บันเทิง

ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความคิดชีวิตผู้ชายชื่อ‘แสตมป์’

ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความคิดชีวิตผู้ชายชื่อ‘แสตมป์’

05 ก.ย. 2558

ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความคิดชีวิตผู้ชายชื่อ ‘แสตมป์’ : บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... ณัฏฐิรา หลอดแก้ว ภาพ... สุกล เกิดในมงคล

 
          ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นปีทองของ “แสตมป์” อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้อง นักแต่งเพลงชื่อดัง จนถึงปีนี้เขาคือหนึ่งในศิลปินที่ถูกล่าวถึงทั้งเรื่องของงาน และเรื่องราวชีวิตส่วนตัว โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ดวงงานของเขากำลังพุ่งกับการจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ “แสตมป์ ฟ้าผ่า” ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี และดวงชีวิตที่ก็มาถึงจุดสูงสุดกับการเตรียมเข้าประะตูวิวาห์กับแฟนสาว “นิว” จีริสุดา ศรีวัฒน์ ในเดือนธันวาคมนี้ วันนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” จะพาไปสัมผัสกับทุกเรื่องราวชีวิตของผู้ชายคนนี้
 
 
@@ คอนเสิร์ตใหญ่
000ที่มาที่ไปของคอนเสิร์ต “แสตมป์ฟ้าผ่า” หน่อย
          ผู้ใหญ่คิดว่าปีนี้น่าจะมี เพราะว่าเว้นมา 2 ปีแล้ว ปีที่แล้วเราเว้นจัดคอนเสิร์ตใหญ่ แล้วไปทัวร์ตามต่างจังหวัด เลยมีการพูดคุยกันว่าน่าจะลองทำกันไหม เพราะมันก็ถึงเวลาแหละ ซึ่งครั้งนี้จัดอิมแพ็ค เลยเหรอ เพราะเราก็กลัวอยู่ แต่ทางผู้ใหญ่ก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร ในส่วนตัว เราเองก็เคยเล่นอิมแพ็ค มาบ้าง ข้อดีของอิมแพ็ค คือที่นั่งเป็นทางราบตัวยู (U) ซึ่งทำให้เราก็เห็นกันและกัน อาจจะสนุกกว่าอันเล็กที่เป็นแบนด์อย่างเดียวก็ได้
 
 
000ที่จัดอิมแพ็ค อารีน่า เพราะว่าคอนเสิร์ตครั้งที่แล้วมันฟีเวอร์มากด้วยหรือเปล่า
          ผมว่าเมื่อครั้งที่แล้ว เป็นช่วงกระแสกำลังมา แต่คอนเสิร์ตครั้งนี้ จะเป็นแบบจริงๆ ที่มาจากเรา ส่วนตัวผม ไม่ได้กลัวว่าที่นั่งจะโล่งหรือเปล่า แค่อยากเล่น เราไม่ได้มองว่าคอนเสิร์ตจะเป็นต้องเป็นปรากฏการณ์เหมือนเมื่อคราวที่แล้ว ที่ว่าบัตรขายหมดในเวลาไม่นาน ครั้งที่แล้วมันเป็นกระบวนการ (หัวเราะ) มันเป็นกระแส ผมว่าอะไรมันก็ต้องเปลี่ยนไป ในมุมหนึ่งผมคิดว่ามันก็ดีที่ว่า ถ้าเขามาดูเรากันในครั้งนี้ เป็นคนที่เขาอยากมาดูเราโชว์ ในแบบที่เป็นเราไม่ใช่เพราะกระแส ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่สนุกมาก เราผ่านช่วงเวลา ที่มันเป็นกระแสไปแล้ว ครั้งนี้เราก็จะคัดกรองสำหรับคนที่ชอบเพลงเราจริงๆ คอนเสิร์ตนี้จะเป็นโชว์ที่เราสามารถเล่นเพลงหน้า 2 หรือ หน้าบีได้ ซึ่งอาจเป็นเพลงที่เราไม่กล้าเล่น หรือเป็นเพลงที่ไม่ได้โปรโมท คอนเสิร์ตนี้มันแบบเราจริงๆ แล้วก็สามารถใส่รายละเอียดดนตรี ที่เราอยากทำมานาน ที่ไม่ได้เน้นว่าเราต้องเน้นการเอ็นเตอร์เทนคนดู การทำคอนเสิร์ตนี้ จึงเปลี่ยนไปจากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คราวที่แล้วผมก็พยายามที่จะกลางๆ เพราะว่าตอนนั้นคนอาจจะเพิ่งรู้จักเรา จากการเป็นโค้ชเดอะวอยซ์ แต่คราวนี้จะฮาร์ดคอร์ขึ้น ด้วยโชว์และอะไรต่างๆ มันเหมือนในฐานะที่แสตมป์เป็นศิลปินจริงๆ ไม่ใช่โค้ชเดอะวอยซ์ อะไรที่เราอยากทำมานาน เราก็ทำ ไปดึงนักวาดคนนี้มาวาดโปสเตอร์ วาดการ์ตูนในหนังสือให้ โดยไม่ได้คิดว่าคนเขาจะเข้าใจมากแค่ไหน แต่เรารู้สึกว่ามันสนุกดี เพราะผมว่าเรามีโอกาสเล่นอิมแพ็ค ครั้งเดียวในชีวิต ผมเลยไม่อยากให้มันขึ้นอยู่กับอื่นๆ อยากให้ลูกดูวิดีโอนี้แล้ว รู้ว่านี่คือพ่อมันอะ ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ความเป็นผมหรอกนะ คือก็เอาใจคนดูเหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมพยายามนำเสนอ คือ ผมอยากให้คอนเสิร์ตนี้ เป็นภาพประทับใจทั้งของผม และของคนดูทุกคนที่มาดู
 
