บันเทิง

กฤษนะทัวร์ยกล้อ : ท่องเที่ยววิถีไทยที่เชียงราย

กฤษนะทัวร์ยกล้อ : ท่องเที่ยววิถีไทยที่เชียงราย

22 ก.พ. 2559

กฤษนะทัวร์ยกล้อ : ท่องเที่ยววิถีไทยที่เชียงราย ศิลปะ ธรรมชาติ แหล่งอาหารสุขภาพ (1)

 
 
แม่สรวยสวยสู่สร้าง ทางสวรรค์
 
แม่สายอยู่คู่ตะวัน  คู่ฟ้า
 
แม่จันแจ่มใจอัน  จรัสจ้า
 
แม่ฟ้าหลวงล่วงหล้า หล่นฟ้า มาฝัน
 
 
     เมื่อช่วงวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางขึ้นไปเหนือสุดแดนสยามที่ จ.เชียงราย อีกครั้ง ร่วมกับคณะสื่อมวลชน-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งจัดงานประชุมสัมมนาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 20 ชาติที่นั่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยชูภาพลักษณ์ประเทศไทยในความเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ตระการตาวิถีไทย ยิ่งใหญ่ด้วยศิลปะประเพณี มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล นำไปสู่การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืนแท้จริง
 
     ไปเชียงรายคราวนี้ ผอ.แชด หรือ ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ได้พาผม และคณะสื่อมวลชน เดินทางสำรวจบรรยากาศการท่องเที่ยวในเชียงราย และไปสัมผัสธรรมชาติ รวมถึงการท่องเที่ยววิถีชุมชน ที่ ฟาร์มไก่ไข่ออร์แกนิก อ.แม่สรวย และที่ไร่บุญรอด อ.เมือง
 
     ผอ.แชด บอกว่า เชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติ และมีศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ล้ำค่า อีกทั้งยังเป็นเมืองศิลปะที่สวยงาม มีชื่อเสียงระดับโลก เช่นที่ วัดร่องขุ่น ที่โดดเด่นเล่าลือเรื่อง พุทธศิลป์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ บ้านดำ ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี 2 ศิลปินแห่งชาติผู้ยิ่งใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้ เชียงรายจะมีจุดขายทางด้านวิถีชีวิตชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวเขาเผ่าต่างๆ มากมายบนดอยสูง
 
     อย่างเช่นที่หมู่บ้านชาวเขาบนดอยวาวี ที่ อ.แม่สรวย ซึ่งคณะเราเดินทางโดยรถตู้จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติและวิถีชุมชนที่สงบงามและน่าสนใจบนยอดดอยแห่งนี้ได้
 
     ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ชาวเขาจำนวนหลายครัวเรือนบนดอยวาวี ได้ทำอาชีพเสริมจากการปลูกพืชไร่ คือ การทำฟาร์มไก่ไข่ออร์แกนิก เป็นการเลี้ยงไก่ไข่ที่ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งอาหาร ยา และปุ๋ย จึงปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งผู้เลี้ยง และผู้บริโภค โดยมี แซ็ค หรือ แซกการี โกมส์ หนุ่มชาวอเมริกันจากมหานครนิวยอร์กที่หลงใหลกลิ่นอายธรรมชาติวิถีไทยถึงขั้นมาปักหลักทำธุรกิจฟาร์มไก่ไข่ปลอดสารพิษอยู่ที่นี่ พร้อมกับเป็นพี่เลี้ยงใหญ่แก่ชาวบ้านไปด้วย ชีวิตก็เลยลงตัว
 
     แซกการี บอกว่า ปัจจุบัน มีชาวเขาดอยวาวีทำฟาร์มไก่ไข่ออร์แกนิกเป็นอาชีพเสริม จำนวน 39 ครัวเรือน เลี้ยงไก่ไข่ทั้งหมด 1.9 หมื่นตัว ผลิตไข่สู่ท้องตลาดได้เดือนละ 3.4 แสนฟอง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่มีมากถึงกว่า 6 แสนฟองต่อเดือน จากเดิมที่เขามีรายได้จากอาชีพหลัก คือ การปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพด และถั่ว ปีละประมาณ 6 หมื่นบาทต่อครัวเรือน หลังจากมาทำฟาร์มไก่ไข่ฯ ทำให้มีรายได้เพิ่มอีกปีละถึง 1.4 แสนบาทต่อครัวเรือน ทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น ปีนี้จึงตั้งเป้าขยายการทำฟาร์มไก่ไข่ออร์แกนิกเป็น 65 ครัวเรือน โดยไข่ไก่จะส่งไปขายตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารออร์แกนิก และซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ทั้งในเชียงราย และทั่วประเทศ
 
     ผมเองก็เคยได้ไปเห็นการทำฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่มาหลายแห่ง ส่วนใหญ่ไปเห็นแล้วก็อดสงสารมันไม่ได้ จนต้องหยุดกินไก่ และไข่ไก่ไปหลายวัน เพราะไก่ทุกตัวจะถูกขังอยู่อย่างแออัดยัดเยียดในคอกแคบๆ พอให้กระดิกตัวได้ จนกว่าจะออกไข่หมด ก็จะถูกส่งตัวไปเป็นอาหารต่อไป ชีวิตไก่ดูมันช่างน่าเวทนามาก แต่การเลี้ยงไก่ไข่ออร์แกนิกบนดอยวาวีแห่งนี้ เหมือนอยู่คนละโลกกับฟาร์มเลี้ยงไก่ทั่วไป เพราะไก่ทุกตัวที่นี่จะถูกปล่อยให้อิสระอยู่ตามธรรมชาติ โดยมีคอกกั้นบริเวณที่กว้างใหญ่ ทำให้ไก่ทุกตัวสามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างมีความสุข ด้วยสภาพแวดล้อม และอาหารที่ปลอดสารเคมี
 
     “ในอนาคต การทำฟาร์มไก่ไข่ออร์แกนิกที่ดอยวาวี จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนได้อีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวได้มาเห็นการทำฟาร์มไก่ไข่ที่ปลอดภัยไร้สารพิษ ได้มารับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากการมาเที่ยวชมธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวเขาชาวดอยที่มีอยู่อย่างหลากหลายใน จ.เชียงราย อันเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวที่นี่ปีละประมาณ 3 ล้านคน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้แก่เชียงรายปีละกว่า 2 หมื่นล้านบาท” ผอ.ฉัททันต์ แห่ง ททท. กล่าว
 
     สัปดาห์หน้า มาสัมผัสมนต์เสน่ห์เชียงราย ทางด้านความเป็นเมืองศิลปะ-ศิลปินกันบ้างครับ