
ชีวิตคิดแบบจุ๋ย-วรัทยา ข้ามผ่านคำว่านางเอก
05 มี.ค. 2559
ชีวิตคิดแบบจุ๋ย-วรัทยา ข้ามผ่านคำว่านางเอก : บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... ภัทรวรรณ สุนทรธนานุกูล ภาพ... วริศรา วุฒิกุล
ภาพจำแรก หากพูดถึงนักแสดงสาว “จุ๋ย” วรัทยา นิลคูหา คงหนีไม่พ้น ดวงตากลมโต และเรียวปากได้รูปของเธอ และถ้าหากพูดถึงภาพจำในเรื่องของการแสดงของสาวคนนี้ หลายๆ ต่อหลายคงยังจำบทบาท “พระสุพรรณกัลยา” จากเรื่อง “กษัตริยา” และ “สายน้ำผึ้ง” ผู้หญิงร้ายลึก จากเรื่อง “สามีตีตรา” ได้เช่นกัน ล่าสุดกับบทบาท “ผีริ้วทอง” ในกำไลมาศ ซึ่งนับว่าเส้นทางการเป็นนักแสดงของเธอ มีความหลากหลายมากขึ้น วันนี้ “สกู๊ปวันเสาร์” จึงสบโอกาสดี ชักชวนเธอ มาพูดถึงเรื่องราวชีวิตและการทำงานของเธอ อย่างคนคุ้นเคย
@@ อัพเดทผลงานเรื่องล่าสุด
@ พูดถึงละครเรื่อง “กำไลมาศ” หน่อย
เรื่องนี้ช่างคุ้มค่ากับการเป็นนักแสดงมากๆ เลยนะ เพราะได้เล่นหลายบทบาท หมายถึงได้เล่นหลากหลายอารมณ์ของตัวละคร สนุกนะ จุ๋ยชอบตัวละครอย่างริ้วทองนะ และชอบตอนที่ถ่ายเป็นผีมากกว่านะ เพราะว่าได้ปลดปล่อยนะ แต่ที่สนุกจริงๆ ก็ตอนที่ริ้วทองเป็นคน เนื่องจากเรื่องราวในอดีตส่งผลมาถึงปัจจุบันว่าทำไมเขาถึงอาฆาตแบบนี้ มันมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน ซึ่งคนดูต้องติดตามนะ พลาดไม่ได้เลย
@ มุมมองที่มีต่อ “ริ้วทอง”
จริงๆ ริ้วทองเป็นคนน่าสงสารนะ เขาไม่ได้เกิดมาในฐานะร่ำรวยเหมือนท่านหญิงรัมภา (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์) แต่เขาอาจจะโชคดีที่มีครอบครัวที่ดี ดวงชะตาต้องมาเจอะเจอกับปัญหาต่างๆ มากมาย ริ้วทองเป็นคนธรรมดาปกติคนหนึ่งนะ แต่ดันไปรักกับคนที่เขามีคู่หมั้นคู่หมายแล้วอย่างม.จ.ดิเรก (“เต้ย” พงศกร เมตตาริกานนท์) เมื่อริ้วทองได้เป็นภรรยาของท่านชาย ก็มีเรื่องราวของความอิจฉาริษยา ในพาร์ทอดีตผู้หญิงในเรื่องร้ายทุกคนเลยนะ แต่จะร้ายแบบมีเหตุผลในตัวเอง เป็นเรื่องของผู้หญิง ที่ชอบผู้ชายคนเดียวกัน ซึ่งพวกเราก็จะแซวเต้ยว่าเต้ยหล่อมาก (เน้นเสียงพร้อมหัวเราะ)
@ ความยาก-ง่ายในการแต่งเป็นผีริ้วทอง
จุ๋ยเป็นคนไม่กลัวเรื่องเอฟเฟกท์อะไรเลยนะ แต่การที่เป็นผีริ้วทองเนี่ย ขึ้นที่สูง ขึ้นตึก ขึ้นหลังคา บางทีก็เป็นต้นไทร ต้องต่อนั่งร้านขึ้นไป ซึ่งจุ๋ยกลัวความสูง ครั้งแรกๆ ก็มีข่มใจนะ แต่พอเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ ความน่ากลัวแต่ละสถานที่ ที่เปลี่ยนๆ ไปก็ทำให้ดีขึ้น แล้วก็ถ้าเป็นผีริ้วทองจะปวดตา เพราะว่าจะต้องทำตาใหญ่มาก