 
000ความแตกต่างระหว่างคอนเสิร์ตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กับคอนเสิร์ตนี้ คืออะไร
          เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมคือโค้ชแสตมป์ คนรู้จักผมจากการเป็นโค้ชเดอะวอยซ์ แต่อาจจะไม่รู้จักเพลงของผมจริงๆ หากเขาซื้อบัตรมาดูคอนเสิร์ตผมครั้งนี้ ในฐานะที่เขาเห็นผมเป็นโค้ชเดอะวอยซ์ ผมว่าการสื่อสารบางอย่าง อาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน บางสิ่งที่ผมโชว์ไป เขาอาจจะไม่เข้าใจก็ได้ ในคอนเสิร์ตนี้ ผมค่อนข้างที่จะไม่กลัวว่า เพลงบางเพลงจะเล่นแล้วคนจะไม่เข้าใจ ในคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว ผมจะเน้นการเป็นเอนเตอร์เทน แต่ครั้งนี้ ผมจะโชว์แบบที่เป็นการเล่าเรื่อง แบบที่เป็นตัวผม แบบที่ชีวิตคนๆ หนึ่งจะมี แต่ว่าด้วยความ ที่มันเป็นอิมแพ็ค มันอาจจะต้องการองค์ประกอบหลายอย่างเพิ่มขึ้น นั่นคือเรื่องของโปรดักชั่น ซึ่งเราจะทำให้โปรดักชั่นกลมกลืนกับสิ่งที่เราเป็น
 
 
000พูดถึงแขกรับเชิญกันบ้าง
          มีแขกรับเชิญ ในคอนเสิร์ตนี้ 5 คน เอาที่อยากจะเปิดเผย เพราะถ้าเปิดเผยหมด เดี๋ยวเขาเดินมาคนไม่กรี๊ด เก็บไว้บ้าง ที่เปิดเผยได้คือ คุณปาล์มมี่ (ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ) เขามาร้องเพลงฟีเจอริ่งให้เรา และรู้สึกว่าเขาน่ารักมาก ผมต้องยอมรับว่า ผมเป็นคนร้องเพลงไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ดีเท่าเขา เลยรู้สึกว่า ถ้ามีนักร้องคนหนึ่งที่ร้องเพลงและสื่อสารได้ดีมากๆ คนขนลุกทั้งฮอลล์ ก็คงจะเป็นมี่นี่แหละ แขกรับเชิญแต่คนในโชว์ของผม จะเป็นคนที่มาเติมเต็มสิ่งที่ผมขาด อย่างมี่ก็มาในเรื่องร้อง แล้วมีอีกท่านที่เปิดเผยได้คือ วง วายเอ็มซีเอ (YMCA) จากญี่ปุ่น ที่ร่วมแจมกันเมื่อปีที่แล้ว เราชวนเขามาเพราะว่า เขาเป็นอีกจุดหนึ่งที่เราขาด คือเรื่องของโชว์ที่ครีเอท มากๆ ซึ่งผมว่าไม่มีใครเหมือนเขา ส่วนแขกรับเชิญอีก 3 ท่านยังไม่ขอเปิดเผย แต่เป็นพาร์ทที่เราขาดเหมือนกัน คือ พาร์ทหล่อ พาร์ทคนรุ่นใหม่ และมีอีกพาร์ทยังบอกไม่ได้ เก็บไว้บ้าง
 
