเขาดูกันอยู่แล้ว แต่ว่าหนังบางทีคนจะดูน้อยหน่อย อยากให้สนับสนุนกันเยอะๆ หนังไทยจะได้อยู่ เพราะว่ามันก็เป็นสมบัติของพวกเรากันเอง

 

 

          ช่วงแรกๆ เคยคิดมาก พอเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ค่อยอยากให้ใครรับรู้ เราก็เป็นคนธรรมดา แต่เราแค่มีหน้าที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ เลยจะรู้สึกเกร็งๆ เรื่องส่วนตัวเลยไม่ค่อยจะพูด ไม่ค่อยกล้าที่จะบอกสื่อ แต่ว่าพอโตมาก็รู้สึกว่ามันต้องปิดบังหรือเปล่าอะไรอย่างนี้ ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องปิดบัง เพราะว่าลำบากตัวเองด้วย ขี้เกียจมานั่งปิด แต่ถ้าไม่พร้อม ผมจะยังไม่อยากพูด จะค่อยๆ ใช้เวลา ไม่ไปรีบเร่งตัวเอง จะค่อยๆ ไป จะไม่ตกลงปลงใจรีบประกาศเลยอะไรอย่างนี้ จะไม่เป็นอย่างนั้นผมจะค่อยๆ พูดเท่าที่เราพูดได้ ที่ผมรู้สึก และที่มันเป็นความจริง ที่เหลือเราก็ไม่ปิดบัง เพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราใช้ชีวิตปกติ วิธีคิดแบบนี้ ก็เลยทำให้โอ้ ไม่ค่อยเกร็ง ไม่ค่อยรู้สึกว่าเราไม่มีความเป็นส่วนตัวนะ

 

 

          เรื่องเวลา เพราะเวลาเราทำงาน เราได้ค่าตอบแทนเยอะก็จริง แต่เรื่องส่วนตัวเราก็หายไปเยอะนะ เวลาเราอยากทำอะไรจริงๆ ชิ้นใหญ่ๆ เราต้องหยุดงานต่างๆ ที่เรารับเอาไว้ มันก็เลยค่อนข้างที่จะได้อย่างเสียอย่างแหละ ไม่มีอะไรได้ไปทั้งหมดหรอก เราเข้าใจกฎข้อนี้ เลยไม่คิดมาก และเดินหน้าต่อไป เพราะผมมองว่ามันเป็นงานที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าเอาชีวิตส่วนตัวไปเยอะไหม มันเยอะแหละ เพราะในทุกวันไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว เวลาออกไปไหนมาไหนคนก็จำได้ ชีวิตจะไม่ส่วนตัวแล้ว แต่ว่าเราเลือกมองในด้านที่ดี อะไรที่ไม่ดี เราพยายามหาเหตุผลดีๆ ของมันออกมาให้ได้ มันคือข้อคิดดีๆ ที่ได้อย่างหนึ่งที่ได้ในวงการนี้ แต่ว่าตอนแรกแรกผมไม่ได้รักงานตรงนี้ มันเลยไม่เข้าใจ แต่พอโตขึ้นมาแล้ว เริ่มรักและเข้าใจงาน มันเลยทำให้เราทำงานแล้วมีความสุข ไม่เครียด

 

 

          แล้วแต่บางวันนะ บางวันเขาก็ภูมิใจ บางวันก็ไม่ค่อยภูมิใจ (หัวเราะ) คือแม่ผมจะแมนๆ จะไม่ค่อยชมบ่อย แต่เขาจะชอบชมกับคนอื่น แล้วคนอื่นจะมาชมให้ฟังอีกที ก็เขินนะ คือวิธีการชมของแม่ แม่จะบอกว่าโอ้นี่มันได้แม่ ผมก็ภูมิใจ เพราะผมรู้สึกว่า แม่เป็นไอดอล เลยรู้สึกว่าถ้าแม่บอกว่าเราได้แม่ ก็รู้สึกดี ถ้าได้อะไรมาจากแม่นี่คือดีหมด (ยิ้ม) อย่างแรกที่ได้เลยคือ ดวงตาผมได้มาจากแม่ และหลายๆ อย่าง นิสัยลุยๆ ผมว่าผมได้มาจากแม่คนเดียวเลย พ่อผมก็ลุย แต่ว่าแม่ผมลุยกว่าอีก จากพ่อจะได้เรื่องภาษา ได้การมองโลก วิธีการใช้ชีวิต

 

 

          ตอนนี้ยังไม่มี ผมอยากทำงานตรงนี้ไปก่อน แต่มีทำธุรกิจร้านเสื้อผ้าชื่อแบรนด์ว่า “8Deuce8” ใส่เสื้อมาเยอะ แต่ผ้าอันนี้มันดีจริงๆ มันเท่ ที่ผมทำเสื้อ เพราะว่าผมเป็นคนชอบแต่งตัว ชอบเสื้อผ้า อยากทำแบรนด์ที่เราทำแล้วเราชอบ อะไรที่เป็นตัวเรา ที่มีคุณภาพ ดูดีไหมล่ะ (ยิ้ม) ตอนนี้มีวางขายในอินสตาแกรม เดี๋ยวจะมีทำเว็บไซต์ตามมา แล้วคิดจะเปิดร้านในอนาคต

 

.......................................

 

เกิด : 4 ธันวาคม 2531

ผลงานที่ผ่านมา : ภาพยนตร์ อาทิ รักแห่งสยาม, ฝันหวานอายจูบ, สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก, อุโมงค์ผาเมือง, จันดารา, พี่มากพระโขนง ฯลฯ

ละคร อาทิ รักเกิดในตลาดสด, มาดามดัน, รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน, รอยฝันตะวันเดือด, สองหัวใจนี้เพื่อเธอ ฯลฯ

ผลงานปัจจุบัน : ภาพยนตร์ Take me home สุขสันต์วันกลับบ้าน