
จิม สเตอร์เจสถ่ายทอดเรื่องจริงคดีเรียกค่าไถ่เจ้าพ่อเบียร์
12 ก.ค. 2558
บันเทิงต่างประเทศ : จิม สเตอร์เจส ถ่ายทอดเรื่องจริง คดีเรียกค่าไถ่เจ้าพ่อเบียร์
จิม สเตอร์เจส นักแสดงหนุ่มสุดหล่อชาวอังกฤษ ชื่อเต็มๆ ของเขา คือ "เจมส์ แอนโธนี สเตอร์เกส" ฝีมือของเขาเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะเขาเป็นทั้งนักแสดงและนักดนตรี โดยวงดนตรีของเขานั้น มีชื่อว่า “Dilated Spies’ และ ‘Saint Faith” เขาเกิดและเติบโตมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จิมแจ้งเกิด และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการแสดงนำในภาพยนตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “Across the Universe” (2007) “One Day” (2011) “ Upside Down” (2012) “Cloud Atlas” (2012) ล่าสุดกลับมาแสดงนำในภาพยนตร์อาชญากรรมชั้นเยี่ยม “Kidnapping Freddy Heineken” ซึ่งอ้างอิงจากเรื่องจริงอันฉาวโฉ่ในปี 1983 ของคดีจับตัวเรียกค่าไถ่เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการเบียร์ - อัลเฟรด “เฟรดดี้” ไฮเนเก้น เจ้าของเบียร์ไฮเนเก้นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมงานแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า
@ อะไรคือสิ่งกระตุ้นที่อยากให้คุณร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้
เพราะชื่อของผู้กำกับ ดาเนียล อัลเฟรดสัน เป็นอันดับแรกเลย แต่ก่อนหน้านั้น มันก็มีขั้นตอนเล็กน้อย คือผมได้ลองอ่านบทภาพยนตร์ แล้วก็พบว่ามันน่าสนใจทีเดียว แต่คำถามต่อมา คือเราจะดัดแปลงคดีเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์ให้ออกมาดูสนุกได้อย่างไร ซึ่งมันก็ไม่ใช่แค่เพียงหน้าที่ของทางทีมงานเพียงอย่างเดียว แต่มันรวมไปถึงตัวผม ที่รับบทแสดงนำด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นดาเนียล ก็ลองมาพูดคุยกับผม เขาพาผมไปทำความรู้จักกับ “วิลเลี่ยม บรู๊คฟิลด์” ซึ่งเป็นผู้เขียนบท จากนั้นเราก็คุยกันถึงแก่นแท้จริงๆ ของเนื้อเรื่องว่าดาเนียล และวิลเลี่ยมต้องการจะนำเสนอภาพยนตร์ออกไปในทิศทางไหน ผมเชื่อมั่นในตัวของดาเนียลเป็นอย่างมาก เหมือนเขาทำการบ้าน และทุ่มเทให้กับโปรเจกท์นี้มาพักใหญ่แล้ว ซึ่งหลังจากนั้น ผมก็ตอบตกลงเพื่อรับบทนี้ และผมก้าวเข้าสู่โลกของ อัลเฟรด “เฟรดดี้” ไฮเนเก้น (หัวเราะ)
@ ได้ร่วมงานกับ ดาเนียล อัลเฟรดสัน รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง
เขาหลงใหลเกี่ยวกับเรื่องคดีการลักพาตัว เรียกค่าไถ่ไฮเนเก้นนี้ เป็นอย่างมาก ดาเนียลถึงขั้นทำวิดีโอสั้นๆ ขึ้นมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงซีเควนส์ของฉากไล่ล่าภายในภาพยนตร์ โดยเหมือนเป็นแบบฉบับตัวอย่างว่านักแสดงจะต้องเดินไปทางไหน กล้องจะเคลื่อนที่อย่างไร จะตัดฉากเพื่อเปลี่ยนมุมภาพตรงจังหวะไหนบ้าง เป็นต้น ซึ่งมันช่วยให้ผมและทีมงานคนอื่นๆ ในกองถ่ายสามารถทำงานกันอย่างง่ายดาย และเสร็จทันตามกำหนดเวลามากขึ้น วิธีการของเขา เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและน่ายกย่องเป็นอย่างมาก เขาตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มที่ และผมก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่เขากำกับ
@ ในผลงานก่อนหน้านี้ คุณมักจะรับบทเป็นตัวละครใน “ฝ่ายดี” ตลอด แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มันแตกต่างออกไป คุณมีบทบาทในฝันบ้างหรือไม่
ผมไม่มีบทบาท หรือตัวละครในฝันนะ มันแปลกใช่ไหมล่ะ(หัวเราะ) แต่จริงๆ แล้ว ผมแค่จินตนาการไม่ออกว่า ตัวละครหรือบทบาทแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวผมมากที่สุด ดังนั้นผมจึงตัดสินใจรับบทการแสดงในภาพยนตร์ต่างๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีเจาะจงมากมาย แต่ก็ใช่ว่าผมจะรับเล่นทุกเรื่อง ที่ได้มีการยื่นเสมอมา แต่ผมจะใช้วิธีการอ่านบทภาพยนตร์อย่างละเอียดก่อน ถ้าผมลองอ่าน 2-3 รอบแล้วผมรู้สึกได้ว่ามันสนุก เร้าอารมณ์จนอยากติดตามเรื่องราวต่อ ผมจะตัดสินใจร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ แต่ถ้าคุณต้องการคำตอบว่าแล้วบทบาทไหนที่คุณอยากเล่น ผมก็คงจะตอบได้ว่าพวกตัวละครที่มีความ ‘ชั่วร้าย’ อยู่ในบทบาท เพราะผมมองว่า มันคงเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนในหลายๆ แง่มุมดี ซึ่งจริงๆ แล้วผมก็ยังไม่ค่อยได้รับบทตัวละคร ที่มีลักษณะแบบนี้เท่าไหร่นักเหมือนกัน แต่แค่ผมจินตนาการและคิดถึงมันก็ตื่นเต้นมากๆ แล้วล่ะครับ
@ เป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ คุณมีแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานอยู่มากมาย คุณได้ตามอ่านทวิตเตอร์หรือคอมเม้นต์ต่างๆ ในเฟซบุ๊กของแฟนๆ บ้างไหม
ผมอ่านนะ คือผมเป็นคนรับฟังคำวิจารณ์ต่างๆ อยู่แล้วครับ ถ้าเขาบอกมาว่าดีผมก็โอเคไปกับมัน แต่ถ้าเขาบอกว่ามันแย่ ผมจำได้ว่าตอนนั้น ผมได้อ่านคำวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่อง Cloud Atlas (2012) ซึ่งมันเสียงแตกออกมาเป็น 2 ฝ่ายเลย มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ซึ่งผมรู้สึกยินดีนะกับผลงานที่ได้รับเสียงตอบรับออกมาในทิศทางที่มีทั้งสองแบบ ผมจะได้รู้ว่าผมบกพร่องและควรจะแก้ไขตรงไหนบ้าง เพื่อที่ผมจะได้นำมันมาปรับปรุงในผลงานเรื่องต่อๆ ไปในอนาคต มันเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่อาจเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เพราะตอนถ่ายทำอยู่ คุณอาจไม่รู้หรอกว่าที่คุณแสดงไปนั้นมันดีไหมหรือมันแย่อย่างไร แต่เมื่อภาพยนตร์ได้ออกฉายสู่วงกว้าง คุณก็จะได้คำตอบในจุดนั้นครับ
ติดตามและชื่นชมผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ 16 กรกฎาคม ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น