หมอโอ๊คโล่งใจทั้งน้ำตาโอปอล์พ้นภาวะเสี่ยงแท้งลูก

11 ก.ย. 2558

ดีใจได้ลูกแฝดได้ไม่เท่าไหร่ ”โอปอล์” ปาณิสรา ศรีภรรยาก็ต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต้องนอนพักนิ่งๆ ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด หลังพบภาวะผิดปกติจากการตั้งครรภ์เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ล่าสุด “หมอโอ๊ค” สมิทธิ์ อารยะสกุล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงอาการของภรรยาในงานประกวดโครงการ “เคแบงก์ อีเกิร์ลส รุ่นที่ 8” รอบชิงชนะเลิศ ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอนได้ความดังนี้

“ในช่วงสัปดาห์แรก ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย ที่ไม่ได้อัพเดทอะไรให้ฟังเลย เพราะสภาพจิตใจและความพร้อมของเรา มันยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ยอมรับว่าเครียดทั้งคู่ ผมทราบอาการผิดปกติได้จากการกอดคุณโอปอล์ แล้วรู้สึกว่าทำไมท้องเขาแข็งขึ้น ซึ่งเราก็จำได้ว่าตอนเป็นนิสิตแพทย์ อาการนี้เป็นสัญญาณว่ามดลูกหดรัดตัว ซึ่งคุณโอปอล์ตั้งครรภ์ตอนนั้นได้ประมาณ 6 เดือน ก็ถือว่าค่อนข้างเร็ว แต่เนื่องจากเป็นครรภ์แฝดด้วยก็อาจจะเกิดอาการแบบนี้ได้ วันรุ่งขึ้นเลยพาไปพบคุณหมอ พอตรวจ ก็พบว่ามดลูกหดรัดตัวจริง และปากมดลูกของคุณโอปอล์รับน้ำหนักได้ค่อนข้างจำกัดเพราะคุณโอปอล์ตัวเล็ก แล้วเรามีลูกแฝดและท้องคุณโอปอล์ก็ใหญ่มาก หมอก็เลยแนะนำว่า ต้องพักผ่อนในโรงพยาบาลและให้ยาชะลอการคลอด และอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จริงๆ อายุครรภ์ในช่วงนั้นถือว่าลุ้นมากเลย เพราะอายุครรภ์ถือว่าน้อย แล้วคือเป็นช่วงลำบากมากที่สุดในชีวิตของเรา มันเป็นช่วงที่เราต้องอดทนมาก เพราะต้องรอและดูอาการวันต่อวัน ซึ่งจริงๆ ก็อยากบอกทุกคน แต่เราไม่พร้อมจริงๆ จนเวลาล่วงเลยมาตอนนี้ เข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว ความปลอดภัยก็มากขึ้น ทั้งคุณโอปอล์และลูกๆ ด้วย ก็ถือว่าเป็นเกณฑ์คลอดก่อนกำหนดแล้ว คงไม่ใช่คำว่ากันแท้งแล้ว ตอนนี้น้องๆ แข็งแรงดี น้ำหนักเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ คุณโอปอล์ได้พักผ่อนแล้ว ร่างกายก็ตอบสนองต่อยาดี” หมอโอ๊คกล่าว

ว่าที่คุณพ่อแจงว่า สภาพจิตใจของตัวเองตอนนี้ รู้สึกสบายใจขึ้นทุกวัน ก่อนจะน้ำตาคลอ บอกว่าลูกสอนบทเรียนให้ตั้งแต่ยังไม่เกิด

