บันเทิง

เปิดผังละคร‘PPTV’ยกทัพผู้จัด‘เก่า-ใหม่’เน้นคุณภาพพรีเมี่ยม

เปิดผังละคร‘PPTV’ยกทัพผู้จัด‘เก่า-ใหม่’เน้นคุณภาพพรีเมี่ยม

06 พ.ย. 2558

เปิดผังละคร ‘พีพีทีวี’ ยกทัพผู้จัด ‘เก่า-ใหม่’ ‘เขมทัศน์' เน้น 'คุณภาพระดับพรีเมี่ยม' : สกู๊ปบันเทิง

 
          เพิ่งเปิดตัวละครรวดเดียวถึง 9 เรื่องด้วยกัน ในงาน “ติดจอ ติดใจ ละครใหม่ 2559” มีทัพผู้จัดละครมากมาย ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ตบเท้าเข้าร่วมงาน “บันเทิง คม ชัด ลึก” มีโอกาส นัดสัมภาษณ์พิเศษกับผู้บริหารช่อง “พีพีทีวี”  "ใหญ่" เขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ถึงแนวทางและกลยุทธ์ภาพรวม ในปี พ.ศ. 2559 
 
 
000“พีพีทีวี” เปิดผังละครใหม่ 
          เราเปิดช่องมา 17 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษยายน ปี 2557 สิ่งที่เราวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเปิดสถานีคือ เรามีใบอนุญาตเป็นวาไรตี้บันเทิง ฉะนั้นบันเทิงต้องนำ 70 เปอร์เซ็นต์แน่นอน ข่าวมี 25 เปอร์เซ็นต์ ตามกฎหมาย ปัจจุบันข่าวเรากองเอาไว้เท่าเดิม แต่เราต้องทำให้เข้มขึ้น แต่ในระยะ 2-3 เดือนแรกที่เปิดสถานี เราจะเอาผู้ผลิตที่ไหนมาทำในเรื่องของบันเทิง เพราะสต็อกไม่มี เราไม่เคยเป็นช่องทีวีดาวเทียมมาก่อนด้วย ฉะนั้นทำให้ต้องซื้อคอนเทนท์สำเร็จรูปมา จึงมีแค่ 4 อย่าง หนังฮอลลีวู้ด จีน เกาหลี ญี่ปุ่น จะเอาหนังฝรั่งก็โดนช่องอื่นเอาไปแล้ว เลยเหลือแค่อาเซียน และเรามองว่าเกาหลีเหมือนละครไทย เราเลือกเฉพาะเรื่องที่มีลักษณะการนำเสนอคล้ายๆ ละครไทย แต่ต้องยอมรับว่าเนื้อเรื่องบางอย่างของเขาแอดวานซ์กว่า 
 
 
         เดือนแรกที่เปิดมา ถามว่าช่องพีพีทีวี เท่ากับอะไร คนจะบอกว่า เท่ากับ ซีรีส์เกาหลี ถือว่าโอเค พอต้นปี 2558 เราเริ่มปรับปรุงรายการบางอย่าง เราเริ่มมีผู้จัดละครเข้ามา แต่ต้องใช้เวลาผลิต ซึ่งเริ่มแรกเรามีแค่ 4-5 เรื่อง อยู่ในมือ และเรามองว่าลงแค่วัน เสาร์-อาทิตย์ ดีมั้ย เพราะคนดูอยู่บ้าน วัน จันทร์-ศุกร์ เอาไว้ก่อน เราเริ่มออกอากาศละครเรื่องแรกคือ “เพลิงดาว” ในช่วงกลางปี ไล่มาเรื่อยๆ จนถึง “ปริศนาเดอะซีรีส์” อีก 3 เรื่อง ซึ่งฐานคนดูเริ่มแน่นขึ้น เราก็เพิ่มคอนเทนท์ในเรื่องของ กีฬา คือ บุนเดสลีกา กับ พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ปรากฏว่า กีฬาดังกว่า เพราะคนต้องดูสด เวลาทำรีเสิร์ชกับคนดูตอนนี้ว่า พีพีทีวี เท่ากับอะไร จะเท่ากับ กีฬา แล้วในตอนนี้ พอเรามองว่ากีฬานิ่งแล้ว ซีรีส์เกาหลีก็อยู่ในกลุ่มคนดูของตัวเอง ข่าวก็นิ่งแล้ว เราเลยเริ่มขยับต่อในเรื่องของละคร สิ่งที่เราวางเอาไว้ เหมือนการปลูกผัก ประกอบกับพอละครที่ออกอากาศไปกระแสแรงขึ้นมา เราไม่ต้องวิ่งไปหาผู้จัดละครแล้ว เพราะผู้จัดเข้ามาหาเราเอง 
 
