บันเทิง

เอกเขนกดูหนัง:'Hero'

เอกเขนกดูหนัง:'Hero'

24 ธ.ค. 2558

'Hero' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

 
          ดูเหมือนจะถูกใช้เป็นชื่อหนัง ชื่อซีรี่ส์ เยอะแยะมากมายหลายสัญชาติ จนแทบจะกลายเป็นชื่อโหลไปแล้ว แต่ "ฮีโร่" ชื่อของซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ เคยได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นซีรีส์ที่คนญี่ปุ่นติดตามชมมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อครั้งซีซั่นแรกที่ออกอากาศในปี 2001 ทว่าทางผู้สร้างก็ไม่ได้ฉกฉวยโอกาสรีบร้อนสร้างซีซั่นที่สองตามมา จนกระทั่งในอีก 13 ปีต่อมา “ฮีโร่” ซีซั่นที่สองก็ได้ฤกษ์ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวีทุกวันจันทร์ สามทุ่ม (ช่องเดียวกับซีซั่นแรก) ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไปไม่น้อย จนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ออกฉายในปีนี้ มีผู้ชมมากกว่า 1 ล้านคน จนได้รับการบันทึกว่าเป็นหนังที่สร้างจากซีรีส์ที่มีผู้ชมเกินล้านคนได้เร็วที่สุดประจำปี 2015 เลยทีเดียว...ทำไมซีรีส์หน้าตาธรรมดาๆ เรื่องนี้ ถึงได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมชาวอาทิตย์อุทัยนัก (รวมถึงผู้ชมชาวไทยบางกลุ่มด้วย)
 
          เรื่องของอัยการหนุ่ม คุริว โคเฮ เมื่อดูจากรูปพรรณสัณฐานการแต่งกายภายนอก เหมือนชายหนุ่มที่ชอบแต่งกายสบายๆ สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ หน้าตาแจ่มใส ผิดแผกแตกต่างจากอัยการทั่วไป ที่แต่งกายเนี้ยบนิ้งด้วยชุดสูทดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือ หน้าตาท่าทางเคร่งเครียดเอาจริงเอาจัง...บุคลิกแปลกๆ ที่แตกต่างจากเพื่อนอัยการอีกอย่างของ “คุริว” คือ หมอนี่ชอบดูรายการทีวีพวกขายสินค้า ประเภท ทีวีไดเร็ค แล้วก็สั่งซื้อมาใช้แทบจะทันทีทันใดโดยเฉพาะเครื่องออกกำลังกายประเภทแอ็บโดมิไนเซอร์ (abdominizer) หรือพวกเครื่องบริหารหน้าท้อง อีกทั้งยังชอบกินจุกจิก มีไลฟ์สไตล์ไม่ค่อยเหมือนใคร
 
          ไม่เพียงคาแรกเตอร์อันโดดเด่นของตัวละครที่ผู้สร้างออกแบบมาเท่านั้น หากแต่พล็อตสนุกๆ อันว่าด้วย เรื่องราวคดีความที่ผู้ถูกฟ้องร้องจะต้องเข้ามาให้ปากคำแก่อัยการ เพื่อจะตัดสินใจส่งเรื่องยื่นฟ้องต่อศาลหรือไม่ ก็เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ ‘ฮีโร่’ เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม รวมถึงเสน่ห์ของคุริว สำหรับวิธีการสืบสวนคดีความแบบถึงลูกถึงคน ที่ไม่ได้เพียงแค่นั่งซักจำเลยในห้องทำงาน หากแต่เขาลงทุนลงพื้นที่ เสาะหาหลักฐาน คุยกับพยานแวดล้อมเพิ่มเติม หาเบาะแสใหม่ อันจะเชื่อมั่นได้ว่า ว่าที่จำเลยของเขานั้นเป็นผู้กระทำความผิดจริงๆ สมควรส่งฟ้องให้ศาลตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
 