@ ฉากที่ยากที่สุดในเรื่องนี้
เรียกว่าฉากหินดีกว่า เป็นฉากที่ว่าถ่ายลำบากดีกว่านะ เป็นฉากตอนต้นเรื่อง ที่ท่านหญิงรัมภามาฆ่าริ้วทอง เริ่มจากว่ามันดึกประมาณตี 3 ฝนตกอีก แล้วก็ต้องมีเอฟเฟกท์ แล้วมันเป็นฉากที่ต้องตัดแขนเป็นที่มาของเรื่อง ทุลักทุเลนิดหนึ่ง ยุงเยอะด้วย แล้วต้องเล่นไว้เพื่อซีจีอีกด้วย ส่วนฉากอารมณ์ที่ยากน่าจะเป็นฉากรักกับเต้ยเนี่ยล่ะ (ยิ้ม) เพราะเต้ยใหม่มากสำหรับจุ๋ยนะ เขารักเราได้ไม่เต็มที่ (หัวเราะ) ต้องคอยส่งอารมณ์ไปมา ต้องบอกก่อนว่าริ้วทองและท่านชายดิเรก เป็นตัวละครที่ต้องรักกันมาก ด้วยความที่เราสองคน ก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน และด้วยความที่เป็นพีเรียด เป็นการพรอดรักให้ดูพีเรียด คือวิธีการนำเสนอและสถานที่เป็นพวกป่า
@ มาถึงการร่วมงานกับเจนี่กันบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง
กับพี่เจนี่ ความรู้สึกเหมือนกับพี่สาวเลยนะ พี่เขาเป็นคนทะโมน ตลกๆ และการทำงานส่งรับกันดีตลอด พี่เจนี่บอกว่าละครมันจะสนุกต้องอยู่ที่ตัวนักแสดงด้วย ต้องไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่าคนใดคนหนึ่งจะมาเล่นนำไป พี่เจนี่ชอบการแสดงที่ต้องรับส่งกันมากกว่า ฉากที่เข้ากับพี่เจนี่ มีหลายฉากที่สนุกนะ อย่างฉากที่เขาต้องทรมานเราก็สนุก ซึ่งสำหรับจุ๋ยชอบเข้าฉากกับพี่เจนี่ ที่เป็นพาร์ทของอดีตนะ เพราะพาร์ทปัจจุบันจุ๋ยต้องเป็นผีริ้วทอง ได้แต่แวบไปแวบมาเท่านั้นเอง
@ แล้วกับพระเอกอย่างเต้ยล่ะ
สำหรับเต้ย เขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากนะ ตั้งใจจนเกร็งเลย เราต้องคอยปลอบเขานะ (หัวเราะ) ทั้งพี่เจนี่และพี่หญิง (รฐา โพธิ์งาม) ก็ต้องช่วยๆ กัน จุ๋ยก็จะบอกเขาว่า เราสองคนต้องรักแบบนี้ จับหน้าพี่ได้เลย ด้วยความที่เขาเป็นรุ่นน้อง เขาก็จะเกร็ง เราก็ต้องละลายพฤติกรรมของเขา (หัวเราะ) คุยเล่นกัน ให้ความรู้สึกเป็นเพื่อนกัน ก็จะดีขึ้น รับส่งอารมณ์ดีขึ้น
@ หลายคนมองว่าเรื่องนี้จุดสนใจคือการฟาดฟันกันของริ้วทองและท่านหญิงรัมภา
ไม่นะ ต้องบอกว่าถ้าเรื่องนี้ไม่มีเต้ยในบทของท่านชายดิเรก ก็จะไม่มีจุดกำเนิดของเรื่องนะ ถือว่าเป็นจุดสำคัญนะ แล้วการที่เต้ยต้องมาเจอรุ่นพี่ทั้งหมด เต้ยรับบทหนักมาก ถือว่าเขาเก่งมากเลยนะ ที่ผ่านมาได้
@ สำหรับละครเรื่องสามีตีตรา ถือว่าเป็นละครที่เป็นมาสเตอร์พีซแล้ว กลัวคนนำมาเปรียบเทียบไหม
