บันเทิง

หนังโรงเล็ก:สารคดี'เชลซี'

หนังโรงเล็ก:สารคดี'เชลซี'

17 ก.ย. 2558

สารคดี “เชลซี” : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร

 
 
          เคยมีสารคดีสั้นชิ้นหนึ่งใน BBC นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ Cult Hero ของเชลซีและมีการพูดถึงตราสโมสรบนหน้าอกว่า นี่คือทีมที่มีความหยิ่งยโสในตัวเองออย่างมีศักด์ศรีทีมหนึ่ง กล่าวอีหมุมคือ แม้หลายคนจะสนใจแต่ Hitachi ของลิเวอร์พูล และ Sharp ของแมนยู รวมไปถึง Panasonic ของฟอเรสต์ แต่หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า แท้จริงแล้วในเดือนธันวาคมปี 1984 ทีมอย่างเชลซีที่ไม่ดังในตอนนั้น
 
          ก็มีการเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์รายแรกของทีมเหมือนกัน แน่นอนว่าไม่ใช่บรรดา “เครื่องใช้ไฟฟ้า” จากญี่ปุ่นที่ยกพลขึ้นบก ยึดเสื้อบอลจากอังกฤษ
แต่มันคือ Gulf Air สายการบินจากบาห์เรนที่พัฒนาตัวเองมาจากธุรกิจแท็กซี่ จริงๆ สปอนเซอร์สายการบินนี้ มาสั้นมากคือฤดูกาลเดียวเท่านั้น (เสื้อติดอกในปี 1985) แถมยังถูกค่อนแคะว่า ทั้งๆ ที่อยู่บนอกเสื้อที่มองเห็นชัด แต่ความสวยงามและน่าสนใจ กลับแพ้โลโก้ของทีมเชลซีที่มีขนาดเล็กกว่า “มูรินโญ่” เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในวันที่เข้ามาคุมทีมในปี 2005 ว่า เขารู้สึกว่ารูปของสิงห์บนอกนั้น มีความหยิ่งยะโสและก้าวร้าว ทั้งยังมีอำนาจที่จะบุกและฟันฝ่าไปคว้าแชมป์ แฟนเชลซีคงอยากจะรู้ว่า แล้วโลโก้นั้นคือตราสโมสรแรกเลยหรือไม่ อันที่จริง “โลโก้แรก” ของเชลซี เริ่มจากการใช้สัญลักษณ์รูป
 
          “นายทหารที่มีเคราสีขาวยาวๆ” ประดับยศใหญ่โตแต่เกษียณราชการแล้ว โลโก้นี้ จะปรากฏในตารางการแข่งขันและหนังสือสูจิบัตรเท่านั้น ไม่ได้ติดอยู่บนเสื้อแบบสมัยนี้ การที่ทีมมีโลโก้เป็นรูปนี้ ทำให้ในช่วงเวลานั้น คำว่า “The Pensioner” จึงเป็นเหมือนฉายานาม หรือชื่อเล่นของเชลซีไป โลโก้ที่สองเริ่มใช้ตั้งแต่ยุคที่ Ted Drake เป็นผู้จัดการทีม ในช่วงปีการแข่งฤดูกาล 1952/1953 และเขาคนนี้นี่แหละเป็นผู้ปลุกกระแสให้คิดโลโก้ใหม่มาแทนที่โลโก้ The Pensioner รวมทั้งเสนอเปลี่ยนชื่อเล่นของทีมจาก The Pensioner เป็น TheBlues ด้วย อักษร CFC ที่ซ้อนกันในโลโก้นั้น ย่อมาจาก Chelsea Football Club ในสมัยนั้น 
 
          หากใครบอกว่า พวกเขาคือแฟนชาวสีน้ำเงิน ก็จะรู้กันทันทีว่าเป็นแฟนบอลเชลซี ซึ่งชื่อเล่นใหม่นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างล้นหลาม จนเป็นสีศักดิ์สิทธิ์ของแฟนบอลเชลซีในช่วงนั้นถึงปัจจุบัน ในบรรดาโลโก้ต่างๆ ของเชลซีที่ก็ไม่ได้ใช้จนเปลืองอะไรนั้น แฟนๆ โหวตกันว่าโลโก้ “สิงโต” นี่แหละ เป็นโลโก้ที่โด่งดังมากที่สุด ที่มาในการออกแบบโลโก้นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “แขนเสื้อนอก” ของ “พระยศชั้นเหนือบิชอฟ” ในเมืองเชลซีเอง และตัว “สิงโตสีน้ำเงินถือไม้เท้าสีทอง” มีต้นแบบมาจาก “แขนเสื้อของขุนนางยศชั้น Earl” นามว่า Cadogan ซึ่งในสมัยนั้น ท่านเป็นประธานทีมเชลซี อีกทั้งยัง “ได้รับความเห็นชอบ” จาก “ขุนนางระดับสูงกว่าระดับบารอน” ให้ใช้รูปสิงโตถือไม้เท้าเป็นโลโก้ทีมฟุตบอลได้ ถึงอย่างไรก็ตาม แม้จะมีการอนุญาต แต่ก็ใช้เวลานานมากกว่าโลโก้นี้จะปรากฏอยู่บนเสื้อนักเตะ และในที่สุด มันก็ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปี 1960 มาถึงปี 1970 ทุกๆ คนเริ่มรู้จักและจำเชลซีในฐานะสิงโตน้ำเงินก็เพราะ “โลโก้นี้”
 
          ต่อมาในปี 1986 เพื่อธุรกิจและความทันสมัยและดีไซน์ที่ชัดขึ้น เชลซีจึงได้ตัดสินใจ “ปรับโลโก้” ทั้งหมดให้กลายเป็นโลโก้เดียว คือมีสิงโต และตัวอักษร CFC ยืนพื้น และยังใช้สีน้ำเงินเป็นสีหลัก และเริ่มใส่โลโก้นี้ไว้บนเสื้อนักเตะและลูกฟุตบอล ปกติโลโก้จะมีการปรับเมื่อถึงเวลาที่สำคัญของสโมสร อาทิ ครบรอบ 100 ปี หรือเปลี่ยนเจ้าของสโมสร และอย่างหลังนี้เองทำให้แชมป์ยุโรป 2012 มีการปรับเปลี่ยนโลโก้อีกครั้ง เมื่อโรมัน อบราโมวิช เข้ามาซื้อกิจการและเทกโอเวอร์ทีม การปรับของทีมยุคเขา คือโลโก้ที่ 3 คือ ใช้ สิงโตสีน้ำเงิน “ถือไม้เท้าสีน้ำเงิน” มาวางบนพื้นหลังที่มีสีขาว เหตุผลก็เพราะแฟนๆ เชลซีรุ่นเก่ามองว่า “สีน้ำเงิน” และ “สิงโต” คือสัญญะในเชิงผูกพันกับทีมมานานแล้ว และที่สำคัญ สองสิ่งนี้ บ่งบอกถึง “ตัวตน” ของพวกเขามาช้านาน
 
.......................................
(หมายเหตุ สารคดี “เชลซี” ; คอลัมน์  หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)