บันเทิง

‘THE ASSASSIN’หนังกำลังภายในเรื่องแรกของ‘โหว เสี่ยว เฉียน’

‘THE ASSASSIN’หนังกำลังภายในเรื่องแรกของ‘โหว เสี่ยว เฉียน’

13 ก.ย. 2558

บันเทิงต่างประเทศ : ‘THE ASSASSIN’ หนังกำลังภายในเรื่องแรก ของ ‘โหว เสี่ยว เฉียน’

 
        หลังจากได้ไปประกาศศักดาที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 68 ด้วยการคว้ารางวัล ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่องล่าสุด  “THE ASSASSIN” ที่ใช้ชื่อไทยว่า “ประกาศิต หงส์สังหาร” ทำให้ชื่อ โหว เสี่ยว เฉียน ผู้กำกับแถวหน้า ของไต้หวันในวัย 68 ปี มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้กำกับคนดังได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาไว้ว่า
 
 
@ ทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงเลือกช่วงศตวรรษที่ 9 ของจีน ช่วงปลายของราชวงศ์ถัง (ปี 618-907) มาเป็นเนื้อเรื่อง
 
        ผมสนใจเหตุการณ์ การก่อกบฏในราชวงศ์ถัง ตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมและอุดมศึกษา ผมใฝ่ฝันอยากจะทำภาพยนตร์เกี่ยวกับพวกเขา และภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์นี้ ผมใช้เวลาในการอ่านประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นอย่างละเอียด และเริ่มค้นคว้าด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิถีชีวิต อาหารการกิน เครื่องแต่งกาย นอกจากนี้ ยังมีบริบทของการเมืองสอดแทรกด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวาย ที่ศาลของราชวงศ์ถังถูกแทรกแซง โดยผู้ว่าการที่คอยท้าทายอำนาจของราชวงศ์ถัง บางมณฑลถูกบังคับให้แยกตัวออกจากราชวงศ์ ความขัดแย้งนี้บานปลาย จนกระทั่งมีการก่อกบฏ ตามมณฑลต่างๆ ซึ่งราชวงศ์ ก็ก่อตั้งกองทหารรักษาการเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งเรื่องนี้จะเกิดช่วงปลายศตวรรตที่ 9 ซึ่งราชวงศ์ถังก็ล่มสลายในปี 907 ผมหวังว่าผมจะสามารถถ่ายทอดช่วงยุคสมัยนั้นให้ออกมาได้อย่างสมจริง ผมเลยสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์แบบไม่บิดเบือน
 
 
@ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นหนังกำลังภายในเรื่องแรกของคุณ
 
        ผมเคยเห็นภาพยนตร์กำลังภายใน ที่เป็นงานเขียนของจูลส์เวิร์น และใช้มันเป็นภาพยนตร์กำลังภายในจากฮ่องกง ซึ่งทุกคนเข้าใจว่า มันคือ กังฟู และภาพยนตร์ที่ต่อสู้ด้วยดาบ ผมศึกษาภาพยนตร์เหล่านั้น ตั้งแต่เด็กๆ ผมคิดว่าสักวัน ผมจะสร้างหนังกำลังภายในเองสักเรื่อง แต่ผมคงไม่ให้นักแสดงนำบินได้ ต่อสู้กลางอากาศ ต่อสู้บนหลังคา ผมคงไม่ทำแบบนั้น ผมจะให้ต่อสู้บนพื้น ซึ่งฉากต่อสู้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นแบบดั้งเดิมจริงๆ ต่อสู้แบบจริงๆ ซึ่งผมค่อนข้างใส่ใจ และห่วงใยนักแสดงของผม ผมจะป้องกันอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร แม้ว่าจะใช้ดาบไม้บ้าง แต่ว่าบางฉาก มันก็ดุเดือดจริงๆ ซู ฉี นักแสดงนำ ก็มีแต่รอยช้ำหลังจากเข้าฉาก และสิ่งที่ท้าทายมาก สำหรับผมคือการมีนักแสดงญี่ปุ่นอย่าง คุโรซาวา และคนอื่นๆ ที่มีศิลปะการต่อสู้ตามแบบของเขา ซึ่งเป็นแบบซามูไร ไม่ใช่กังฟู
 