อย่างแรกต้องบอกละคร 2 เรื่องนี้ มันคนละแนว จุ๋ยก็ไม่อยากคาดหวังนะ คือเราไม่สามารถจะรู้ได้เลย ว่าละครแต่ละเรื่องที่ออกอากาศเรื่องไหนจะเข้าไปนั่งอยู่ในใจของคนดูนะ มันอาจจะแล้วแต่ช่วงเวลาด้วยนะ เราได้แต่ทำหน้าที่ของเรา ให้ออกมาดีที่สุดเท่านั้นเองนะ ละครผีเราก็ต้องทำใจ เพราะแฟนคลับเราบางคนเขาก็กลัวผีมาก เขาอาจจะเปลี่ยนช่องดูก็ได้นะ ละครแนวนี้จุ๋ยมองว่าเป็นละครเฉพาะกลุ่มที่ชอบแนวนี้นะ แต่คิดว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สนุกมากนะ และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
@ นอกเหนือจากความแซบ แล้วคิดว่าคนดูละครจะได้อะไรจากเรืื่องนี้บ้าง
จริงๆ เรื่องนี้ก็สอดแทรกธรรมะนะ คนทำไม่ดี ก็ต้องได้ไม่ดีกลับไป เรื่องของการให้อภัย หากเราผูกใจเจ็บ ก็จะตามมาเจอกันไปในทุกๆ ชาติ เพราะว่าในเรื่องจะมีพี่่เจสัน (เจสัน ยัง) รับบทเป็นพระ คำพูดของพระปราบ ก็จะสอนคนได้ ตัวละครของริ้วทอง ก็เปรียบเสมือนความแค้น ความชิงชัง ที่โกรธเกลียดกัน
@@ชีวิตการเป็นนักแสดง
@ เลือกรับบทในการแสดงอย่างไร
(ยิ้ม) ถามว่าดูไหม จุ๋ยคงต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่านะ ความเหมาะสมของตัวละคร ณ วันนี้ของจุ๋ย เวลาก็สำคัญมากๆ เนื่องจากว่าจุ๋ยมีงานต่างๆ ที่ต้องทำ เพราะตอนนี้ จุ๋ยมีพิธีกร 4รายการ ดังนั้นเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญนะ หลังจากนี้สิ่งที่จุ๋ยจะรับ มันไม่ใช่แค่เรื่องของบทบาทอย่างเดียว อาจจะมี เช่น เราอยากจะกลับไปเล่นกับค่ายนี้ เพื่อทดแทนบุญคุณ อยากจะพิสูจน์ว่าที่ผ่านมาจุ๋ยไม่ได้มีอะไรเลย และจุ๋ยก็สามารถกลับไปได้ เรากับผู้ใหญ่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน อีกหนึ่งอย่างที่จะบอกว่าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
@ ถือว่า “เมียหลวง” ที่รับเล่นให้ทาง “กันตนา” คือเครื่องการันตีว่าไม่มีปัญหาใด
ใช่นะ ตอนนี้มันก็เป็นกระแสของคนที่เกิดขึ้นมานะ ต้องทำใจ และตอนนั้นจุ๋ยไม่ซีเรียสและเครียดนะ เพราะรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ เฉยๆ ไปกับในเรื่องของกระแสนั้นๆ และทั้งนี้ยังมีกับทางเวิร์คพอยท์ ที่จุ๋ยต้องรับเล่นถืือว่าเป็นละครแนวทางเลือก 101 ตื๊อ รักนายกระจอก ที่เล่นกับพี่โน้ส (อุดม แต้พานิช) ซึ่งจุ๋ยไม่เคยทำงานกับพี่โน้สมาก่อน เคยดูตั้งแต่เดี่ยวแรกจนมาถึงเดี่ยว 11 และวันหนึ่งได้มาทำงานด้วย ซึ่งถือเป็นคนเก่งคนหนึ่งเลย คือเมื่อเรามาถึงจุดหนึ่ง งานที่แปลก งานที่ทำแล้วมีอะไร หรือว่างานที่สนใจในหลากหลายรูปแบบเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจมากกว่านะ