 
@@ จบหน้าที่โค้ช
000ทำไมถึงเลิกเป็น “โค้ช เดอะ วอยซ์”
          ผมมาคิดทบทวนว่าจริงๆ การมาเป็นโค้ชเดอะวอยซ์ อาจจะเป็นสิ่งที่ผมไม่เหมาะกับการยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก ไม่ใช่เพราะการเป็นโค้ชเดอะวอยซ์ไม่ดีนะ เพราะจริงๆ การเป็นโค้ชเดอะวอยซ์ ทำให้เราได้เปิดโอกาสรู้จักคนมากมาย ทำให้คนรู้จักเราในวงกว้าง และมีงานเข้ามามากมาย พอผมได้ลองทำ แล้วผมรู้สึกว่า การมายืนตรงนี้ อาจจะไม่เหมาะกับตัวผม เพราะทุกครั้งที่ทำหน้าที่ตรงนี้ และผมต้องคัดคนออกในรายการ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเสียใจมากทุกครั้ง ผมรู้สึกแบบนี้มา 3 ปี ในปีแรก ผมคิดว่า ผมจะทำใจกับตรงนี้ได้ว่ามันเป็นเกม ในปีที่สองผมคิดว่าผมรับมือกับมันได้ดีขึ้น แต่พอปีสามความรู้สึกนี้ มันก็กลับมาอีก ผมเลยตัดสินใจขอถอนตัว คือเรื่องราวที่เป็นข่าวในตอนนั้น มันอาจทำให้คนเข้าใจผิดไปในหลายๆ อย่างจากการตีความ แต่จริงๆ เหตุผลที่เป็นหลักจริงๆ คือในตอนนี้ ผมมีหลายสิ่งที่ต้องทำ ทั้งคอนเสิร์ต ทั้งการทำบริษัททำเพลงโฆษณา หรือเรื่องของการแต่งงาน
 
 
000เป็นคนแนะนำ “สิงโต นำโชค” ให้มารับหน้าที่โค้ชแทนด้วย
          ผมรู้จักน้อง (สิงโต) และรู้สึกว่าเขาทำได้ ผมอยู่กับเขามา ผมรู้สึกว่าเขาเก่ง ฉลาด และจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดี ซึ่งผู้ใหญ่ก็เห็นตรงกัน
 
 
 
@@ ชีวิตวิถีศิลปิน
000ช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนชีวิตถูกจับจ้องและเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง รับมืออย่างไร
          ก็โอเค (หัวเราะ) อย่างที่รู้ๆ กันเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวหลากหลายออกมา ถามว่าผมรับมือกับการเป็นข่าวยังไง ผมว่ามันเป็นเรื่องของดวงด้วยแหละ ที่ผ่านมา ผมได้มีการสัมภาษณ์มาตลอด และเป็นการตอบแบบตรงๆ ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ซึ่งส่วนตัวผมเป็นคนที่ตอบคำถามไม่เก่ง ผมก็จะตอบแค่ใช่ หรือไม่ใช่ มันจะมีผลอะไรตามมา แต่พอตอบคำถามไปแล้ว เรากลับมานั่งคิดทบทวนว่า ถ้าเราตอบตามความจริง แต่ให้มันละมุนละม่อมมากกว่านี้ มันก็จะไม่ส่งผลกระทบหรือเปล่า ซึ่งมีผู้ใหญ่หลายท่านก็บอกว่า มันมีคำตอบที่ไม่โกหกและดีกับทุกฝ่าย แต่ด้วยความเป็นศิลปิน ที่เราไม่ค่อยได้มีการสัมภาษณ์ในเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องงาน บางครั้งเราตกใจและคิดไม่ทัน
 
 
000พอตอบคำถามไปแล้ว และมีกระแสกลับมาทั้งบวกและลบ ได้มองกลับไปและทบทวนบ้างไหม
          เราก็ได้ทบทวนตัวเองนะ ตัวอย่างที่ก่อนหน้านี้  ที่ผมพยายามไม่ออกไปงาน ไม่ตอบคำถามอะไรก็ตาม เป็นเพราะผมคิดว่า ผมไม่ได้สำคัญขนาดนั้น และเราก็ไม่ชอบเป็นข่าว เราเลยไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะผมมองว่า ถ้าผมไม่พูดก็คงไม่เป็นไร แล้วผมเองเป็นคนตอบคำถามไม่เก่งด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เป็นข่าว ทำให้ผมกลับมาคิดใหม่ คือที่ผ่านมา ผมมองในมุมตัวเองเกินไป ไม่ได้มองในมุมของคนอื่นๆ ด้วย ผมคิดแง่ว่าถ้าผมเงียบไป มันจะดีกับผมที่สุด
 
