
สิ้นสมานมิตร เกิดกำแพงต้นตำรับลูกทุ่งคอมพิวเตอร์3มิติ
26 ต.ค. 2558
สิ้น สมานมิตร เกิดกำแพง ต้นตำรับ ลูกทุ่งคอมพิวเตอร์3มิติ
วงการลูกทุ่งสลดอีกครั้ง สมานมิตร เกิดกำแพง เจ้าของบทเพลงดัง "แม่เตยหนามคม” “ยอมตายเพราะพ่อตา” เสียชีวิต หลังป่วยมากว่า 7 ปี ทิ้งตำนาน "ลูกทุ่งคอมพิวเตอร์สามมิติ” ลือลั่นวงการ
อติภา เกิดกำแพง บุตรสาวของสมานมิตร เกิดกำแพง กล่าวถึงการเสียชีวิตของพ่อว่า
“หลังจากพ่อเส้นเลือดในสมองแตกก็รักษาตัวมาเป็นเวลา 8 ปี เราก็ดูแลรักษาพ่อมาตลอด จนปัจจุบันพ่ออายุ 84 ปี จนเมื่อช่วงเช้าความดันพ่อลดลงเหลือ 50 หัวใจเต้นเร็วขึ้นเราก็เลยส่งพ่อมาที่ รพ.บางไผ่ ภาษีเจริญ หมอก็พยายามให้น้ำเกลือและจะรักษาแต่ว่าอวัยวะภายในของพ่อมันแผ่วลง เพราะพ่ออายุมากแล้ว ทุกอย่างมันก็ไม่ไหว พ่อก็เสียด้วยอาการสงบเมื่อเวลา 10.00 น.”
สมานมิตร เกิดกำแพง เกิดวันที่ 14 มีนาคม 2475 ที่ ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เป็นสายเลือดศิลปินเต็มตัว เพราะปู่ย่า พ่อแม่มีอาชีพละครเร่
สมานมิตรคลอดหลังโรงละคร ตอนที่แม่นำละครเร่ออกเดินสายต่างจังหวัด ได้เรียนรู้เครื่องดนตรีไทย พร้อมทั้งวิชาละครจนแตกแขนงเป็นการแต่งเพลงลูกทุ่ง โดยได้แต่งเพลงผ่านมือ พยงค์ มุกดา ในเพลง “นาคกำพร้า” “รักรองบ่อน” “น้อยใจเพราะใจน้อย” ให้ สมยศ ทัศนพันธ์ ขับร้อง
สมานมิตรใฝ่ฝันอยากเป็นนักพากย์ โดยได้เข้าฝึกกับกุหลาบทิพย์ภาพยนตร์ จนได้นามแฝงนักพากย์ว่า “กุมารทอง” หลังจากบวชให้แม่แล้ว ได้นำหนังไปพากย์สายใต้ จนตกหลุมรักสาวเมืองราชบุรี คือ ปทุมทิพย์ บัวตะมะ หลังจากแต่งงานแล้วจึงได้ฝึกอาชีพตัดผม เพื่อจะได้อยู่กับครอบครัว แต่มีเรื่องราวเข้าใจผิดในหมู่ญาติ ทำให้ครอบครัวสมานมิตรต้องย้ายมาอยู่ที่เชิงสะพานพระราม 6 เปิดร้านตัดผมที่เชิงสะพานพระราม 6
สมานมิตรได้เขียนเพลงส่งพยงค์ มุกดา ตลอดมา และได้รู้จักกับ ชาญชัย บัวบังศร ซึ่งแนะนำให้ไปสมัครเป็นนักร้องอยู่กองดุริยางค์ ปตอ. พร้อมกับแต่งเพลง และแนะนำว่า แต่งเพลงได้ ทำไมไม่ร้องเพลงเองบ้าง สมานมิตรบอกว่า เสียงไม่หวานจึงต้องร้องในแนวรำวงสนุกๆ ในที่สุด สมานมิตรรวบรวมเงินได้หมื่นกว่าบาท ทำเพลง "ยอมตายเพราะพ่อตา” และให้ ผ่องศรี วรนุช ร้องแก้ในเพลง “พี่จ๋าน้องเห็นใจ” พร้อมกับเพลง “แม่เตยหนามคม” พอออกมาเพลงดังอย่างคาดไม่ถึง พิพัฒน์ บริบูรณ์ มาขอเซ็นสัญญาสองปี ตั้งวงดนตรีใ
สมานมิตรได้บันทึกเพลงให้พิพัฒน์อีกมากมาย อาทิ เพลงแม่ค้าตาหวาน แม่ค้าขนม หนุ่มนาดำ สาวนาดำ คมเคียวเกี่ยวข้าว คมเคียวเกี่ยวใจ ฯลฯ จนหมดสัญญา สมานมิตรจึงทำวงเอง โดยมีนักร้องประจำวงคือ ประทุมทิพย์ บัวตะมะ การเวก เสียงทอง แก้ว เบญจกาย ยุพิน แพรทอง ฯลฯ
ต่อมาสมามิตรได้สร้างภาพยนตร์ ทั้งเขียนบท กำกับการแสดงเอง โดยหุ้นกับเพื่อนทำเรื่อง “คุณหนู” และสร้างเอง ในเรื่อง "แหวนเนรมิต” “ผีเสื้อ” ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ แต่ทำให้คิดค้นทำภาพยนตร์ประกอบวงดนตรี โดยใช้ชื่อวงว่า “วงคอมพิวเตอร์สามมิติ” โดยฉายภาพยนตร์ 35 มม. สลับไปกับการเล่นดนตรีหน้าเวที มีการรับส่งบทกันอย่างลงตัว โดยนักแสดงในจอกับนอกจอ สามารถพูดคุยโต้ตอบกันได้ ซึ่งเป็นความคิดที่ล้ำสมัยมาก เพราะ 30 กว่าปีที่ผ่านมา คำว่า "คอมพิวเตอร์” ยังเป็นสิ่งที่ใหม่มากในบ้านเรา
สมานมิตรมีบุตรชายหญิง 6 คน โดยมีบุตรคนที่ 4 ชื่อ สาธิต เกิดกำแพง โด่งดังเป็นดาราเด็กและคนรู้จักกันทัวบ้านทั่วเมืองจากภาพยนตร์โฆษณาหมู่บ้าน “เสนานิเวศน์”
ร่างไร่ลมหายใจของสมานมิตร เกิดกำแพง ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 1 วัดบุณยประดิษฐ์ ถนนพุทธมณฑล สาย 2 ตั้งแต่วันที่ 22-26 ตุลาคม และ 27-28 ตุลาคม หยุดสวดเนื่องจากตรงกับวันออกพรรษา โดยจะเริ่มสวดต่อวันที่ 29-30 ตุลาคม และฌาปนกิจในวันที่ 31 ตุลาคม 2558