@ข้ามผ่านการรับบทนางเอกมาแล้ว
ใช่นะ คือจุ๋ยไม่ได้เลือกว่า ต้องเป็นตัวนำเรื่อง หรือเป็นนางเอกของเรื่อง ต้องคู่กับคนนี้หรือคนนั้น คือตอนนี้โลกมันเปิดกว้างมากแล้ว ทางละครมันไม่ได้อยู่แค่นั้นแล้ว เดี๋ยวนี้มันเปิดกว้าง อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้และท้าทายได้ อะไรก็สามารถเข้าถึงคนดูได้ หากทีมงานตั้งใจ ซึ่งในปี 2559 จุ๋ยตั้งใจไว้เลยว่า จุ๋ยจะทำงานละครให้มากที่สุดเลยนะ เพราะว่ามีผู้จัดละครหลายคนรอมานานมาก จุ๋ยปฏิเสธไปก็หลายคนนะ
@ เป็นนักแสดงอิสระมากี่ปีแล้ว
ไม่เชิงอิสระนะ พอหมดสัญญาปุ๊บจุ๋ยเลือกทางเดินของจุ๋ยด้วยสายพิธีกร มาที่เวิร์คพอยท์ และด้วยความที่ที่นี่่น่ารักและให้อิสระกับจุ๋ยมากในเรื่องของละคร คือเราบอกว่าละครก็เป็นชีวิตของเรา และอยากพัฒนาในศักยาภาพทางสายละครของเราไปเรื่อยๆ และจุ๋ยเป็นคนที่ค่อนข้างโชคดีนะ ที่สามารถแยกภาพความเป็นพิธีกรและการเป็นนักแสดงออกได้อย่างชัดเจน คนไม่ติดภาพ อย่างตอนที่เล่นเป็นสายน้ำผึ้งในละครเรื่องสามีตีตรา พอมาเล่นเรื่องฝันเฟื่องคนก็ไม่ติดภาพตอนเป็นสายน้ำผึ้งนะ
@บทบาทของการเป็นพิธีกร
จริงๆ จุ๋ยทำงานพิธีกรมานานมากแล้ว ตั้งแต่ทำงานกับคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) แล้ว แต่ถ้าว่าจะมาชัดจริงๆ ก็คงต้องมาอยู่ที่เวิร์คพอยท์นะ ก่อนหน้านี้ ก็เคยทำทัั้งของทางช่อง 7 และอาร์เอส จุ๋ยต้องขอขอบคุณทุกทาง ที่ให้จุ๋ยได้ทำงานพิธีกร สำหรับเวิร์คพอยท์ ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง ว่าเป็นที่ที่ได้สร้างบุคลากรที่เป็นตัวพิธีกรที่มีคุณภาพจริงๆ แล้วจุ๋ยก็ได้วิชามาจากบอสของจุ๋ยก็คือพี่ตา (ปัญญา นิรันดร์กุล)
@@อัพเดทสถานะหัวใจ
@ ณ ตอนนี้ยังต้องมาลุ้นสถานะกับ “พุฒ” พุฒิชัย เกษตรสิน
ไม่ต้องลุ้นแล้วมั้ง (หัวเราะ) สิ่งที่เราทำมันค่อนข้างชัดเจน ด้วยคำพูดบางอย่าง ด้วยความที่เราเป็นนักแสดง เป็นคนสาธารณะ บริบทต่างๆ หรือบทบาทางสังคมต่างๆ ทำให้เราพูดได้ไม่หมด แต่ว่าในการกระทำของเราชัดเจน คือเราสองคนค่อนข้างโตกันแล้ว เราไม่ใช่เด็กน้อยที่เป็นคู่จิ้น แล้วคนเชียร์ๆ เราไม่คิดถึงตรงนั้น สิ่งที่มองกันจริงๆ ก็คือตัวตนภายใน ใจคอกัน ตัวพุฒเขาเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองอยู่แล้วนะ จุ๋ยไม่เคยมานั่งพูดกันในเรื่องของข่าว ว่าเราสองคนจะต้องตอบอย่างไร หรือต้องมานั่งบอกว่าต้องเตรียมคำตอบดีๆ นะ เขาเป็นคนตอบคำถามที่ดีนะ ทำให้คนแวดล้อมของจุ๋ยรู้สึกว่าเขาให้เกียรติเรา และเกิดความประทับใจในตัวเขา