 
000คนมองว่า “แสตมป์” เป็นศิลปินที่มีโลกส่วนตัวสูงคนหนึ่ง
          เขาว่ากันแบบนั้นนะ แต่ผมไม่ได้ขนาดนั้นหรอก ผมแค่รู้สึกว่า ผมไม่ได้เป็นคนสำคัญมาก ขนาดที่ต้องมีคนมาสนใจ ผมเป็นคนที่ไม่ได้อยากเป็นกระแส ไม่อยากเจอคนเยอะๆ และไม่ชอบอยู่ในภาวะกดดัน ส่วนตัวผมเป็นคนเครียด จริงจังกับทุกอย่างและทุกเรื่อง แต่ผมกำลังพัฒนาตัวเองอยู่ และกำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น จะได้ปล่อยวางได้มากขึ้น
 
 
000“แสตมป์” เป็นคนคิดมาตลอดว่าตัวเองไม่ดัง ทำไมถึงคิดแบบนี้
          ผมว่าของแบบนี้ มันผ่านมาและก็ผ่านไป เอาจริงๆ ผมว่าความดัง มันเป็นเรื่องของกระแสจากรายการเดอะวอยซ์ในตอนนั้น คนที่ชอบเราจริงๆ อาจจะมีไม่มากนัก คือความคิดในมุมของผมนะ ถ้าเราคิดว่าตัวเองดังปุ๊บ มันก็อาจจะพังเลยก็ได้ ผมกลัวหลงตัวเอง เพราะคนเราทุกคนก็มีด้านมืดของตัวเอง
 
 
@@ มุมความรัก
000กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวในเร็วๆ นี้ แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง
          แต่งวันที่ 20 ธันวาคมนี้ แต่อาจจะไม่ได้เชิญสื่อมวลชน เนื่องจากผมจัดงานเล็กๆ ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ ผมกับแฟนคบกันมา 7 ปี เข้าปีที่ 8 ตอนนี้เตรียมงานไปได้มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว จริงๆ เรื่องแต่งผมเตรียมการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มจองโรงแรม จองออแกไนเซอร์ จองเวดดิ้งสตูดิโอ ไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาแล้วด้วย และการ์ดแต่งงานก็เริ่มแจกแล้ว คนบอกว่าผมเตรียมงานแต่งเร็วมาก คือผมเป็นคนชอบแพลน ชอบดีไซน์ งานแต่งในมุมของผม คือ แค่อยากให้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน เพื่อนๆ ได้มาเห็นหน้าเรา
 
 
000ถูกใจอะไรในตัวว่าที่เจ้าสาว จนอยากที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคนนี้ตลอดไป
          เขาเป็นคนที่เข้าใจผมมาก เขาเป็นคนอ่อนโยนและก็เข้มแข็งมากๆ จุดที่เราทำไม่ได้ เขาทำได้หมดเลย ผมเป็นคนมีโจทก์หลายอย่าง แต่เขาสามารถรับมือกับโจทก์ของผมได้ดีมาก ผมเป็นคนขับรถไม่เป็น เขาก็ขับให้ ผมนอยด์มีเรื่องดราม่า เขาก็ให้กำลังใจเรา จะหาแบบนี้ได้ที่ไหน เขามาเติมเต็มในสิ่งที่ผมขาด ถ้าเกิดว่าขาดเขาในตอนนี้ ผมจะแย่มาก ผมอาจจะล้มคว่ำไปเลย โชคดีมากๆ ในวันที่เรามีเงื่อนไขเยอะแยะมากมาย เขาก็ไม่ได้รำคาญเรา  แถมเป็นกำลังใจให้เราด้วย
 
 
000อยากมีลูกเลยไหม
          เราทั้งสองคนเป็นชอบเด็ก ถ้าร่างกายสมบูรณ์เราก็น่าจะมีกันเลย เดี๋ยวพอแต่งปุ๊บไม่มี เดี๋ยวจะโดนหาว่าไม่มีน้ำยา (ยิ้ม)
นี่คือทุกความรู้สึกจากผู้ชายชื่อ “แสตมป์”
 
......................................
 
ผู้ชายคนนี้ : “แสตมป์” อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข
เกิด : 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2525
การศึกษา : จบปริญญาตรีจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลงานเพลงที่ผ่านมา : อัลบั้ม ไซไฟ อัลบั้ม มิลเลียนเวส์ทูไรท์พาร์ท 1 อัลบั้ม เพลงที่นานมาแล้วไม่ได้ฟัง อัลบั้ม ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ
 
..........................................
(หมายเหตุ ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความคิดชีวิตผู้ชายชื่อ ‘แสตมป์’ : บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง...  ณัฏฐิรา หลอดแก้ว ภาพ... สุกล เกิดในมงคล)