 
000แสดงว่าก่อนหน้านี้เคยทาบทามผู้จัดละครไปก่อน
          เราเคยขอไป แต่จะติดตรงที่ว่า เป็นผู้จัดติดสังกัด และอาจจะมีข้อแม้ว่า เราต้องทำละครที่ต้นทุนเท่ากับช่องที่เขาเน้นละครเป็นหลัก ซึ่งเขาขายโฆษณานาทีละ 5 แสน แต่เราขายได้นาทีละ 5,000-10,000 มันยุติธรรมสำหรับเราหรือเปล่า ซึ่งผมพูดแทนทีวีดิจิทัลทั่วไปนะ แต่พอเราเริ่มปลูกพืชอะไรไปแล้ว ตลาดยอมรับ เลยเริ่มมีคนมาเสนอทำละครกับเรา
 
 
000งบประมาณในการทำละครแต่ละเรื่องเท่าไหร่
          เรามีกรอบราคา แต่เราไม่บอก ซึ่งกรอบราคาของเราต่ำกว่าช่องใหญ่แน่นอน ซึ่งของเขาละครตอนละประมาณ  2 ล้าน แต่ของเราต่ำกว่านั้น เรียกว่าต่ำเลย แล้วเราจะคุยกับผู้จัดว่า ทำได้มั้ย ในกรอบกำหนดเท่านี้ แต่คุณภาพต้องดีด้วย ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยาก แต่เราทำให้เห็นมาแล้ว เราจะคุยกับผู้จัดว่า โอเคหรือไม่ ถ้าจะร่วมงานกับเรา แบบได้น้อยๆ แต่ได้นานๆ ตอนนี้เราจะมีผู้ผลิตที่มีวิธีคิดตรงกับเรา ซึ่งเขายอมรับกติกาของเราตามเงื่อนไขนี้ ในส่วนของดารา ถ้าจะบอกว่าใช้ดาราไม่ดัง เราไม่สนใจ เพราะ “รัตนาวดี” ดาราก็ไม่ได้ดัง สื่อเราก็ไม่ค่อยมี แต่ด้วยเนื้อหาพาไป มีไปถ่ายต่างประเทศ มีภาพวิวสวยๆ ทำให้มีเสียงตอบรับว่า ละครเรื่องนี้ภาพสวย ถือว่าดีแล้ว นี่คือกลยุทธ์ที่เราคิดมา 
 
 
000เปิดผังใหม่ละคร 10 เรื่อง
          ใน 10 เรื่องนี้ เราคิดว่า เราจะหาจุดยืนยังไงให้ไม่เหมือนกับช่อง 3 ช่อง 7 หรือ ช่อง วัน เราคิดว่า หนึ่งคิือละครอาจจะเป็นบทประพันธ์ดังหรือรีเมก จะมี “บัวแล้งน้ำ” ซึ่งมีการประพันธ์เพลงโดย บอย โกสิยพงษ์ ร้องโดย เบน ชลาทิศ พระเอกคือไอซ์ (ศรัณยู วินัยพานิช) และเรื่อง “เสียดาย” ที่รีเมกมาจากภาพยนตร์ บทประพันธ์ของท่านมุ้ย (ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล) ผู้จัดคือคุณหญิงแมงมุม (ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล) เรื่องราวสะท้อนสังคมเน่าเฟะ เรื่องยาเสพติด และการหลอกลวง ส่วน “หมอผี” ก็เป็นบทประพันธ์ของท่านมุ้ย เคยทำเป็นภาพยนตร์มาก่อนเหมือนกัน
 
          สองคือต้องเป็นละครที่อยู่ในตลาดของคนรุ่นใหม่ ในละครล็อตนี้จะมี “รักร้อนออนไลน์เดอะซีรีส์ ตอน ตกหลุมหัวใจยัยปีศาจ” เราร่วมกับเด็กดีดอทคอม เพราะคนสมัยนี้อ่านนิยายออนไลน์มากขึ้น เราจะจับเรื่องที่ได้รางวัลมาแล้ว หรือได้รับความนิยมมาทำ ส่วน “ผมม้าหน้าเต่อ” ตอนที่เราสำรวจพฤติกรรมของโรงเรียนหญิงล้วน กับ โรงเรียนชายล้วน จะมีหัวข้อเรื่องราวในตำนานเยอะมาก ส่วนโรงเรียนสหจะไม่ค่อยมีปัญหา ซึ่งโรงเรียนหญิงล้วนยังไม่เคยมีใครทำ ผมเลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องราวข้องเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมหญิงล้วน  
 
          ส่วนละครที่เป็นแมสจริงๆ เราจะมี “เสน่ห์ร้ายอุบายรัก” ของเอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) อาจจะมีตบจูบ แล้วก็จะมี “ธิดาผ้าซิ่น” “มนต์รักสองฝั่งคลอง” ส่วนละครฟอร์มใหญ่จะมี “ปาฏิหาริย์เดอะซีรีส์” ของ เจเอสแอล ได้นก (สินจัย เปล่งพานิช) หนุ่ม (ศรราม เทพพิทักษ์) เจมส์ (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) มาแสดงนำ ส่วน “มิติรักผ่านเลนส์” จะเป็นลักษณะเหมือนละครของคนทำงาน เป็นละครที่ผลิตมาเพื่อลองตลาดว่า ถ้าละครภาพสวย แต่เป็นอินดี้เล็กๆ เท่ๆ และแต่ละเรื่องจบในตอน จะมีแค่ 4 ตอนจบ แต่เนื้อหาคือ 8 เรื่อง ความรักแต่ละรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน
 
