บันเทิง

เจ้าแม่มีเดีย "ชาลอต โทณวณิก"
ทำไมถึงพูด... "ดิฉันไม่เคยทรยศความไว้วางใจ"

เจ้าแม่มีเดีย "ชาลอต โทณวณิก" ทำไมถึงพูด... "ดิฉันไม่เคยทรยศความไว้วางใจ"

22 ก.ค. 2552

นับตั้งแต่มานั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) ทำให้ช่วง 2 ปีกว่ามานี้ ชื่อของ ชาลอต โทณวณิก ลูกหม้อระดับบิ๊กของแบงก์กรุงศรีฯ ถูกพูดถึงในวงการบันเทิง ทั้งฟรีทีวีและสื่อใหม่อย่างเคเบิล-ดาวเทียม

  จะโดยชื่นชม หรือปรามาส แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ ที่ช่อง 7 เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่
  การก้าวเข้ามาในฐานะบริษัทลูกของช่อง 7 สี ที่ใครๆ มองว่า "ใหญ่" กว่าคนเก่าๆ ขณะที่บริษัทแม่ "เจ้าของ" ตัวจริง คืออดีตนายแบงก์ใหญ่ก็พาคณะบอร์ดเข้ามาบริหารงานเองด้วยซ้ำ
 จึงขออย่าได้แปลกใจ ที่ "ชาลอต" จะพกใบเบิกทางมาพร้อมกับ "โอกาส" พิสูจน์ฝีมือ...อีกครั้ง!!

0 ช่วงนี้มีเดียฯ รุกทำข่าว ถึง 3 รายการเลย
 ค่ะ "เจาะเกาะติด" ครบ 1 ปีพอดี "ประเด็นเด็ด 7 สี" ก็เกือบ 2 เดือน และ "เช้านี้ที่หมอชิต" เพิ่งเริ่มได้เดือนกว่าๆ แล้ว

0 แต่ละรายการแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
 ตอนแรกเราได้เวลาช่วงดึกมาก ซึ่งสองยามครึ่ง ของเจาะเกาะติด ตอนนั้นเราจะทำอย่างไรถึงมีคนดู ตอนทำรายการคนดูน้อย อยู่ในสตูดิโออย่างเดียว เรามาคิดว่าถ้าเป็นรายการแรกของข่าวแล้ว เราน่าจะแสดงศักยภาพให้เต็มที่ พอได้เวลา ก็ซื้อเวอร์ชวลสตูดิโอ หรือสตูดิโอ 3 มิติเลย 

0  ไม่นานก็ได้เวลาอีก
  อันนี้เป็นข่าวใหญ่ คือว่าเหมือนกับช่อง 7 เองไม่เคยเปลี่ยนเวลา ไม่เคยเปลี่ยนผังขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าได้เวลาใหม่ แล้วก็ทำไป แต่อิมแพ็คมันมาค่อนข้างเยอะ กลายเป็นว่าไม่ใช่ตัวเราสู้ แต่มองว่าช่อง 7 ลุกขึ้นมาสู้เรื่องข่าว นี่คือความหนักใจ ตอนนั้นเรายังไม่รู้ผล แต่มั่นใจว่าดีแน่เลย เพระมันแค่ครึ่งชั่วโมง และเป็นเวลาที่ทีมเราถนัด เพราะมีทีมฮอตนิวส์

0 ไม่กลัวเหรอ ไปชนกับอีกช่อง ที่แข็งมาก
 ออนแอร์ไปได้วันเดียว พอวันที่ 2 เรตติ้งมันขึ้นมาเลย ขึ้นมา 7.5 นี่สูงกว่าละครบางเรื่องบางช่อง ได้เรตติ้งขนาดนี้ กำลังใจมาเป็นกองแล้ว ถัดจากนั้นก็ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ ต่อจากนั้นมากลายเป็นว่า เรตติ้งเราสูงกว่ามาตลอดจนถึงตอนนี้ เหมือนเราว่ารู้แนว มั่นใจภาพที่ออกมา อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ พิธีกร ภาพออกมาดี นี่คนอื่นพูดด้วยนะ

