บันเทิง

‘สุทธิชัย หยุ่น’วิพากษ์ทำข่าว‘ปอ’วิกฤติสื่อไทย

‘สุทธิชัย หยุ่น’วิพากษ์ทำข่าว‘ปอ’วิกฤติสื่อไทย

27 พ.ย. 2558

‘สุทธิชัย หยุ่น’วิพากษ์ทำข่าว‘ปอ’ สะท้อนวิกฤติสื่อมวลชนไทย แนะต้องยึดความถูกต้องก่อนความเร็ว ‘อาน้ำอ้อย’เผย‘ปอ’ พยักหน้าเมื่อบอก‘น้องมะลิมา’

            27พฤศจิกายน2558 นายสุทธิชัย หยุ่น  ที่ปรึกษากองบรรณาธิการเครือเนชั่น ได้บรรยายใน หัวข้อ “ถอดบทเรียนคอนเวอร์เจ้นท์ จากอดีต สู่อนาคต” ในการประชุมยุทธศาสตร์เพื่ออนาคตวารสารศาสตร์ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2558  ณ ห้อง 3001 อาคารนวมินทราธิราช สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ จัดโดย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) วิพากษ์การทำข่าวการป่วยของนายทฤษฎี สหวงษ์  หรือ “ปอ” พระเอกชื่อดังวิกพระรามสี่ ของสื่อมวลชนไทย โดยมองว่านายทฤษฎีแม้จะเป็นบุคคลสาธารณะในฐานะดาราแต่เมื่อเจ็บป่วยแบบนี้สิทธิความเป็นส่วนตัวต้องมี สื่อต้องมีขอบเขตที่เหมาะสม   

            นายสุทธิชัย หยุ่น กล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนยุคของสังคมโซเชียลมีเดียปัจจุบันยังขาดการรับชอบต่อสังคม โดยให้ความสำคัญของการเสนอข่าวตามกระแส มากกว่าการเสนอข่าวที่มีเนื้อหาสาระอย่างรอบด้าน มีความลึกตื้นมิติของข่าว โดยความเป็นจริงแล้วการมีช่องทีวีเพิ่มมากขึ้น หมายถึงคุณภาพของข่าวจะต้องเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ในขณะนี้ยังพบว่าคุณภาพของข่าวยังคงเท่าเดิม เพราะในปัจจุบันยังคงมีการลอกเลียนการนำเสนอข่าวรวมถึงเนื้อหาแบบเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องมีการปฏิรูปการทำงานของสื่อ ให้มีความใส่ใจและรับผิดชอบในการนำเสนอข่าวมากขึ้น โดยองค์กรต้องให้ความสำคัญในการสร้างหรือผลิตคนข่าวที่มีคุณภาพ การทำข่าวและสร้างเนื้อหาด้วยตนเอง
 
 
ต้องยึดความถูกต้องก่อนความเร็ว 
 
             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมยุทธศาสตร์เพื่ออนาคตวารสารศาสตร์ วันนี้ได้มีการพูดถึงทิศทางวารสารศาสตร์ของไทยต่อจากนี้ โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของสื่อมวลชนในสังคมยุคโซเชียลมีเดีย โดยความเห็นของสื่อแต่ละแขนงในเรื่องนี้นั้นเช่น นายพีระวัฒน์ โชติธรรมโน บรรณาธิการบริหารฝ่ายข่าวไทยรัฐทีวี กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของวงการสื่อสารมวลชนในระยะ 3 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการนำโซเชียลมีเดีย หรือสื่อออนไลน์ มาใช้ในการนำเสนอข่าวมากขึ้น ซึ่งขณะนี้จะเห็นว่าผู้รับข่าวสารกว่าร้อยละ 70-80 รับข่าวสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย 
 
             ดังนั้นนักข่าวเองจึงต้องปรับตัวทั้งในเรื่องของช่องทางการนำเสนอข่าว และในเรื่องของเนื้อหา ที่ต้องมีการปรับวิธีการเล่าเรื่องให้มีความกระชับมากขึ้น สำหรับการใช้โซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆเพื่อนำเสนอสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดเจน คือเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งมีการใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ รายงานอัพเดตสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่กันอย่างเรียลไทม์ แต่การนำเสนอข่าวโดยผ่านทางโซสเชียลมีเดียแม้จะมีความรวดเร็ว แต่ปัญหาที่พบได้บ่อยคือความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งในส่วนของนักข่าวก็ต้องยึดจริยธรรมของสื่อโดยพึงระลึกและยึดถือความถูกต้อง ก่อนความรวดเร็วเสมอ ขณะที่ผู้รับสารเองก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร และการตรวจทานข้อมูลก่อนทุกครั้งที่จะมีการแชร์ข้อมูลต่อ   
 