 
000จะจับผู้จัดเซ็นสัญญาหรือไม่
          ผมคิดแบบฝรั่งนะ ในต่างประเทศผู้จัดกับดาราจะไม่มีสังกัด จะมีแค่ผู้จัดการกับดาราคนนั้น ฉะนั้นดาราจะหมุนไปเล่นได้ทุกสถานีโทรทัศน์ เพราะฉะนั้นคนดูจะได้ประโยชน์ จะต่างกันแค่ผู้กำกับ เนื้อเรื่อง และโปรดิวเซอร์ แต่ตอนนี้ของเรามีโดนกินตลาดแค่สองค่ายยักษ์ แต่ในอนาคตผมรับประกันว่า ดาราน่าจะเป็นอิสระกันหมด หรือไม่ต่อสัญญา
 
 
000มีการซื้อลิขสิทธิ์นวนิยายเก็บไว้บ้างหรือไม่
          ตอนนี้เรามีวิธีคิด 2 อย่าง หนึ่งคือถ้าเราซื้อมาเก็บ เราต้องหาผู้ผลิตมาทำ กับอีกแบบคือเราบอกผู้ผลิตว่า คุณไปซื้อเรื่องที่อยากทำมาเลย แล้วรวบรวมค่าลิขสิทธิ์ไปกับค่าใช้จ่ายในการทำละคร เพราะคนทำละครพีเรียด คงไม่สามารถมาทำละครวัยรุ่นจ๋าได้หรอก ตอนนี้เรามีวิธีคิด 2 แบบอยู่ แต่ในระบบของช่องอนาล็อกเก่า เขาจะซื้อลิขสิิทธิ์เก็บไว้ และให้คนเขียนบทเขียนป้อนเขาไป ซึ่งผมมองว่าเป็นวิธีคิดแบบเก่า ต้นทุนก็บาน แล้วคุณปิดตลาด เพราะไม่อยากให้ลิขสิทธิ์กับใคร
 
 
000เวลาในการฉายละครจากปกติเป็น เสาร์-อาทิตย์ จะเพิ่มวันฉายไหม
          เรากำลังคุยกันอยู่ เพราะตอนนี้เรามีสต๊อกอยู่ 10 เรื่อง แต่เราจะผลิตเพิ่มอีก 10 เรื่อง ฉะนั้นในปี 2559 จะมีละคร 20 เรื่อง เราจะต้องเพิ่มพื้นที่ในการฉายเข้าไป อาจจะลงเพิ่มเป็น พุธ พฤหัส ศุกร์ และเพิ่มเวลาด้วย
 
 
000ช่วงเวลาในการฉายละครในตอนบ่ายจะขยับหรือไม่ 
          คือช่องดิจิทัลทีวี ละครส่วนใหญ่จะเป็นระบบรีรัน บางทีละครมาตั้งแต่ตี 5 และไปฉายต่อช่วงเช้า วนมาบ่าย และเย็น หลายช่องจะหลบไปในช่วงกลางคืน เพราะไม่อยากเอามาชนกับช่องใหญ่ เพราะฐานคนดูของเขาเยอะ ซึ่งคนไทยยังมีความเชื่อว่า ดาราเยอะหรือสองช่องใหญ่คือละครดี แต่ถ้าเราไปทำรีเสิร์ชจริงๆ ตลาดของคนที่มีอายุ มีความรู้ และกำลังซื้อสูง เขาจะไม่ดูแล้ว ซึ่งเวลาในการฉายละครของเรายังไม่เปลี่ยน เราต้องหลบ เพราะทีวีดิจิทัลเพิ่งเกิดมาแค่ 17-18 เดือนเอง   
 
 
000นโยบาย “พีพีทีวี” ต่อไปจะเป็นอย่างไร
          เราจะใช้ความเป็นธรรมชาติ เราไม่เน้นการพีอาร์เยอะ นโยบายหลักๆ ของเราคือจะไม่เอาเปรียบผู้บริโภค เราไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งนะ เราไม่เคยมีตัวช่วย ไม่เคยมีสื่อหรืออะไรเลย เป็นช่องเดียวโดดๆ ที่ไม่เคยทำทีวีดาวเทียมหรืออะไรเลย เพราะฉะนั้นคุณภาพต้องมาก่อน เราเน้นคุณภาพและจรรยาบรรณที่ต้องกลับคืนสู่สังคม มีบางคนหาว่าเราบ้า ที่เอาฟุตบอลเข้ามา แต่เพราะคนดูชอบ สิ่งไหนที่เราจะสร้างแบรนด์และขยับเรตติ้งได้ เราทำ เรื่องเงินเอาไว้ทีหลัง เดี๋ยวมันมาเอง เพราะเราต้องให้รู้จักก่อน