0 แต่ก็ไม่มีวันอังคาร เพราะกลัวชนกับตี 10
 ตรงนั้นเราไม่ได้เป็นคนกำหนด แต่ทางสถานีกำหนดมาว่า เว้นวันอังคารวันหนึ่ง ด้วยวัตถุประสงค์ ก็คือเป็นคิวที่ทางสถานีต้องสู้เรื่องเรตติ้ง ก็เอารายการชิงร้อยชิงล้านมาลงแทน

0 อะไรทำให้มั่นใจว่าคนต้องดูรายการข่าวของเรา   
 นอกจากเรื่องสัญญาณดี  เรามั่นใจในทีมการผลิตด้วย ฐานผู้ชมด้วย ซึ่งตอนแรกเราไม่มั่นใจ เพราะคิดว่าฐานช่อง 7 ชอบดูแต่บันเทิง แล้วสาระไม่ค่อยชอบ นี่คือสิ่งที่เรารับฟังมาโดยตลอด แต่พอเราทำประเด็นเด็ด มันพิสูจน์แล้วว่ามีคนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาดูรายการข่าว และช่วยส่งเราด้วย อย่างเบรกสุดท้ายของละคร แล้วส่งมาที่เบรกแรกของรายการเรา ทำให้เรียกว่าอยู่ตัวค่อนข้างเร็ว ขายโฆษณาก็วันเดียวหมด

0 เห็นอะไรในตัว "ต๊ะ" นารากร คะ 
 ดิฉันเป็นคนชวนเขาเอง ตั้งแต่แรกที่ไอทีวีปิดตัว มีคนชวนเขาเยอะนะ ...ต๊ะ มีบุคลิกของผู้ดำเนินรายการ ไม่ใช่ข่าวอย่างเดียว พิธีกรประเภทอื่นๆ ก็ทำได้ นี่คือศักยภาพของเขา และความมั่นใจที่เขามี ไม่ใช่สาวมั่นแบบห้าวๆ แต่มีความอ่อนหวานด้วย ดิฉันว่าเขาใช่นะ

0 ทีมข่าวยกมาเป็นทีมเลย
 เราโชคดี พอไอทีวีปิดตัวลง ทีมงานไป 2-3 แห่ง และมีอยู่ประมาณหนึ่ง 30-40 คน ที่เขาตัดสินใจเลือกเรา นี่ต้องบอกว่าเขาเลือกเรานะ ไม่ใช่ว่าเราเลือกเขาอย่างเดียว เพราะมีคนชวนเยอะแยะ เราโชคดีที่เราได้เขามาทั้งชุด ถือว่าเราได้อะไรที่สำเร็จรูปมา เหมือนบะหมี่ ที่ได้มาทั้งกล่อง แค่ชงน้ำก็ใช้ได้แล้ว

0 เปิดตัวดี ทีมงานดี แต่คนแซวว่าใช้เงินเยอะเชียว
 ต้องบอกว่าเราเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ การใช้เงินทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล เนื่องจากแต่เดิม 5 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้ลงทุนอะไรเลย ฉะนั้นอุปกรณ์ต่างๆ มันเก่า ที่ดิฉันมักเรียกว่า ปะผุ คือเขาก็เก่งนะทนใช้กันมา แต่เมื่อถึงเวลาที่เราทำรายการใหญ่ คือทำข่าว กล้องในการทำงานก็ไม่มี เราก็ต้องซื้อทีนึงเป็น 20-30 ตัว งานนี้ต้องสู้กัน

0 บอกได้ไหมว่าลงทุนไปเท่าไหร่แล้ว
 ใน 2 ปี เราลงทุนไป 150 ล้าน ค่าสตูดิโอ ค่าอุปกรณ์ เหมือนว่ามีเดียฯ นับหนึ่งใหม่ อุปกรณ์ใหม่หมด เพราะเราไม่ใช่สถานี เราเป็นบริษัทที่จะต้องทำรายการข่าวสู้กับสถานี ส่วนเรื่องเฮลิคอปเตอร์ ดิฉันก็บอกว่า เช่า แต่ความที่เขาให้ทุกอย่าง น่ารักมาก เหมือนของเราเอง จะติดสติกเกอร์อะไรก็ให้หมด  