          แม้คดีความส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในเรื่อง จะเป็นคดีมโนสาเร่ ประเภท ทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ ลักเล็กขโมยน้อย คดีฉ้อโกง ชู้สาว อาจจะมีคดีฆาตกรรมบ้าง แต่ก็ไม่ได้นำเสนอภาพความโหดร้าย รุนแรง หากแต่เน้นวิธีการออกสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความผิดของผู้ถูกกล่าวหา...ภายใต้ภาพลักษณ์ง่ายๆ สบายๆ ของคุริว แต่พอถึงเวลาลงมือทำงานเขาก็จริงจัง ตั้งอกตั้งใจ หลายคดีที่เขารับผิดชอบ สามารถพลิกรูปการให้ผู้ต้องหาพ้นมลทินได้สำเร็จ หรือไม่ก็เพิ่มน้ำหนักให้ผู้ต้องหาที่จวนเจียนจะพ้นผิด เพราะได้ทนายมือดีคอยช่วยหรือหลักฐานมัดตัวไม่เพียงพอ กลับต้องเดินคอตกเตรียมเข้าคุกเนื่องเพราะจำนนต่อหลักฐานและคำให้การที่คุริวดั้นด้นหามาเพิ่มเติม
 
          ส่วนพล็อตรองของซีรีส์ชุดนี้ ก็วางไว้อย่างสนุกน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องราววุ่นของเพื่อนๆ อัยการและผู้ช่วยของพวกเขา อีกทั้งยังเพิ่มอารมณ์โรแมนติกด้วยความสัมพันธ์ระหว่างคุริวกับผู้ช่วยสาวสวยของเขาเอง เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีตัวละครแปลกหน้าที่ไม่ได้ตั้งใจใส่เข้ามาให้มีบทบาทต่อตัวเรื่อง หากแต่เป็นสีสันที่ชวนให้อมยิ้มทุกครั้งที่ปรากฏตัวโดยเฉพาะตัวละคร มาสเตอร์ ชายไร้รอยยิ้ม หน้าตาขมึงทึงเจ้าของผับที่สามารถหาทุกอย่างมาให้ได้ ตาม ที่คุริวร้องขอ ไม่ว่าจะบะหมี่ร้อนๆ พิซซ่า หรือสปาเกตตีฯ
 
          ฮีโร่ ไม่ได้มาในแนวซีรีส์สืบสวนสอบสวนชวนเครียดที่ต้องขบคิดตามระหว่างชม หรือมีฉากแอ็กชั่นไล่ล่ามันๆ ตามอย่างที่ควรเป็น ความโดดเด่นในงานสร้างมีแค่เพียงการตัดต่อที่กระชับ ฉับไว และเป็นจังหวะจะโคนในฉากที่มีต้องการเน้นย้ำหรือส่งผลทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นฉากตลกขบขันหรือตื่นเต้นเร้าใจ เอาเข้าจริงซีรีส์ชุดนี้ออกแนวตลกขบขันหรรษาแนวซิทคอมด้วยซ้ำ หากแต่เมื่อถึงจุดไคลแม็กซ์ หนังมักจะพาให้เราฉุกคิดถึงการพยายามเสาะหาความถูกต้อง เป็นธรรม ให้แก่คนที่ถูกกล่าวหา หรือพยายามเอาคนผิดไปลงโทษตามกฎหมาย แม้พวกเขาจะหาทางหลบเลี่ยงสักแค่ไหนก็ตาม อดีตเด็กหนุ่มเกเรที่เกือบไม่จบชั้นมัธยม แต่สุดท้ายกลับตัวกลับใจตั้งหน้าตาเรียนกฎหมายจนได้มาเป็นอัยการที่มุ่งมั่นในการทำงานของคุริวทำให้เขาเป็นที่รักของผู้ชม แม้จะผ่านมานานร่วมสิบปีก็ตาม
 
          ทั้งหมดนั้น มาจากการแสดงอันยอดเยี่ยมของ คิมูระ ทาคุยะ อดีตนักร้องวง “สแมพ” บอยแบนด์ชื่อดังที่หันมาเอาดีทางการแสดง และดูเหมือนเขาทำได้ดีจนอาชีพทางการแสดงนั้นรุ่งโรจน์กว่าการร้องเพลงเป็นไหนๆ ที่สำคัญเหนืออื่นใด “ฮีโร่” เป็นซีรีส์ที่สร้างสรรค์มากที่สุดเรื่องหนึ่ง ทั้งในเชิงความคิด การนำเสนอ เรื่องราวจรรโลงสังคม และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในซีซั่นสองที่เพิ่งจบลงไป น่าจะมีสถานีโทรทัศน์บ้านเรานำมาฉายให้ได้ชมบ้าง
 
.......................................
(หมายเหตุ 'Hero' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)