@ ความประทับใจที่มีต่อพุฒ
ด้วยความที่เราสองคนผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นกันมาแล้ว ผู้ชายเขาก็จะมีช่วงที่เขาซนๆ โลดโผน เราเองก็มีประสบการณ์ด้านความรัก หรือว่าได้เห็นอะไรมาเยอะ ดังนั้นเราผ่านอะไรมาอย่างชัดเจน ตอนนี้เราสองคนก็อยู่ในวัยกลางคนแล้ว ด้วยสิ่งที่เรามองเป็นเรื่องของทัศนคติ เรื่องที่ผู้ใหญ่โตๆ เขามองกัน พุฒเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดี และเป็นคนที่ดูแลความรู้สึกของคนรอบข้างๆ และทัศนคติการใช้ชีวิตของเราสองคนคล้ายๆ กัน ก็คือความเรียบง่ายและเบสิก แล้วเราชอบคนขยัน คนทำงาน
@ ในวันที่ทัั้งคู่มีข่าวมากมายให้กำลังใจกันอย่างไร
มีคุยกันนะ แต่เราเข้าใจโลก และเข้าใจชีวิตนะ มันมาจากความมีชื่อเสียง แต่คนอาจจะไม่รู้จักตัวตนของเราจริงๆ ไม่มีใครมารู้ชีวิตของเรา 100 เปอร์เซ็นต์ อาจจะมีคนพูดไปเรื่อย มาจากการมโนก็แล้วแต่ ถามว่ากระแสบั่นทอนความรู้สึกไหม จุ๋ยรู้สึกตกใจมากกว่า เอ้ย ไม่เคยเจออะไรแบบนี้นะ แต่ดีมากที่เป็นพุฒนะ และดีมากที่จุ๋ยอยู่ในครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณท่านก็มีคำพูดให้เราสบายใจ บอกว่าเราไม่ต้องกังวล และไม่ต้องเป็นอะไรเลย เพราะทุกอย่างมันก็จะผ่านไป เรารู้ตัวดีว่า เราเป็นอย่างไร คนใกล้ชิดรู้ว่าเราเป็นอย่างไร สิ่งที่รู้คือใจของเราเอง เขาจะว่า จะอะไร ปล่อยเขาไป แต่ถ้ามาแบบหยาบคาย หรือโรคจิตก็มีบล็อกบ้างนะ จุ๋ยไม่โต้ตอบนะ วันๆทำงานตั้งเยอะ ถ้าวิจารณ์ละคร จุ๋ยปล่อยนะ ไม่อะไรนะ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้วนะ จุ๋ยว่าคนที่รัก เขาพร้อมให้กำลังใจเราอย่างยาวนาน แต่คนที่มาแบบบ้าๆ บอๆ มันเหนื่อยอะ เขาคงเหนื่อย แต่เขาก็ทำให้เราใจเย็น ฝึกจิตนะ
@ มองถึงเรื่องของการแต่งงานไหม
ถามว่ามองไหม ก็มองบ้างนะ เพราะว่าเราสองคนไม่ใช่เด็กๆ แล้ว แต่มันก็ยังเป็นอะไรที่หลวมๆ อยู่นะ คิือมันยังไม่ใช่ตอนนี้หรือเดียวนี้
.......................................
นี่แหละ...“จุ๋ย” วรัทยา
รู้จักเธอ ...คนนี้
ชื่อ วรัทยา นิลคูหา
ชื่อเล่น จุ๋ย
เกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2526
จบการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา, ระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานสร้างชื่อ กษัตริยาของค่ายกันตนา
ผลงานที่ผ่านมา นางฟ้าเดินดิน หนึ่งตะวันพันดาว ภูตแม่น้ำโขง บ่วงวันวาร
ผลงานปัจจุบัน กำไลมาศ
งานด้านพิธีกร รายการชิงร้อยชิงล้าน