0 ทีนี้มาถึงรายการข่าวเช้าได้อย่างไร
 พอทำประเด็นเด็ด 7 สี 2 อาทิตย์ ก็ลอยลำ ทางช่อง 7 ก็บอกให้ทำอีกเวลาหนึ่ง คือให้เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน เท่ากับว่าเราต้องขึ้นรายการใหญ่ๆ 2 รายการ นี่ไม่ได้เสนอนะ สถานีให้มาทำ ตอนนั้นเริ่มฉุกละหุก เพราะทีมงานที่มีประมาณ 50 กว่าคน เราต้องการรับคนต่างๆ เพิ่ม พวกตระเวนข่าว ช่างภาพ รวมทั้งหมดประมาณ 100 คน ทำทั้ง 3 รายการ

 0 ทำรายการไหนยากสุด
 ช่วงเช้าทำยากสุดนะ เพราะเช้าเป็นเรื่องของการเล่นกับอารมณ์ผู้ชม ตื่นมาไม่อยากเจอหนักๆ มาก มานั่งวิเคราะห์ อยู่ในช่วงเหวี่ยง บางวันสูงมากเลย บางวันก็ธรรมดาๆ ทีนี้เราต้องการเรตติ้งที่นิ่งในระดับหนึ่ง 

0 ความภักดีของผู้ชมช่อง 7 ช่วยได้ไหม
 คืออย่างนี้ ช่องคู่แข่งมีเบอร์ใหญ่ทำมา 7 ปี ถึงแม้ช่อง 7 เดิมมีจมูกมด เปรียบเทียบเป็นอันดับ 2 เวลาเรามา มาในฐานะผู้ท้าชิง เหมือนเราต้องรักษาฐานของรายการเดิมไว้ก่อน ภายใน 2 เดือนต่อไป เราขยับยังไงได้ ไม่เหมือน 4 ทุ่มครึ่ง อันนั้นเราชนะไปเลย แต่อันนี้มองว่ายากสุด เจออะไรที่กระดูกสุดแล้วล่ะ แต่เราคิดว่าภาพต่างๆ ที่ออกมาจนถึงวันนี้ มันใช่ เหลือปรับอะไรต่างๆ อยู่บ้าง รายการเช้าเราต้องดูอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป

 0 ช่อง 7 เอื้อข้อมูลกันบ้างหรือเปล่า
 ณ ตอนนี้ในช่วงข่าวเช้าก็มีการร่วมกัน คือมีการแบ่งกันว่า ที่เป็นฮาร์ดคอร์ ประเภทการเมือง หรือข่าวที่ต้องใช้ภาพข่าวเยอะๆ ที่ช่อง 7 ทำ อย่างช่วงคุณจินดา คุณเหมือนฝัน ก็ยิงจากสตูดิโอ ช่อง 7 ช่วงข่าวกีฬาา ก็มีเรื่องลิขสิทธิ์ ซึ่งช่อง 7 จะมี คือร่วมกันเป็นชิ้น และจากนี้ไปจะเห็นมากขึ้น คือใช้อุปกรณ์ร่วมกัน 

0 จะมีวันหนึ่งไหม ที่เห็นคุณชาลอตกับช่อง 7 เป็นเนื้อเดียวกัน       
 ในการร่วมมือกันทำงานก็แล้วแต่นโยบายของบริษัทแม่ ทุกอย่างที่เราลงทุน ทุกอย่างที่เราเตรียมเพร้อม ก็รองรับได้ ก็แล้วแต่ว่าบริษัทแม่ต้องการให้เราทำอะไร