 
@ ทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงเป็นภาพขาวดำในช่วงต้นเรื่อง
 
        เพราะเป็นบทที่ผมสร้างมาจากสัญชาตญาณ การที่ใช้ภาพขาวดำ เพื่อเป็นการสื่อให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเราจะสลับภาพเป็นสีในการเล่าเรื่อง
 
 
@ ซู ฉี รับบท หยินเหนียง ซึ่งเคยทำงานร่วมกับคุณ ในภาพยนตร์เรื่อง millennium mambo (2001) และ three times (2005) ส่วนจาง เจิ้น ที่มารับบทเทียน ก็เคยร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง three times คุณคาดหวังอะไรกับทั้งคู่หรือไม่
 
        พวกเขาเป็นตัวละครในฝันของผมเลย แต่ละคนก็มีฝีมือการแสดงที่ไม่ธรรมดา ทั้งคู่ต้องแสดงร่วมกัน ผมชอบการแสดง ที่เป็นธรรมชาติของพวกเขา ซูฉี เป็นผู้หญิงสบายๆ ที่อาศัยอยู่ที่ฮ่องกง ที่เธอมีเพื่อนๆ ห้อมล้อมแต่ว่าเธอก็ยังโดดเด่น ส่วนจางเจิ้น เขาเป็นคนยุติธรรมและค่อนข้างเงียบ พวกเขาทั้งคู่ต่างเคารพในตัวเอง และให้เกียรติคนรอบข้าง ซึ่งการเคารพตัวเองและการเคารพผู้อื่น นี้เป็นพื้นฐานที่จำเป็น ในการสร้างภาพยนตร์เหมือนๆ กับชีวิต
 
 
@ เรื่องนี้ถ่ายทำที่ไหนบ้าง
 
        เราถ่ายทำในมองโกเลีย ทางเหนือของจีน และมณฑลหูเป่ย ผมเห็นป่าสีเงินและลำธาร มันเหมือนภาพวาดของจีนโบราณ ภาพของแม่น้ำและภูเขา เหมือนภาพที่สะบัดพู่กัน แต่ว่า ไม่ได้ออกถึงขั้นแฟนตาซีนะ สิ่งที่ผมต้องการ ที่จะนำเสนอในภาพยนตร์เกี่ยวกับภาพของทิวทัศน์ ผมต้องการให้คนอยู่ในสถานที่ที่สวยงาม เหมือนทิวทัศน์โอบล้อมตัวละครอยู่ และผมค่อนข้างจะถ่ายทำแบบสมจริง เป็นสิ่งที่ทำในชีวิตจริงๆ บางทีพวกเขา ก็มีส่วนร่วมในบางฉาก พวกเขาแนะนำ ผมว่าจะถ่ายทำภาพคนโบราณอย่างไร มุมไหน ที่ดูธรรมชาติ และดูเป็นจริง เมื่อชาวบ้านหิว ตัวละครจะไม่สนใจ ว่ากล้องจะขยับไปทางไหน พวกเขาก็เดินไปตัดเนื้อที่ตากแห้ง ที่ห้อยอยู่กับเสาเลย และผมก็ถ่ายทำเก็บไว้ แม้ว่ามันจะไม่มีอยู่ในบท อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ ในปรัชญาการทำงานของผมในฐานะผู้กำกับ ผมจะปล่อยทุกอย่าง ให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น
 
 
@ คิดอย่างไร ที่มีการนำไปเปรียบเทียบกับต้นฉบับที่เป็นนวนิยาย และคนดูจะได้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้
 
        ผมไม่เคยสนใจคำวิจารณ์เลย ถ้าภาพยนตร์เป็นแม่น้ำ ผมจะสนใจว่า มันจะไปทางไหน ความเร็วที่ไหล การออกนอกเส้นทาง แรงลม น้ำวน มากกว่านั้นจุดหมายอยู่ที่ไหน จะสามารถออกทะเลได้ หรือไม่ ผมหวังว่าคนดูจะสนุกกับการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และรับเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตผ่านเข้าตัวเองอย่างมีสติ
 
        ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์