“เรื่องนี้สอนผมเยอะมาก สอนให้เราอดทน ผมถือว่าลูกสอนผมนะ สอนเราตั้งแต่เขายังไม่เกิด และทำให้รู้เลยว่าเรารักเขามากแค่ไหน (น้ำตาคลอ) ตอนนี้โอปอล์อยู่โรงพยาบาลตลอด คุณหมอวางแผนว่า ให้อยู่จนคลอดน้อง ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โชคร้ายที่เราเป็นแพทย์ด้วยมั้ง พอเป็นแพทย์เรารู้เยอะก็คิดเยอะ แล้วเราต้องเข้มแข็ง เพื่อโอปอล์ที่เป็นแม่ เราต้องเป็นหลัก ให้คุณโอปอล์และลูกๆ ได้รับการรักษาให้ดีที่สุด แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไป ผมสัญญากับเขาตั้งแต่ก่อนแต่งงานว่า เราจะไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม อย่างเหตุการณ์นี้ เขาค่อนข้างใจเสีย อย่างที่รู้ๆ กันว่าเขาเป็นเวิร์กกิ้งวูเมน เขามีภาระที่ต้องรับผิดชอบเยอะมาก พอคุณหมอสั่งให้พัก คุณโอปอล์ต้องเสียสละมาก ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันห้ามและต้องนอนราบอยู่บนเตียงอย่างเดียวเท่านั้น ทุกวันนี้ก็ยังปฏิบัติอยู่ คุณหมอบอกให้พักให้มากที่สุด ผมก็รักเขามากขึ้นทุกวัน เห็นเลยว่าความเป็นแม่ ยิ่งใหญ่แค่ไหน ทุกวันก็ปรับตัวได้มากขึ้น ผมสัญญาว่าไม่ว่าจะไปทำงาน หรือทำอะไรก็ตามเราจะต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน เท่าที่สถานที่และการรักษาจะอำนวย” ว่าที่คุณพ่อกล่าว

เมื่อถามถึงกำหนดคลอด ว่าที่คุณพ่อแจงว่าไม่สามารถกำหนดได้ “ตอนนี้ปรึกษาคุณหมอก็อุ่นใจขึ้น กังวลแค่ว่า น้องจะต้องอยู่ในตู้นานหรือไม่แค่นั้นเอง ต้องบอกว่าครอบครัวเป็นพลังที่สำคัญที่สุด สุดท้ายคนที่เป็นหลักให้เรายึดจริงๆ คือคุณพ่อคุณแม่ คือรู้เลยว่าคุณพ่อคุณแม่รักเรามากแค่ไหน เราก็เรียนรู้เลยว่า เรารักลูกมากแค่ไหน มันเป็นจุดเริ่มต้นบทบาทของความเป็นพ่อ เรื่องวันเกิดจริงๆ เราก็คุยกันตลอด จะเห็นว่าวันเกิด ผมไม่ได้เป็นคนที่ชอบอะไรที่ฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ด้วยกัน แต่ว่าปีนี้ถึงแม้ว่าสถานที่เปลี่ยนไป ได้ฉลองกันในโรงพยาบาล แต่ก็ยังได้อยู่ด้วยกัน ถือเป็นสิ่งที่ดี (น้ำตาไหล) ผมว่ากำลังใจที่ดีที่สุดคือการมองโลกในแง่ดี และปฏิบัติตนให้เหมือนเดิมอยู่เสมอ อยู่ใกล้ๆ เสมอเมื่อเขาต้องการ ตอนนี้ผมก็เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว จิตใจโอปอล์ก็ดีขึ้น เรื่องนี้ธรรมะช่วยเราไว้ได้มาก เราก็เชื่อเรื่องบทเรียนชีวิต กรรม ศีล ทั้งหลายทำให้ดึงเราลงมาอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด ช่วงแรกปรับตัวไม่ได้เลย มันหดหู่ แย่ไปหมด ต้องยกย่องโอปอล์เป็นคนเข้มแข็งมาก และผมต้องขอขอบพระคุณทั้งคนไข้ โรงพยาบาลและทุกหน่วยงานที่ผมเกี่ยวข้อง เขาก็เห็นใจ ตอนนี้ทุกอย่างปรับตัวได้ดีขึ้น ทุกวินาทีที่ผ่านมามันดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ คือเรื่องดีทั้งนั้น ขอบคุณโอปอล์ที่เข้มแข็ง และขอบคุณที่อยู่ข้างกันเสมอ ทั้งทุกข์และสุข” หมอโอ๊คกล่าวปิดท้ายเสียงเครือ

หมอโอ๊คโล่งใจทั้งน้ำตาโอปอล์พ้นภาวะเสี่ยงแท้งลูก | คมชัดลึก

บันเทิง