บันเทิง

'ชาตรี กับครูไพบูลย์'

'ชาตรี กับครูไพบูลย์'

07 เม.ย. 2559

ชาตรี กับครูไพบูลย์ : คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว

 
          ช่วงของการคัดเลือกชายไทยไปเป็นทหารในช่วงนี้ และมีภาพนักร้องดาราหนุ่มที่น้ำตาไหลพรากเมื่อต้องเป็นทหารรับใช้ชาติทำให้นึกถึง เพลง “ทหารห่วงเมีย” ที่มีท่อนฮุกสวยๆ ว่า
 
          “...พี่จำเป็นจากเจ้าไปจับปืน เป็นทหารเหมือนชายอื่น น้องควรจะชื่นหัวใจ...”
 
          ชาตรี ศรีชล เขียนและขับร้องไว้ ซึ่งผมจดจำและประทับใจตั้งแต่วัยเด็ก เพราะชาตรี แต่งแบบสัมผัสอักษรได้ไพเราะจับใจ
 
          เกี่ยวกับการคัดเลือกทหาร นักร้องอมตะ ชาตรี ศรีชล เคยถูกจับติดคุกเพราะไม่ได้ไปเข้ารับการคัดเลือกทหาร ซึ่งในช่วงนั้น ชาตรี โด่งดังและเดินสายทั่วประเทศประสบความสำเร็จอย่างมากมาย งานต่างๆ ที่รับไว้ล่วงหน้าเป็นปีก็ต้องยกเลิก ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าโดนพวกไม่หวังดีกลั่นแกล้งขณะมีชื่อเสียง
 
          ชาตรี ศรีชล คือ อัจริยะบุคลที่นอกจากเสียงขับร้องที่กังวานแล้ว ยังเป็นคนเขียนเพลงที่มีลักษณะเฉพาะตัวหลายเพลง แม้แต่เพลงรักอกหัก ยังซ่อนข้อคิดเตือนใจหนุ่มๆ อย่างเพลง “คิดจะรักจงลืมคำว่าเสียใจ” ที่มีท่อนเด็ดๆ ว่า “อดข้าวสิตาย อดรักร่างกายไม่ตายชัก" “หัวใจคนหนุ่มมันร้อนรุ่มรักรุนแรง ต้องมายิ้มแห้งรักเปลี่ยนแปลงโรยรา”
 
          หลายเพลงที่เขียนออกจากใจ จากชีวิตจริงของตนเอง เพลง “ชีวิตดนตรี” คือ อีกหนึ่งเพลงที่เขียนและขับร้องได้มีเอกลักษณ์ที่น่าฟัง “ลูกขาดคู่เคียง ไร้คู่นอนเตียงของตน....” “มารักกับพี่ ร้องรำดนตรีติดตรึง เสียงแคนเสียงสังข์ฟังซึ้ง รักจึงรำพึงเสียงเพลง “ ท่อนจบของเพลง ฟังแล้วทำเอาอมยิ้ม เมื่อนึกภาพตาม “แม้นมีสาวสาว รุ่นราวอย่าแก่เกินไป มาเป็นแฟนเพลงโตงเตงติดตามกันไป รักกันจริงหัวใจ แสดงคราวใดก็มีเธอดู” เพลงแนวออดอ้นแฟนเพลง ชาตรี มีมากมายและรุ่มรวยทางภาษายิ่งนัก โดยเฉพาะเพลง “วอนแฟนเพลง” ที่มีท่อนเด็ดๆ มากมาย อาทิ “จืดก็ยังไม่จาง ห่างก็ยังเสียงใกล้” “เคยได้เป็นมิตรเพลง เร่งร้อยห้อยพวงมาลัย” “ดำเนินเดินเล่นตรึงตรา...” ซึ่งจับใจแฟนเพลงยิ่งนัก
 
          เพลงอกหักสุด ก็มีมากมาย อย่าง “เซซังยังซมซานใครกันจะเมตตา....” เพลง “ซมซาน “ เพลง “นามลืมทะเล” ที่มีคำสัมผัสสวยๆ อย่าง “ กลับหลงชาวกรุง เกียรติฟุ้งชื่อหอม ให้เขาดมดอม โดยไม่หันเห” “เมืองของคาว แต่ว่าสาวใจคด” ฯลฯ
 
          เพลง “ชำรักจากเมืองชล” เป็นเพลงที่บอกตัวตนของชาตรี ได้เป็นอย่างดี และยังมีวรรคทองหลายคำ เช่น “พี่ช้ำชอกออกจากเมืองชล พี่ต้องดั้นด้น ต้องทนหมองไหม้...” “แม้นได้สุขสมสอง พี่เป็นนักร้องแต่งกลอนร้องไป” เป็นการบอกลักษณะของการเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนของชาตรีอย่างชัดเจน
 
          ความสามารถทางเพลงและน้ำเสียงของ ชาตรี ศรีชล ทำให้บรมครูไพบูลย์ บุตรขัน จะต้องขอดูตัว และมอบเพลง “เมาเหล้าเมารัก” ไปให้ขับร้อง โดยเป็นเพลงที่ตรงกับผู้ขับร้องเป็นอย่างยิ่ง
 
          วันศุกร์นี้ จะเริ่มงานที่น่าไปชม ชื่องานว่า “อนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมและรำลึก ชาตรี ศรีชล” จัดโดยองค์การบริหารส่วนตำบล ทุ่งขวาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมตำบลทุ่งขวา วันที่ 8-10 เมษายน นี้ ที่สนามกีฬาโรงเรียนวัดนากระรอก ตำบลทุ่งขวาง พนัสนิคม ชลบุรี
 
          การประกวดร้องเพลงเงาเสียง "ชาตรี ศรีชล” เป็นช่วงที่น่าสนใจมากๆ ทั้งเด็กน้อยและผู้ใหญ่ ขึ้นเวทีร้องเพลงกันน่าประทับใจ มีนักร้องอาชีพร่วมใจถ่ายทอดเพลงครู โดยเน้นการเล่นดนตรีสด และมีการแสดงดนตรีแบบเต็มวงด้วย
 
          โดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ที่ บ้านคีตกวี ไพบูลย์ บุตรขัน จะมีกิจกรรมในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. กลางวัน คือ ชมรมอนุรักษ์ กลุ่มผู้สะสมแผ่นเสียงเก่า จะนำแผ่นเพลงครูไปเปิด และฉายหนังเก่าๆ เรื่อง “บ้านสาวโสด” ให้ชมด้วย หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่งาน “รำลึกชาตรี ศรีชล” โดยเดินทางจากปทุมธานี สู่เมืองแปดริ้วแล้วเลี้ยวขวาไปพนัสนิคม ชลบุรี เส้นทางเชื่อมต่อกันพอดี
 
           ทั้งสองงาน คือ ความสุขของคนรักเพลงเก่าที่จะหากันได้ในช่วงก่อนสงกรานต์นี้