
ตามรักคืนใจเมื่อ'ราชสีห์'หลงรัก'หนูนา'
13 ม.ค. 2559
ตามรักคืนใจ เมื่อราชสีห์หลงรัก หนูนา : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย... นันทพร ไวศยะสุวรรณ์
ติดลมบนไปแล้ว สำหรับละครรีเมกอารมณ์ฟีลกู้ด “ตามรักคืนใจ” ของค่าย “ละครไท” กำกับการแสดงโดย ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
เรียกว่าลบคำสบประะมาทได้อย่างสมศักดิ์ศรี “แบร์รี่-อู๋-มิว” (ขออนุญาตหัวเราะ--ฮ่าๆ)
เพราะหะแรก กระแสเปรียบเทียบของเก่าเมื่อปี 2541 ที่ทำไว้ดี๊ดีเหลือเกินกับเวอร์ชั่น “อู๋-ธนากร, ปูเป้-รามาวดี, อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์” ที่ทำให้คนดูเคลิ้มตามจนฟินสุดๆ มาแล้ว
ในยุคนั้น “อู๋-ธนากร" ในบท “นายสิงห์” เข้ามานั่งอยู่ในใจสาวๆ แบบไม่ต้องออกแรงมาก
และแทบไม่น่าเชื่อว่า คล้อยหลังอีกเกือบ 20 ปี ถึงวันนี้ “อู๋-ธนากร” ที่ขยับจากพระเอกมาสวมบท “น้าราม” หรือพ่อของนางเอก ยังดูเท่ สุขุม อบอุ่น สมวัยรุ่นใหญ่ แถมบทจะบู๊ เขาก็ปกป้องสาวๆ ได้ประหนึ่งฮีไร่ผู้ไม่กลัวใคร
เรียกกระแสให้กลับมาได้อีกครั้ง และยิ่งเห็นการแสดงของณเดชน์ ในบท “นายสิงห์” นายใหญ่ของไร่ที่หล่อเข้มกระชากใจ (แม้อายุดูจะน้อยไปหน่อย) บวกกับความน่ารักน่าสงสารของ “หนูนา” ที่ได้ “มิว-นิษฐา” มารับบทสาวน้อย ที่ปลอมตัวมาเป็นคนงานในไร่ “บัวขาว” ก็เล่นได้อย่างเข้าขากันดี
ทั้งที่เรื่องราวไม่มีอะไรที่ซับซ้อนมากมาย แต่ส่วนผสมที่ลงตัวยังงี้ นั่งดูแล้วมีความสุขจริงๆ
“ตามรักคืนใจ” เป็นนวนิยายขายดีของ “กิ่งฉัตร” ที่เล่าเรื่องราวของ “หนูนา” หรือ “นารา” ลูกสาวของ “รัศมี” (ธัญเรศ เองตระกูล) หลานสาวของ “วรรณ วรรณพาณิชย” (มนตรี เจนอักษร) นายธนาคารชื่อดัง
แม้หนูนาดูเหมือนว่าจะมีพร้อมทุกอย่าง แต่ลึกๆ ในใจแล้ว เธอโหยหา “พ่อ” มากที่สุด พ่อที่่แม่บอกว่าเสียชีวิตไปเมื่อเธออายุได้ 5 ขวบ
จนมารู้ความจริงว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ออกสืบหามาถึง “ไร่บัวขาว” จ.เชียงราย
“หนูนา” ขอสมัครทำงานที่ไร่แห่งนี้ พร้อมค้นหาความคิดในใจของพ่อ ว่ายังรักเธอและแม่อยู่มั้ย...
ช่วงเวลาที่หนูนาใกล้ชิดพ่อ โดยที่ไม่บอกว่าเป็นลูก คือภาพคนงานสาวต่างถิ่นที่ไม่ประสากับงานอะไรเลย ซ้ำยังสร้างความเสียหายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงถูกไล่ออกไปตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ทว่าทุกเรื่องราวกลับกลายเป็นความน่าเอ็นดูในสายตาของ “นายสิงห์” หรือสีหนาท (ณเดชน์) เจ้าของไร่
“นายสิงห์” เจ้านายมาดเข้มผู้ไม่เคยรู้จัก “ความรัก” ค่อยๆ เข้ามาใกล้ชิดกับตัวป่วนประจำไร่
เขาทั้งยียวน กวนโมโห อาศัยความเป็นเจ้านายคอยสั่งการตลอดเวลา
ฉากเปิ่นโก๊ะต่างๆ และการต่อปากต่อคำกันของทั้งคู่ เป็นความน่ารักในระดับพอดีๆ ที่ส่งให้พระ-นางคู่นี้ กลายเป็นคู่จิ้นที่ลงตัว แบบดูไปจิกหมอนไป
ยิ่งฉากที่ทั้งสองต้องพบเจอกับเหตุการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกัน จึงก่อเกิดเป็นความรักในระดับที่คนดูเผลอลุ้นตามไปด้วย
ถึงได้บอกว่าเป็นละครกุ๊กกิ๊ก ที่ดูแล้วยิ้ม ไม่มีบท “นางร้าย” ที่คอยแยกเขี้ยวตบตีเหมือนเรื่องทั่วๆ ไป มีบ้างพอกรุบกริบ แต่ก็ชัดเจนว่า ทั้งคู่รักกัน และไม่มีใครแหยมมาเป็นมือที่ 3 ได้
“ตามรักคืนใจ” เป็นละครที่ดูได้เรื่อยๆ เดาเรื่องไม่ยาก แต่ดูเพลินแบบไม่อยากให้จบ และไม่อยากรอนานข้ามสัปดาห์
พล็อตเรื่องแนวนี้ ใช่ว่าจะทำให้น่าติดตามได้ทุกเรื่อง เพราะ “ละครโทรทัศน์” เป็นโลกของการแสดงที่จะต้องทำให้สมจริง ดูแล้ว “อิน” ซึ่งผู้กำกับต้องใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่บท นักแสดง ฉาก (โลเกชั่น) องค์ประกอบต่างๆ
สำหรับเรื่องนี้ บางฉากอาจจะมีเว่อร์บ้าง หรือไม่สมเหตุสมผลในบางเรื่อง แต่เมื่อดูโดยรวมแล้ว มันกลมกล่อมลงตัว
งานศิลปะอะไรก็ตาม บางทีไม่จำเป็นต้องทำเรื่องยากๆ ที่ดูไม่รู้เรื่อง หรือทำงาน “(มัก)ง่าย” จนดูถูกคนดูเกินไป
“สุนทรีย์” ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเรารู้สึกว่าเสพย์งานแบบไหนแล้วมีความสุข...
นั่นก็เป็น “ความบันเทิง” ในแบบฉบับของคุณแล้ว