บันเทิง

เล่นหูเล่นตา : ซ้อมแล้ว...ซ้อมอีก(2)

เล่นหูเล่นตา : ซ้อมแล้ว...ซ้อมอีก(2)

22 ก.พ. 2559

เล่นหูเล่นตา : ซ้อมแล้ว...ซ้อมอีก (2) : โดย...เจนนิเฟอร์ คิ้ม

 
      ฉันเคยคิดว่าการซ้อมคอนเสิร์ตจะสิ้นสุดตรงที่ "วันซ้อมใหญ่" หรือเรียกอีกอย่างว่า "รันทรู" (Runthrough) แต่ความจริงก็คือ...ซ้อมมันจนรอบสุดท้ายที่แสดงนั่นแหละค่า!
 
      “วันนี้ซ้อมใหญ่กี่โมงจ๊ะ”
 
      ฉันมาถึงพารากอนฮอลล์ ตอน 3 โมงเย็นตามที่ทีมงานนัดหมาย แก้ม-กัน-ป๊อป ปองกูล มาก่อนฉัน ตามด้วยเบนที่เพิ่งไปฉีดยารักษาเส้นเสียงบวมกลับมา แต่ละคนโดนกันไปคนละเข็มสองเข็ม ยกเว้นฉันกับป๊อป.... ของฉันหมอเขาไม่ฉีด "เด๊กซ่า" (Dexa) ยาแก้เส้นเสียงอักเสบให้ พอๆ กับไม่ฉีดโบท็อกซ์ให้แล้วเพราะเต็มแม็กซ์แล้วเหมือนกัน จนทุกวันนี้กลายเป็นพวกดื้อ Dexa กับ Botox ฉีดไปก็ไม่ได้ผลอะไร เอิ่ม... ตายไปเลยดีมั้ยคะคุณ ไอ้โน้นก็ไม่ได้ ไอ้นี้ก็ไม่ช่วย...
 
      กันตาแดงเพราะแพ้แสงเป็นปกติของเขา สีหน้าอิดโรยและแววตาเป็นกังวลทำให้ฉันอดถามไม่ได้...
 
      “เป็นอะไรจ๊ะพี่กัน?”
 
      “เขานอยด์พี่...น้องจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ขึ้นคอนเสิร์ต” แก้มตอบแทน
 
      “ผมกังวลเพราะต้องร้องกับพวกพี่ๆ” กันให้เหตุผลสั้นๆ
 
      เอ่อ...คุณน้องคะกังวลเรื่องอายุ น้ำหนักหรือปากคะ! ถ้ากังวลนอกเหนือจากนี้พี่ว่า พี่คิ้มกับพี่แอม ควรกังวลมากกว่ามั้ยคะ? ที่จะต้องขึ้นคอนเสิร์ตกับเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงและฝีมือฉกาจอย่างพวกน้องเนี่ยอ่ะค่ะ พี่กับพี่แอมต้องทำบังสุกุลเก๊ต่ออายุทุกครั้งก่อนขึ้นเพราะกลัวอายุขัยจะไปไม่ถึง เกิดตายคาเวทีจะสร้างความเสียหายให้เจ้านายคือ "พี่ฉอด สายทิพย์" มั้ยคะคุณ?
 
      “กังวล ตื่นเต้น เป็นเรื่องดี เพราะความรู้สึกแบบนั้นมันจำเป็นสำหรับนักร้องมันช่วยกระตุ้นให้เกิดพลังงานบางอย่างที่จะสร้างความสุขให้กับคนดู ปล่อยให้ความกังวลและความตื่นเต้นมันทำงานของมันไป แล้วเราก็ทำงานของเราไป เดี๋ยวเสียงกรี๊ด เสียงปรบมือจะทำให้ทุกอย่างลงตัวเอง”
 
      น้องกันพยักหน้าหงึกๆ แล้วยิ้ม แต่แววตาก็ยังคงเหมือนเดิม แล้วกรูจะเสียเวลาอธิบายทำไมเนี่ย? พูดๆ อยู่อาหารการกินและสรรพสิ่งความอร่อยก็ถูกทยอยส่งเข้ามา จากความรักความห่วงใยของแฟนคลับน้องกัน....
 
      “โห! โชคดีจังเลย มีคนคอยรักคอยห่วงขนาดนี้”
 
      ฉันคว้ากล่องอาหารเปิดดูของกิน เอฟรี่ติงส์หลายสิ่ง จริงๆ ค่ะ
 
      “หนูก็อาศัยกินของน้องๆ เขาตอนถ่ายอยู่ในรายการสี่โพธิ์ดำของทั้งแฟนคลับกันแฟนคลับตั้ม”  ดวงตาและรอยยิ้มเปื้อนหน้าของแก้มทำให้ฉันเข้าใจได้ว่านางคุ้นชินกับสิ่งเหล่านี้สำหรับฉันและคนที่เหลือไม่คุ้น คุ้นแต่ข้าวกล่องของทีมงาน อันนั้นก็ไม่ขี้เหร่นะคุณ หน้าตามีสกุลกว่าคนกินอย่างฉันเสียอีก! แต่เป็นเงินของเจ้านาย (พี่ฉอด) แทนที่จะเป็นของแฟนคลับ ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น สลัดปูนิ่ม หรือไก่บอนชอนเรียงหน้ากันมา ซึ่งถึงตรงนี้กันคงกินจนไม่รู้จะกินยังไงแล้ว แต่คนรูปหล่อใจดีที่หายากในยุคนี้ กลับยื่นมือมาจับแขนฉันแล้วจ้องตาอย่างจริงจัง แอบคิดแบบหนังน้ำเน่าว่า...เขาจะพูดว่า...
 
