
'Straight Outta Compton'
22 ต.ค. 2558
'Straight Outta Compton' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม
"ในอดีต ถ้าหนังถูกใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อได้ฉันใด ในวันนี้หนังก็สามารถรับใช้อารมณ์-ความรู้สึกของความเป็นชาตินิยมของผู้คนได้ฉันนั้น" ชาตินิยมในที่นี่ไม่ได้หมายถึงความเป็นรัฐชาติ หากแต่หมายถึงพื้นถิ่นอาศัย ผองชนที่มาจากแห่งหนเดียวกัน กระทั่งแผ่นดินเกิด ซึ่งอาจไม่ได้กินอาณาเขตกว้างใหญ่ระดับประเทศ อาจเป็นแค่เมืองหรือชุมชนเล็กๆก็ได้…Straight Outta Comptom เป็นได้ในหลายลักษณะของหนังชาตินิยม ตั้งแต่ความเป็นอเมริกันชน หนังตัวแทนคนผิวสี กระทั่งศูนย์รวมใจของชุมชนคนรักดนตรีแรพ-ฮิพฮอพ
หนังเปิดมาด้วยสไตล์ดิบเถื่อนให้อารมณ์แบบหนังแอ็กชั่น เมื่อตำรวจกวาดล้างกลุ่มพ่อค้ายาย่านชุมชนเมืองคอมพ์ตัน แคลิฟอร์เนีย ทำให้อีซี่-อี ไอ้หนุ่มผิวสีคนส่งยาที่เพิ่งไปกร่างกับหัวหน้าแก๊งหนีหัวซุกหัวซุน และหยุดอาชีพนี้เพื่อหนีการจับกุมของตำรวจสักระยะ...หนังผละจากอารมณ์แอ็กชั่น หันมาให้น้ำหนักกับความเป็นหนังวัยรุ่น นำเสนอภาพชีวิตของผองชนผิวสี ที่มิตรภาพระหว่างเพื่อนนั้นลึกซึ้งฉันพี่น้อง (หนังเน้นย้ำท่าทางการทักทายกันในกลุ่มเพื่อนด้วยการประสานมือและโอบกอดกันด้วยความรักในทุกครั้งและแทบทุกคน ไม่ว่าสถานะของเด็กผิวสีหล่านั้นจะสนิทแนบแน่น หรือว่าใจจริงต่างหวาดระแวงหรือมีความคิดห้ำหั่นกันต่อกรกันอยู่ลึกๆ ก็ตาม
ช่วงที่สาม Straight Outta Comptom กลับเข้าสู่ร่องรอยของเรื่องราวที่วางไว้ นั่นก็คือการบอกเล่าตำนานอันยิ่งใหญ่ของวง N.W.A เริ่มด้วยการรวมตัวกันหลวมๆ อย่างไม่เป็นทางการนัก ระหว่างอีซี่อี, ดร.เดร และดีเจเยลลา ที่สองคนหลังไม่พอใจกับไนต์คลับที่ตัวเองเปิดแผ่นอยู่ ในขณะที่ฝ่ายแรกมีเงินแต่ไม่มีอะไรทำ เลยคิดอยากทำธุรกิจเพลงขึ้นมาบ้าง โดยมีไอซ์คิวบ์ เข้ามาร่วมวงด้วยแบบลับๆ โดยรับหน้าที่เขียนเพลงแต่ไม่สามารถร้องได้เพราะติดสัญญา ส่วนอีซี่อีแม้ตัวเองจะร้องเพลงไม่เป็น แต่ก็ถูกผลักดันเคี่ยวเข็ญโดย ดร.เดร กับดีเจเยลลา ในที่สุด
ระหว่างบอกเล่าเส้นทางการก่อร่างสร้างวงของกลุ่มเพื่อน N.W.A หนังก็ให้ภาพของสังคมอเมริกันยุค 80‘s ได้อย่างละเอียดลออ (แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้คือวัตถุดิบในการเขียนเพลงของไอซ์คิวบ์ ที่ทำให้ N.W.A ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเวลาต่อมา) ตั้งแต่การรังควานคนผิวสีของเจ้าหน้าที่ตำรวจแอลเอ ที่วันดีคืนดีก็บุกค้นบ้าน กวาดต้อนคนผิวสีออกมานอกบ้านจับตรวจร่างกายทั้งที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดหรือมีเบาะแสที่จะกระทำอาชญากรรมอย่างใดเลยแม้แต่น้อย กระทั่งระหว่างออกมาเดินเล่นพักสมองจากการทำเพลง จู่ๆ ก็ถูกบุกค้นตัวโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ความคั่งแค้นจากการถูกกระทำย่ำยีเหยียดสีผิวจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหลายต่อหลายครั้ง ประจวบกับข่าวครึกโครมเมื่อตำรวจทำร้ายชายผิวสี ร็อดนีย์ คิง อย่างโหดเหี้ยม แต่กลับได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีความผิด ยิ่งโหมไฟความโกรธแค้นของชาวผิวสีให้ลุกโชน หนึ่งในไฟแค้นสุมทรวงที่พวกเขาแสดงออกก็คือเพลงของวง N.W.A หลังสร้างชื่อจากเพลง Boyz-N-the-Hood และ Straight Outta Compton ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้มแรกของพวกเขา บทเพลง f*ck tha Police ก็กลายเป็นเพลงฮิตถล่มทลายและสร้างเรื่องวุ่นวายตามมาทั้งกับเหล่าเจ้าหน้าที่รัฐและเวทีที่พวกเขาไปเปิดการแสดง แม้เพลงแรพจะกลายเป็นที่นิยม ท่วงทำนองที่ไม่ได้มีความสลับซักซ้อนทางดนตรี คำร้องที่เต็มไปด้วยการสบถ หยาบคาย แต่เนื้อหากลับสะท้อนสังคมร่วมสมัยในช่วงเวลานั้นอย่างตรงไปตรงมาและตรงใจคนฟัง เพลง Gangsta Gangsta จึงโด่งดังตามมาในเวลาอันรวดเร็ว วง N.W.A กลายเป็นตัวแทนคนหนุ่มสาวที่ถูกกดขี่ข่มเหง พลังของพวกเขาจึงแสดงออกผ่านเสียงเพลง พร้อมๆ กับความสำเร็จที่ถาโถมตามมา ประกาศศักดาของเด็กหนุ่มจากเมืองคอมพ์ตันอย่างองอาจ โดยมีเงื้อมเงาของความขัดแย้งทางผลประโยชน์ก่อตัวขึ้นในเวลาเดียวกัน
Straight Outta Compton ไม่เชิงเป็นหนังชีวประวัติสักเท่าไหร่นัก เพราะเอาเข้าจริงการสะท้อนเรื่องราวในสังคมอเมริกันชนยุคทศวรรษ 80’s ก็นำเสนอได้เข้มข้น จริงจัง รูปรอยของการเป็นหนังเพลงด้วย เพราะเล่าถึงเรื่องราวกลุ่มนักร้องผู้สร้างประวัติศาสตร์ก็มีปรากฏให้เห็น แม้หนังจะเปิดเรื่องด้วยการแนะนำตัวละครในประวัติศาสตร์ของวงการดนตรียุคนั้นอย่างตรงไปตรงมา แต่เราก็แทบไม่สนใจว่ากำลังจับจ้องมองดูศิลปินระดับตำนานผู้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่ดนตรีแรพ-ฮิพฮอพ หากแต่นักแสดงเหล่านั้น กลับสร้างจิตวิญญาณของตัวละครที่สวมทับพวกเขาให้ลุกขึ้นมาสร้างเรื่องราวให้เราประทับใจ ไม่เสียแรงที่ ไอซ์คิวบ์ พยายามเคี่ยวเข็ญลูกชาย โอ’เชีย แจ็คสัน จูเนียร์ ให้รับบทตัวเอง ซึ่งไม่เพียงหน้าเหมือน หากแต่การแสดงกลับทำได้ดี แม้นี่จะเป็นแค่หนังเรื่องแรกของหนุ่มวัย 23 ปีคนนี้ก็ตาม รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่มารับบทสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น คอรีย์ ฮอว์กินส์ ในบทดร.เดร และ เจสัน มิทเชล กับตัวละครสำคัญ อีซี่-อี รวมทั้งรุ่นใหญ่อย่างพอล จิอาเมตติ แม้บทจะเริ่มต้นอย่างงงๆ อยู่บ้าง แต่ฝีมือการกำกับของเอฟ แกรี่ เกรย์ นั้น สุดยอด สมควรแล้วที่เขาได้รับเลือกให้มากำกับหนังแอ็กชั่นแฟรนไชส์ฟอร์มโตที่คนทั้งโลกจับจ้องอย่าง Fast&Furious 8
.......................................
(หมายเหตุ 'Straight Outta Compton' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)