โปงลางสะออนหาเลือดใหม่เสริมวง
Play
16 ก.ย. 2558
โปงลางสะออนหาเลือดใหม่เสริมวงลั่นพร้อมคัมแบ็ก!คืนความฮาปลายปี
หายไปพักใหญ่สำหรับวง "โปงลางสะออน” อี๊ด โปงลางสะออน ซุ่มสะสมมุกหาเลือดใหม่ เผยวันนี้ดังไม่ดังไม่ต่างกัน มุ่งสร้างความสุขคืนให้ประชาชน
สมพงษ์ คุนาประถม หรือ อี๊ด โปงลางสะออน ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวบันเทิง "คม ชัด ลึก” ระหว่างการซ้อมกับสมาชิกในวงโปงลางสะออนเพื่อเตรียมไปทัวร์คอนเสิร์ตในยุโรปถึงการทำวงในยุคที่ชื่อเสียงหดหายว่า
“ตอนนี้เราก็เก็บตัวซ้อมการแสดงโชว์ของเราอยู่ สมาชิกก็ยังอยู่กันครบ มีบางคนที่แยกไปมีครอบครัวบ้าง อยากบอกแฟนๆ ของเราว่า ณ วันนี้วงโปงลางสะออนยังอยู่ เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ออกไปพบกับสื่อเท่านั้น วันที่ 1 ตุลาคม-10 พฤศจิกายนนี้ พวกเราจะไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ยุโรปกัน การซ้อมมุกของเราแน่นอนมันต้องมีเปลี่ยนไปตามยุคตามเวลา ตามคนที่เรามีอยู่ แต่เราก็มาเริ่มหาของเหมือนกับครั้งแรกที่เราออกรายการและคอนเสิร์ตใหญ่ เราก็หาของให้ครบให้แน่นก่อนแล้วก็เดินลุยไป ปัจจุบันก็เช่นกันเราเก็บหอมรอมริบมุกการแสดงต่างๆ เอาไว้ให้มากที่สุด คงความเป็นโปงลางสะออน ไม่มีใครมาแทนใครอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะผมไม่คาดหวังว่าจะมีตรงนั้น ผมเห็นเพชรเม็ดงามที่ไหน ก็สามารถมาอยู่กับเราได้"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกคนมุ่งไปที่งานโชว์เป็นหลัก เราต้องแข่งขันกับนักร้องที่มีเพลงดัง ณ วันนี้คิดงานยากหรือไม่ อี๊ด โปงลางบอกว่า
“สังคมเปลี่ยนไปยุคนี้ทีวีโลกโซเชียลมันมีผลเยอะมาก มุกต่างๆ ก็ต้องทันโลกทันเหตุการณ์มากขึ้น การแสดง การร้องเพลง ถ้าบอกว่าเป็นรายได้หลักของคนที่ดังจริงๆ อาจจะใช่นะ แต่สำหรับคนที่มีเพลงดังน้อยหรือไม่ดังจริงจะอยู่ได้ยาก พวกเราโปงลางสะออนเป็นวงที่เอ็นเตอร์เทนแล้วก็ไม่มีเพลงดังเท่าไหร่ แต่เราอาศัยความสนุกสนานสไตล์ของเราๆ ตอนนี้ผมก็ทำเพลงออกมาชื่อ "เบาหวานกำเริบ” ลองเปิดฟังดูทางยูทูบ อีกอย่างคือต้องมีอาชีพเสริมอย่าง "ข้าวแต๋น โปงลางสะออน” เราก็ผลิตออกมาวางขายควบคู่กับงานโชว์ มีน้องบางคนที่ห่างหายไป 2-3 ปี ก็ยังกลับมา อย่างจีจี้ก็หายไป 2 ปี ไปร้องเพลงอีกวงหนึ่ง ความรู้สึกวันที่ไม่ดังก็เหมือนเดิม ตื่นเต้น เหมือนเราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง"
เมื่อถามถึงการสร้างทีมงานใหม่ๆ เข้ามาแทนคนเก่า บวกกับต้องหามุกที่ไม่ซ้ำ กับที่เคยเล่น ซึ่งแฟนเพลงก็คาดหวังและในทีมคาดหวังแค่ไหน
“เราอย่าไปคาดหวังว่า เราต้องมีมุก คนคาดหวังผมรู้ แต่ผมไม่คาดหวังเดี๋ยวมันจะกลายเป็นความกดดันตัวเอง ผมเอาบุคลิกของน้องๆ ที่เป็นตัวเขา ตลกไม่ตลกก็เล่นไปเถอะ ความเป็นพวกเขามีความน่ารักในตัวอยู่แล้ว บวกกับการเล่นดนตรีที่ร้องได้รำได้ เราก็เอาแบบรุ่นพี่ๆ ที่เขาแสดง เราก็ครูพักลักจำพวกนี้ เราถือเป็นครูของเรา ปล่อยไปตามธรรมชาติต้องใช้เวลา ชุดใหม่เลยท่ารำ มีบางชุดที่เอามาทำใหม่ให้เข้ากับยุคหรือให้ดูแล้วออกมาดีกว่าเดิม ผมอยากให้พวกน้องๆ มีความมั่นคงในชีวิตมากกว่านี้ อยากเห็นพวกเขาลืมตาอ้าปากได้ เรามีความสุข"
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เวลาแสดงตามที่ต่างๆ ในวันนี้กับเมื่ออดีต ความรู้สึกมันต่างกันหรือไม่ อี๊ด โปงลาง มองหน้าก่อนจะตอบว่า
“ตอนนั้นก็มีความสุข ตอนนี้ก็มีความสุข คือชีวิตนักร้อง เวลามีคนดูไม่ว่ามากหรือน้อยก็ต้องเล่นให้ได้ น้องๆ พวกนี้เขาสอนผมด้วยซ้ำว่าพี่ต้องอยู่ให้ได้ พี่ต้องทำให้ได้ น้องอาจจะคิดว่าเราเล่นไม่สนุก เพราะคิดมากแต่จริงๆแล้วเราวางหมากวางเกมไว้ให้พวกเขาหมดแล้ว ให้เขาได้เล่นบ้าง ส่วนตัวผมทำวันนี้ให้ออกมาเต็มที่ เล่นหน้าเวทีแล้วคนดูสนุกหัวเราะ มีความสุข สถานที่ จำนวนความสุขของคนดูมันมีไม่เท่ากัน แต่เราต้องเล่นให้เขาสนุกที่สุด”