             ส่วนน.ส.กนกพร ประสิทธิ์ผล ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสื่อใหม่ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวว่า ในฐานะของผู้ดูแลเรื่องการพัฒนาสื่อใหม่ในองค์กรว่า การเปลี่ยนแปลงของวงการข่าวเริ่มมีมาอย่างต่อเนื่อง โซเชียลมีเดียเริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำงานข่าว โดยจะเห็นได้จากหลายหน่วยงาน หรือสำนักข่าวหลายแห่ง เริ่มให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งบุคลากรเพื่อมาดำรงตำแหน่งดูแลด้านโซเชียลโดยเฉพาะ และมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อมาใช้พัฒนาในงานส่วนดังกล่าวมากขึ้นอย่างจริงจัง  
 
             ขณะที่นายจักรพงษ์ คงมาลัย ผู้บริหารด้านเนื้อหาของเว็บไซด์ sanook.com กล่าวว่า ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่ผู้รับสารเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสื่อข่าว โอกาสของผู้เสพสื่อก็จะต่างจากเดิม คือ จากที่เมื่อก่อนประชาชนรอรับข่าวสารจากสื่อเพียงอย่างเดียว แต่ทุกวันนี้ เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาทำให้เกิดสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ผู้รับสารสามารถแลกเปลี่ยนความคิดและมีส่วนร่วมในการแบ่งปันข่าวสารผ่านสมาร์ทโฟน หรือเครื่องมือการสื่อสารต่างๆ ได้มากขึ้น ผู้เสพสื่อหรือผู้รับสารในวันนี้จึงกลายเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารให้กับสื่อวิชาชีพไปในตัว 
 
             สำหรับสิ่งที่สะท้อนการปรับตัวของสื่อกระแสหลักในขณะนี้ คือ มีการทำงานร่วมกันระหว่างสื่อเก่ากับสื่อใหม่ เช่น ในสื่อสิ่งพิมพ์ก็เริ่มหันมาผลิตเนื้อหาในสื่อดิจิทัลและสื่อออนไลน์ มีการทำงานร่วมกันจากหลายๆสื่อ หรือแม้คนที่เคยเป็นผู้ผลิตข่าวสารในข่าวทีวี ก็ต้องหันมาให้ความสนใจกับผู้บริโภคสื่อ โดยมีการใช้เครื่องมือของสื่อออนไลน์ เพื่อดึงการมีส่วนร่วมของผู้รับสารมากขึ้น 

            ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.00 น. บรรยากาศในการเฝ้าติดตามอาการของนายทฤษฎี ณ บริเวณ ชั้น 9 ภายในอาคารศูนย์การแพทย์ สมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังคงสงบเรียบร้อย มีสื่อมวลชนมาติดตามอาการพระเอกชื่อดังเป็นจำนวนมาก โดยนายศรมนตรา พิชัยศรแผลง หรือ อาน้ำอ้อย ผู้จัดการส่วนตัว พระเอกหนุ่ม เผยว่า เมื่อเช้าวันนี้ (27 พ.ย.) ยังไม่ได้เข้าไปหานายทฤษฎี แต่เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ได้เข้าไปหาตอนหัวค่ำ ส่วนนางแวนดา สหวงษ์ หรือ โบว์ ภรรยาพระเอกชื่อดัง ซึ่งได้เข้าไปเยี่ยมนายทฤษฎี ตลอดคืนที่ผ่านมา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า นายทฤษฎีส่ายหน้าได้ และรับรู้ โดยเฉพาะเวลาบอกว่า มะลิ บุตรกลับไปแล้ว นายทฤษฎีจะส่ายหน้าช้าๆ เหมือนไม่อยากให้ลูกสาวกลับ พอบอกว่าเดี๋ยวมะลิมา นายทฤษฎี จะพยักหน้าช้าๆ รับรู้

           เมื่อเวลา 10.57 น. ศ.นพ.วินิต พัวประดิษฐ์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ออกมาเปิดเผยว่า อีกสักพักรอฟังข่าวดีจาก รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี

           เมื่อเวลา 13.05 น. นายสกล วรรณพงษ์ หรือ บิ๊กเสือ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อดีตหัวหน้างานของนางแวนดา ภรรยานายทฤษฎี ซึ่งเคยทำงานเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ กกท. แต่ลาออกมาเมื่อหลายเดือนก่อน ได้นำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมนายทฤษฎี โดยมีนางแวนดา นายสงวน บิดา นางพิศมัย มารดา และนายศรมนตราเป็นผู้รับมอบกระเช้า