      “เราแต่งงานกันเถอะ”
 
      ความจริงก็คือ... “พรุ่งนี้พี่คิ้มอยากทานอะไรครับ เดี๋ยวผมบอกแฟนคลับให้เอามาให้ทาน”
 
      โหย! ดีขนาดนี้ไม่มีวันได้มาทำพันธุ์ ตามสถิติโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ที่ฉันเคยพบเจอมา! ฉันหยิบของกินเข้าปากแจมกับน้องแก้มที่กินอาหารเหมือนเป็นของที่เขาตั้งใจเอามาให้พวกเรา เอาน่า! เหมือนถวายพระ เวลาเอามาวางรวมกันพระก็ฉันร่วมกัน อย่างไรก็ได้บุญนะคะคุณ...
 
      "ของกินนี่ยังไม่เท่าไหร่นะคะ บางคนบินตามน้องกันตอนไปโชว์ตัวที่ต่างประเทศทุกที่เลย" แก้มจะเป็นผู้บรรยายที่ให้ความกระจ่างในทุกแง่มุมกับพวกเราเกี่ยวกับกัน
 
      "โชคดีโนะ คนหน้าตาดี ร้องเพลงเก่ง ของพี่ไปเล่นถึงหน้าบ้านยังไม่มีใครแง้มประตูออกมาดูเลย! "
 
      เสียงป๊อป ปองกูลตัดพ้อ แต่ฉันหัวเราะกลิ้งจะตกเก้าอี้ พอกินเสร็จมองดูนาฬิกาที่ข้อมือจะ 2 ทุ่มแล้วยังไม่หือไม่อือ ชุดเสื้อผ้ายังไม่มา พวกเราก็หาอะไรเล่นต่อ หลังจากผลัดกันขึ้นไปซ้อมร้อง ซ้อมเต้น บล็อกกิ้งเวที  กำหนดจุดเดิน-ยืน จนไม่รู้จะทำอะไรกันแล้ว จะทำอย่างอื่นก็เกรงว่าจะไม่งาม เกรงใจผัวเรา...ก้อง สหรัถ! ความจริงเราไม่เน้นซ้อม เราเน้นมาสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน (เมาท์กัน) เวลาขึ้นเวทีจะได้ไม่เคอะเขิน
 
      “สิริ (Siri) ร้องเพลงให้ฉันฟังหน่อยซิ!” เสียงแก้มพูดใส่โทรศัพท์มือถือเหมือนนางกำลังพากย์หนังการ์ตูนอยู่สักเรื่อง
 
      “ฉันร้องไม่ค่อยเก่ง” โทนเสียงสำเนียงแปร่งๆ เหมือนฝรั่งพูดภาษาไทยตอบมาทางโทรศัพท์  “น่า...ร้องให้ฟังหน่อยนะ...ฉันอยากฟัง” แก้มเร้าหรือ
 
      “มด...มดตัวน้อยตัวนิด มดมีฤทธิ์น่าดูยู้ฮู” เอ่อ... นี่เมิงร้องหรือเมิงท่องคะอีสิริ! ฉันคิดในใจ  “ถ้าเราด่านางๆ จะเข้าใจเรามั้ย?” ฉันถามแก้ม ทุกคนมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม
 
      “มานี่...น้องเอง...อิห่า!” เบน ชลาทิศ ขึ้นเสียงสูงใส่สิริ
 
      “พูดดีๆ ก็ได้” เสียงสิริปรามเบน พวกเราหัวเราะกิ๊กกั๊ก แล้วเบนก็เพิ่มดีกรีเป็นคำด่าที่แรงขึ้น (อยากให้อ๊อฟ ปองศักดิ์อยู่ด้วย จะสนุกกว่านี้!)
 
      "ฉันได้หาความหมายของคำนี้ในพจนานุกรมแล้ว...
 
      แปลว่า... “อันนี้แหละหัวเราะจนน้ำตาไหล นางช่างหาคำแปลมาแปลความหมายได้ใกล้เคียงแต่ไม่เจ็บแสบ สิรินี่นางน่ารักจริงๆ เหมือนหุ่นยนต์ผู้ดีที่ไม่เข้าใจคำหยาบคายในภาษาไทยที่สูงส่ง และลักลั่นทางการใช้ภาษา บางคำที่พวกเราผลัดกันถามนางก็จะเหวอ นางว่า... “ฉันว่าฉันไม่เข้าใจความหมายที่คุณพูด” จะเข้าใจได้ไงมันไม่ถูกบันทึกไว้ให้อัพเดทตามคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เหล่าเก้ง กวาง บ่างชะนีอย่างพวกเราบัญญัติขึ้นมาใหม่ได้ทุกวันนี่นา!
 
      “ทำอะไรกัน เด็กๆ” เสียงเจ๊แม่...ดอกไม้เหล็ก ดังเข้ามาพร้อมตัว ทำหน้าสโหลสะเหลเหมือนเมาหมากพลูอยู่ตลอดเวลา นางเดินมากอดและหอมแก้มฉันอย่างเอ็นดูเหมือนทุกครั้งที่ได้เจอกัน
 
      ***โปรดติดตามตอนต่อไป***