
เปิดอก!'เชอรี่ สามโคก'โชว์หวิว-ศิลปะ?
เปิดอก!'เชอรี่ สามโคก'โชว์หวิว-ศิลปะ? : รายการ คม ชัด ลึก
จากกรณีนางแบบดัง อย่าง “เชอรี่ สามโคก” แต่งกายชุดวาบหวิว ทูพีซ เต้นโชว์ลีลาคู่กับนายแบบด้วยลีลายั่วยวน ที่บริเวณบูธแสดงสินค้าของค่ายเครื่องเสียงรถยนต์ค่ายหนึ่งในงานมอเตอร์โชว์ 2016 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เห็นว่า ไม่เหมาะสม ท่าเต้นเป็นไปในลักษณะลามกอนาจาร ขณะที่บ้างก็ว่าเป็นศิลปะการแสดง
น.ส.ลฎาภา รัชตะอมรโชติ หรือ "เชอรี่ สามโคก" พริตตี้สาวชื่อดัง กล่าวว่า วันนี้ (28 มี.ค.) เดินทางไปที่ศาลแขวงนนทบุรี เนื่องจากตำรวจส่งฟ้องศาล ข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล ซึ่งศาลพิจารณาให้ปรับ 3,000 บาท แต่ให้การเป็นประโยชน์ ให้ปรับกึ่งหนึ่ง เหลือ 1,500 บาท
จากคำถามที่ว่า หากย้อนเวลากลับไปได้จะแสดงโชว์ชุดนี้หรือไม่ ตรงนี้ ตอบไม่ได้ ตอนที่แสดงรู้แต่ว่าเป็นกระแสพูดถึง ไม่คิดว่าเป็นกระแสสังคม มีการตั้งคำถาม จนกระทั่งถึงตำรวจ ส่งฟ้องศาล ปกติทำงานด้านการแสดงโชว์เซ็กซี่อยู่แล้ว ทุกงานจะมีการโปรโมทการแสดงทางโซเชียล งานนี้เป็นงานแรกที่ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ ที่ทำให้กระแสสังคมทวงถามถึงความเหมาะสม ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แสดงคู่กับผู้ชาย นอกจากนี้ท่าเต้นถูกสังคมบอกว่าลามกอนาจาร
ต่อไปก็คงต้องตระหนักถึงการรับงาน งานนี้ไม่ได้ตระหนักถึงสถานที่ ตรงนี้ขอยอมรับผิด ที่ไม่ได้วิเคราะห์ ไม่ได้ตระหนักให้ดีก่อน
ไม่เคยรับงานมอเตอร์โชว์มาก่อน และไม่เคยไปเที่ยวงานมอเตอร์โชว์เลย
การเลือกรับงานแสดง ทุกคนมีลิมิตการรับได้ รับไม่ได้ หากได้รับการติดต่อให้แสดงในลักษณะไม่เหมาะสมก็ไม่รับอยู่แล้ว ถึงแม้จะเคยเล่นหนังอิโรติกมาแล้วก็ตาม งานเป็นการแสดงโชว์ ซ้อมก็ซ้อมในห้องเต้นที่มีครูสอนเต้น คู่เต้น สิ่งที่เราพยายามทำออกมาให้สมบูรณ์ที่สุด ดีที่สุด ตามโจทย์ที่ลูกค้าให้มา
ที่ผ่านมาเคยปฏิเสธงานเยอะมาก อย่างเช่น งานโป๊เปลือย อย่างนี้ไม่รับแน่นอน ในอดีตเคยมีต่างชาติติดต่อให้ไปร่วมแสดงหนังเอ็กซ์ก็ปฏิเสธเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเงินเยอะแล้วจะทำอะไรก็ได้ เชอรี่ก็มีลิมิตในการรับงาน
สำหรับงานนี้ ที่รับงานเนื่องจากคาดการณ์ไม่ถึง จริงๆ แล้วตอนซ้อม เต้นแรงกว่านี้ ในคลิปที่เป็นข่าวในวันงาน เพียงแค่ครึ่งหนึ่ง 50% เท่านั้นของวันซ้อม หลังแสดงเสร็จยังขอโทษนักเต้นฝ่ายชาย เนื่องจากตัวเองผิดจังหวะ
