
เบ็คแฮมควัก250ล้านอุ้มธุรกิจเมีย
15 มี.ค. 2559
เบ็คแฮม ควัก 250 ล้านอุ้มธุรกิจเมีย : บันเทิงต่างประเทศ
เชื่อแน่ว่าใครหลายคนคงอิจฉา วิคตอเรีย เบ็คแฮม ที่ดูจะประสบความสำเร็จไปเสียทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น หรือเรื่องหน้าที่การงานที่สามารถก้าวข้ามจากการเป็นนักร้องวง “สไปซ์ เกิร์ลส์” ขึ้นมาเป็นเจ้าของห้องเสื้อชั้นนำในวงการภายในเวลาอันรวดเร็ว
แต่จะบอกว่าความสำเร็จของวิคตอเรียทุกเรื่องมีคนผู้หนึ่งเป็นลมใต้ปีกที่สำคัญ นั่นคือ เดวิด เบ็คแฮม สามีอดีตนักฟุตบอลฝีเท้าจัด และแสนจะรูปหล่อของเธอ ซึ่งหนังสือพิมพ์เดอะ ซันรายงานว่า เดวิดควักกระเป๋าถึง 5.2 ล้านปอนด์ หรือกว่า 250 ล้านบาท เพื่ออุ้มธุรกิจห้องเสื้อของศรีภรรยาที่ขาดทุนไป 3.8 ล้านปอนด์
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่อดีตนักร้องสาววัย 41 ปีตัดสินใจเปิดบูติกสุดหรูขึ้นที่ย่านเมย์แฟร์ ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 2557 ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายไปเกือบ 3 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 150 ล้านบาท ทำให้เดวิด เบ็คแฮม ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยศรีภรรยาเนื่องจากในปีนั้น ธุรกิจหลายอย่างของเดวิดมีผลกำไรรวมกันร่วม 12.7 ล้านปอนด์ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดทำบัญชีบอกว่า สามีภรรยาคู่นี้จะมีการถ่ายโอนรายได้ระหว่างบริษัทของกันและกันอยู่เป็นประจำ
หลังจากที่เลิกเป็นนักร้องแล้ว วิคตอเรียได้หันมาเปิดห้องเสื้อที่มีชื่อเดียวกับตัวเอง และปลุกปั้นจนประสบความสำเร็จจนได้รับรางวัล ดีไซเนอร์ แบรนด์ ออฟ เดอะ เยียร์ จากเวที “บริติช แฟชั่น อวอร์ดส์” ไปครองในปี 2554 พอสองปีต่อมา เธอก็ได้รับการยกย่องให้เป็น “เจ้าของกิจการแห่งปี 2014” จากนิตยสารแมเนจเมนท์ ทูเดย์ ที่ยกย่องวิคตอเรียว่าสามารถใช้มูลค่าความเป็นเซเล็บของเธอมาตั้งบริษัทที่มีมูลค่าร่วม 210 ล้านปอนด์ได้
ในส่วนของเดวิด เบ็คแฮม นั้น หลังจากที่แขวนสตั๊ดในปี 2556 แล้ว เขาก็กลายมาเป็นอดีตนักกีฬาค่าตัวแพงที่สุดในโลกจากการรับแคมเปญโฆษณา และแผนการตลาดกับบริษัทชั้นนำหลายแห่งทั้ง อดิดาส เอชแอนด์เอ็ม และนาฬิกาสุดหรูยี่ห้อ “ไบร์ทลิ่ง” นอกจากนี้เขายังมีรายได้มหาศาลจากธุรกิจอื่นจนทำให้นิตยสารฟอร์บส์ประเมินว่าเดวิดมีรายได้มากถึง 50.8 ล้านปอนด์ หรือกว่า 2,500 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้วเลยทีเดียว
ฟังแล้วก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่า กะอีแค่ควักกระเป๋าช่วยเมียไป 200 กว่าล้าน ไม่ทำให้เดวิด เบ็คแฮม ขนหน้าแข้งร่วงอย่างแน่นอน