
'Jamie Vardy'หนัง'underdog'ของจริง
03 ธ.ค. 2558
'Jamie Vardy'หนัง'underdog'ของจริง : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร
ก่อนเดินทางไปอังกฤษ 25 พ.ย. ผมตั้งใจจะเขียนเรื่อง Shane คัมแบ็กแบบ “เลสเตอร์” โดย “ล้อ” ไปกับหนัง western ปี 1953 ที่เป็นงานคลาสสิกเกือบๆ จะสมบูรณ์ในแง่ของศิลปะของหนัง... แต่พอล้อของ TG แตะที่สุวรรณภูมิขากลับ ผมอยากเขียนเรื่อง The Vardy Show แทน
ผมแอบวิ่งไปซื้อนสพ.ของอังกฤษ 4 ฉบับ ในปั๊มข้างทางระหว่างรถแวะจอดเข้าห้องน้ำ เวลาไปอังกฤษหลายๆ ครั้ง ผมชอบไปร้านหนังสือวันรุ่งขึ้น เพื่อเปิดเช็กและซื้อเล่มที่ลงสกู๊ปแปลกๆ ดีๆ กลับมานั่งแปลรายงานข่าว คำว่า Vardy Show นั้น สื่อต้องการล้อเป็นนัย ไปกับตลกสตรีทหรือ street comedy ที่ชื่อ “วาร์ดี้” ทว่า ในมุมของผม สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ เมื่อเราได้รู้จักและติดตาม เจมี วาร์ดี้ นั้น ชีวิตของเขาเหมือนหนังตระกูลหนึ่ง นั่นคือ underdog
underdog คืออะไรหรือ..
อธิบายอย่างง่ายๆ เหมือนตอนไปสอนหนังตามมหาวิทยาลัยก็คือ มันคือหนังที่มีตัวละครเอก เป็นพวกชนชั้นล่างของสังคม ไม่มีฐานะร่ำรวย ไม่เคยมีแต้มต่อในสังคม แถมยังต้องต่อสู้มากมายกับเงื่อนไขที่บีบรัด หนังที่ดีแนวนี้ของอังกฤษก็คือ Billy Elliot ส่วนภาพยนตร์ที่แย่ ห่วย แนวนี้ของอเมริกัน ก็คือ Coyote Ugly ..แต่ไม่ว่าใครจะทำหนังแนว underdog ออกมาแบบไหน “ตัวละคร” มักจะมี typical หรือ stereotype ที่มาจาก “แบบ” คล้ายกันคือ ต้องพิสูจน์ตัวเองจากสถานะที่ย่ำแย่
เจมี วาร์ดี้ เป็นไอ้หนุ่มโรงงานมาก่อน เขาคงทำงานด้วยความยากลำบากอยู่ไม่น้อย แต่ดันมีศักยภาพด้านฟุตบอลอยู่ในเท้า จะรู้ตัวตอนอายุเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ในที่สุด วาร์ดี้ ก็ก้าวเท้าเข้าไปเล่นฟุตบอลอาชีพในลีกที่ไม่อยู่ใน 4 ดิวิชั่นของอังกฤษ คือเป็นนอน-ลีก (ในอังกฤษมีลีกหลากหลายมากมาย แม้แต่ลีกของคนทำงานผับ คนทำงานรถ คนทำงานหลอดไฟ ที่ต้องเตะทุกวันอาทิตย์) วาร์ดี้ต้องต่อสู้มาก จนได้มาอยู่กับเลสเตอร์ แม้ในช่วงแรกๆ ที่เลสเตอร์จะไม่ใช่ทีมใหญ่ของ EPL แต่ผมก็เชื่อว่า วาร์ดี้ต้องสู้เยอะมาก ทั้งทางจิตใจและทางร่างกาย เพื่อให้้เป็น striker ของจิ้งจอกสยาม เหมือนที่เด็กชายต้องสู้มากใน billy elliot และสาวซ่าต้องเต้นแหลกใน coyote ugly
ผมเคยพบวาร์ดี้ 3 ครั้ง พอจะจับได้ว่าถ้าอยู่ส่วนตัว เขาพูดเยอะและตลก และถ้าอยู่ใน public หรืองานแถลงข่าว เขาพูดน้อยมาก ดูสงบ และพร้อมกวน วาร์ดี้กลายเป็นคำร้องในสนามของเลสเตอร์มากที่สุดและกลายเป็นชื่อที่ติดเสื้อขายดีสุดของอังกฤษในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เสื้อราวๆ 300 ตัว กองให้เขาเซ็นในสโมสร หลังจากเขายิงแบบตะบันผ่าน เด เกีย ในนัดเลสเตอร์-แมนยู (28 พ.ย.) ตอนนี้ วาร์ดี้ ดังเป็นพลุแตก เพราะสามารถยิง 11 นัดรวด และอาจเป็น 12 หรือ 13 แมทช์ต่อไปอีก
หนังแนว underdog นั้น ตัวละครมักเริ่มต้นแบบ “ยากลำบาก” แต่มักจบด้วย happy ending เลสเตอร์ & วาร์ดี้ ก็เช่นกัน...
พวกเขา happy ending แล้ว โดยไม่ต้องรอนัดที่ 38 !
.......................................
(หมายเหตุ 'Jamie Vardy'หนัง'underdog'ของจริง : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)