‘เชย์ลีน วู้ดลีย์’กับบทบาทเดิมใน‘Allegiant’ | คมชัดลึก

 

      เตรียมพบการกลับมาของฮีโร่สาวน้อยผู้เกิดมาเพื่อสร้างความแตกต่าง กับภาคต่อภาพยนตร์แอ็คชั่นแฟนตาซีเขย่าโลกฟอร์มแรงแห่งปี “The Divergent series: Allegiant” ที่ครั้งนี้ เธอและผองเพื่อน ต้องผจญภัยในโลกใบใหม่ที่กว้างใหญ่ตระการตากว่าเดิม ฉากแอ็กชั่นดุเด็ดเผ็ดมัน กับอุบัติการณ์กู้โลกที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ซึ่งนับเป็นภาคที่ เชย์ลีน วู้ดลีย์ มารับบทเป็น ทริส ไพรเออร์ ฮีโร่สาวสุดเกร่งของซีรีส์ ซึ่งในชั่วโมงนี้ วู้ดลีย์ถือว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงสาวที่กำลังรุ่งพุ่งแรงที่สุดในโลก ซึ่งสาว เชย์ลีน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการกลับมารับบทเป็น ทริส ไพรเออร์ อีกครั้ง

 

 

      สำหรับภาคนี้ธีมของมันก็คือ จงพังกำแพงที่ขวางกั้นโลกของคุณ ซึ่งความน่าสนใจของมัน ก็ตรงกับข้อความนั้น คือผู้ชมจะได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะภาคนี้เป็นภาคแรกที่ทริส โฟร์ และเพื่อนๆ ได้ออกสู่โลกภายนอกกำแพงเมืองชิคาโก และมีอะไรรอพวกเราอยู่เพียบเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้คนกลุ่มใหม่ “กระทรวงสวัสดิการทางพันธุกรรม” แต่ฉันคงยังบอกไม่ได้ว่าพวกเขามีบทบาทอะไร ถึงพวกคุณบางคนที่อ่านหนังสือจะรู้อยู่ลึกๆ แล้วก็ตาม นอกจากนี้แล้ว ก็คงเป็นฉากแอ็กชั่นใหม่ๆ อาวุธใหม่ๆ อุปกรณ์ใหม่ๆ ในภาคนี้ฉันสนุกกับพวกมันมากเลยล่ะ

 

 

      จอร์จ คลูนีย์ (ผู้กำกับ) สอนฉันว่า ให้จริงจังกับงาน แต่ก็จริงจังกับความสนุกด้วย ฉันว่าฉันได้อะไรจากเขามาเยอะมาก เวลาดูจอร์จทำงาน พอกล้องเริ่มถ่าย เขาก็จะแสดงได้อย่างสุดยอด แต่พอกล้องคัทเท่านั้นแหละ หันไปอีกที ก็เห็นเขาเล่นบาสอยู่กับทีมงาน หรือไม่ก็ทำแซนด์วิชแจกคนในกองถ่ายอยู่ เพราะฉะนั้นมันคงกลายมาเป็นบุคลิกของฉันที่จริงจังกับงาน แล้วก็มองหาความสนุกในงานไปด้วย อย่างในฉากที่จะต้องวิ่งไล่รถไฟ กระโดดขึ้นกระโดดลง ฉันก็เล่นอย่างเต็มที่เลย เพราะมันก็สนุกด้วย มีเทคหนึ่งที่พลาดตกจากรถไฟ แล้วหัวฟาดพื้น ฉันก็เจ็บนะแต่มันสนุกไง อีกห้านาทีต่อมา ฉันก็ลุกมาบอกทีมงานเลยว่า สบายมากถ่ายกันต่อเถอะ

 

 

      มันก็มีที่บาดเจ็บบ้าง แต่ก็แค่เล็กๆ น้อยๆ ถึงฉันรู้ว่ามันจะมีความเสี่ยงบ้าง แต่ก็อยากจะผลักดันไปให้ถึงที่สุด ทำไมเราจะทำไม่ได้ล่ะ ยังไงก็ทีมเซฟตี้ก็ไว้ใจได้ แถมฉันยังได้ทำให้อะดรีนาลีนของทั้งตัวเองทั้งผู้ชมสูบฉีดอีก โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะบาดเจ็บอะไรเลย มันอาจจะมีโดนชนหรือฟกช้ำบ้าง เลวร้ายที่สุดก็อาจจะมีอะไรหัก แต่ฉันเชื่อตลอดว่า มันจะไม่มีการบาดเจ็บถึงขั้นคอขาดบาดตาย นี่แหละทำให้ฉันทุ่มเทได้ถึงที่สุด เราก็แค่ทำตามขั้นตอน ทิ้งความกลัวลงถังขยะ แล้วก็ระมัดระวังตัวให้ดีแค่นั้นเอง

 

 

      แน่นอน ภาคนี้มันไม่ได้อยู่แต่ในชิคาโกแล้ว เพราะฉะนั้นโลกในเรื่องก็จะกว้างขึ้น พอโลกกว้างขึ้น เราก็มีอิสระที่จะใส่ฉากแอ็กชั่น หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปมากขึ้น อย่างยานบินที่เห็นฉันขับในเทรลเลอร์นี่ก็สนุกมากเลยค่ะ นี่ยังไม่นับพวกการฝึกอาวุธใหม่ๆ ที่คนอื่นๆ เล่นกัน กับฉากแอ็กชั่นอีกมากมายนะ

 

 

      ฉันคงบอกอย่างชัดเจนไม่ได้ว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเป็นไปทางไหน แต่เอาเป็นว่าในภาคนี้ พวกเขาทั้งสองจะได้รับรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับตัวเอง แต่มันจะส่งผลยังไงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ฉันคงขอให้ไปดูกันเองดีกว่า

 

 

      ถ้านับเรื่องความสัมพันธ์ด้านการงาน เราต่างเป็นนักแสดง ที่มีเคมีที่เข้ากันมาก ฉันรู้สึกสบายๆ ในทุกฉากที่เล่นร่วมกับธีโอ ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ ฉากรัก ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ และก็ทำงานด้วยง่ายมากๆ ซึ่งนั่นทำให้ภารกิจที่เราตั้งไว้ ว่าอยากให้การแสดงออกมาเป็นธรรมชาติและสมจริงในทุกๆ ฉาก สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่ถ้าเป็นในแง่เรื่องส่วนตัว ฉันคงต้องบอกว่าเราต่างมีชีวิตส่วนตัวของเรา และคงไม่ดีนักหากจะพูดอะไรออกไปนะ

 

 

      อย่างที่ฉันบอกไปว่า ในภาคนี้จะเป็นการเปิดเผยอะไรใหม่ๆ ทั้งหมด โลกใบใหม่ ตัวละครใหม่ อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ และมันจะทำให้ฉากแอ็กชั่น รวมถึงเนื้อเรื่องเข้มข้นไปยิ่งกว่าเดิมมากๆ ฉันมั่นใจเลยว่านี่จะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในซีรีส์ divergent มาก่อน รวมถึงใครที่ลุ้นเรื่องราวความรักของทริสและโฟร์อยู่ ก็จะได้เห็นอะไรในมุมมองใหม่ๆ ของพวกเขา อย่าลืมมาให้กำลังใจพวกเรากัน