ตอนซ้อมทางทีมงานก็ดูแล้ว เลือกแล้ว ถ่ายคลิปแล้ว และส่งให้ออร์แกไนซ์ดูแล้ว ซึ่งบางท่วงท่าก็ถูกทักท้วงว่าแรงไป ให้ตัดออก ก็ยังเป็นกระแสถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ดร.จิรา กฤตยพงษ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ตนเองก็เคยเป็นพริตตี้ของรถยนต์ค่ายหนึ่งในงานมอเตอร์โชว์มาก่อน ในขณะนั้นก็มีเรื่องของความเซ็กซี่ แต่ท่าทางการเต้นไม่ได้ออกมาในเชิงเพศเหมือนสมัยนี้
ชุดที่พริตนี้ใส่ในปัจจุบันนี้ คิดว่าคงไม่มีอะไรเยอะไปได้มากกว่านี้ เพราะคิดว่าทางผู้จัดคงไม่ปล่อยให้เกินเลยไปกว่านี้อีกแล้ว
ในกรณีของ “เชอรี่ สามโคก” นับว่าเป็นบทเรียนให้แก่หลายๆ สินค้า เพราะส่งผลกระทบในวงกว้าง
สิ่งที่่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ผู้จัดต้องการให้ประชาชนรู้จักสินค้าของเขา เพราะจ้างนักแสดงมาเพื่อเรียกคนเข้าบูธ ด้วยความหวังว่า คนจะมาสนใจสินค้าของเขาและนำไปสู่การซื้อในอนาคต
แต่ปัญหาก็คือ บางครั้งผู้ที่เข้าไปชมให้ความสนใจนักแสดง การแสดง ซึ่งเป็นไปได้ที่เขาไม่ได้จดจำตัวสินค้าเลยก็ได้ ถ้ามองในหลักวิชาการถือว่า ยังไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ถือว่าสำเร็จในการเรียกคนเข้าบูธ แต่มีกี่คนที่มองดูสินค้า ให้ความสนใจกับสินค้า จดจำสินค้า
จะเห็นได้ว่า กรณีนี้หลายคนเข้าใจว่าเป็นการโปรโมทให้รถยนต์ยี่ห้อหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงกับการแสดง ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเป็นการเรียกคนให้เข้ามาดูเครื่องเสียง หลายคนไม่ทราบว่า เป็นเครื่องเสียงยี่ห้ออะไร
จริงๆ แล้ว ถ้ามองภาพก็มองได้หลายมุม ปัญหาอยู่ที่สถานที่มากกว่า หากแสดงอยู่ในผับ สถานที่เที่ยวกลางคืน ก็คงไม่แรงขนาดนี้ ที่แน่ๆ เป็นการเรียกร้องความสนใจ
ถามว่า การเรียกร้องความสนใจ ที่่ใช้ประเด็นเรื่องเพศ ทำไมต้องใช้เรื่องนี้ ต้องถามสังคมว่า แล้วสังคมทุกวันนี้ มุ่งแต่เรื่องพวกนี้หรือเปล่า?
คือมันเป็นสิ่งที่ขายได้ พอขายได้ก็ตกเป็นเครื่องมือของนักการตลาด เคสนี้เป็นเหมือนการลองของ ถ้าทำแล้วประสบความสำเร็จก็อาจจะมีการเลียนแบบ
แต่ปัญหาที่เกิด ณ วันนี้ ถ้ามองในแง่ดี อาจจะทำให้เจ้าของสินค้ารู้จักระมัดระวัง ตระหนักมากขึ้น รวมถึงตัวนักแสดงเองด้วย