0 นอกจากข่าวแล้ว ยังหันมาทำละครด้วย
 ความจริงมีเดีย ออฟ มีเดียส์ อย่างที่บอก เราเหมือนเป็ด คือประเภทบินก็ได้ ว่ายน้ำก็ได้ ก็เพราะว่าบริษัทแม่เป็นสถานีช่องใหญ่สุด เราเหมือนกับเป็นตัวเสริม เมื่อไหร่ถ้าบริษัทแม่ต้องการละคร เราก็ต้องทำเป็น ต้องการรายการเราก็ต้องผลิตได้ จะต้องมีกองทัพที่ชำนาญในแต่ละด้าน ทีนี้ด้านบันเทิง เปิดกล้องไปแล้ว 2 เรื่อง คือเรื่องลึกลับ คุ้มผาคำ  และ เรื่องรักกุ๊กกิ๊ก ส้มหวานน้ำตาลเปรี้ยว 

0 เปิดกล้องก็ฮือฮาเลย เห็นว่าตอนทำไม่ได้ผ่านคุณแดง
 ถ้าติดตามข่าวมาตั้งแต่ต้น บอกแล้วว่ามีเดียฯ นี่เป็นโมเดลอีกอันหนึ่ง เรามีศักยภาพที่จะลงทุน ทางช่องก็บอกว่าเราลงทุนทำไป อยากจะเสนอไอเดียแนวไหน ก็ลองคิดดู ก็เหมือนทดสอบ

0 ไม่ต้องผ่านใคร
 ไม่ต้องผ่านใคร ก็ต้องคิดแล้วเสนองานให้บอร์ดดู เขามีสิทธิ์ที่จะไม่เอา ความเสี่ยงอยู่ที่เรา เพราะถ้างานไม่ดี เรตติ้งก็เสีย ดังนั้นไม่ใช่ว่าเราได้สิทธิพิเศษ แต่เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเรา  แต่ถ้าทำเหมือนโมเดลคนอื่น ทั้งดาราช่องก็ป้อนให้ เนื้อเรื่องก็ป้อนให้ มันก็ไม่รู้หรอกว่าความสำเร็จนั้นเป็นของมีเดียฯ หรือว่าเป็นเพราะช่องอุ้มอยู่ 

0 แต่คนนอกเห็นคุณแดงเป็นโลโก้ของละครช่อง 7 ใครจะเสนออะไรคุณแดงต้องรับรู้
   ดิฉันคิดว่าคนอ่านข่าวคิดเยอะไป (หัวเราะ) จริงๆ ไม่มีอะไรเลย เป็นโมเดล คุณสร้างก็ไปขาย ดูสิว่าเขาจะซื้อไหม คุณมีความสามารถหรือเปล่า อย่างนั้นมากกว่า ก็คือคิดมากกันไป 

0 คุณกฤษณ์ นายกดดันเรื่องการทำงานบ้างไหม 
 ไม่มีนะคะ ทำงานกับท่านมาเกือบ 15 ปีแล้ว แทบไม่ต้องสั่งอะไรที่เป็นดีเทลเลย  โชคดีอย่างเหมือนกับว่าดิฉันได้รับความไว้วางใจระดับหนึ่ง คนก็ถามว่าไม่คิดจะทำธุรกิจส่วนตัวเหรอ ดิฉันบอกไม่ เพราะว่าเราก็ได้ความไว้วางใจเหมือนเป็นของเราเอง ไม่ใช่ท่านประธานอย่างเดียว บอร์ดด้วย ระบบบอร์ดพร้อมจะให้การสนับสนุน เพราะฉะนั้นถือว่า ที่ดิฉันอยู่ได้ก็ด้วยความเชื่อใจกัน มันมากกว่าเงินทองที่เราได้  แล้วดิฉันไม่ทรยศความไว้วางใจใคร เพราะถ้าทรยศตรงนั้นก็เท่ากับทรยศตัวเอง

0 คิดว่าที่สุดของมีเดียฯ คืออะไร
 คือเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบันเทิง อันดับ 1 ในแง่ไหน ในแง่ของการยอมรับว่า ถ้าพูดถึงมีเดียเป็นฮับของวงการบันเทิงเช่นกัน และให้ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นได้ดี

เรื่อง... "นันทพร ไวศยะสุวรรณ์"
ภาพ... "วันชัย ไกรศรขจิต"