บันเทิง

รำลึก25ปี'บุปผา สายชล'กับ5ปี'เพ็ญพักตร์ ลักขณา'

รำลึก25ปี'บุปผา สายชล'กับ5ปี'เพ็ญพักตร์ ลักขณา'

09 ก.ค. 2558

รำลึก 25 ปี'บุปผา สายชล'กับ 5 ปี 'เพ็ญพักตร์ ลักขณา' : คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว

 
 
          “ยามลมโชยมา พาใจห่วงหนัก คิดถึงรักครั้งก่อนนั้นเคยรัญจวน...” หลายคนในวัยกึ่งศตวรรษคงจำและฮัมเพลง “วอนลมฝากรัก” ได้ เพราะเป็นเพลงดังในอดีต ซึ่งทำนองมาจากเพลง “Sayonara” ในหนังอินเดียเรื่อง “ Love in Tokyo”  โดยเนื้อเพลงไทยแต่งโดย ครูสิรินทร์ ภาคสิริ ขับร้องโดย บุปผา สายชล
 
          ครู รังสี ทัศนพยัคฆ์  ได้นำเพลงนี้ ไปประกอบในหนังเรื่อง “ชาติลำชี” และให้ บุปผา สายชล ร่วมแสดงด้วย และนี่คือ ต้นธารของหนังเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” สุดยอดหนังเพลงของไทย ในเวลาต่อมา
  
          เมื่อวานนี้ 8 กรกฎาคม 2558 เป็นวันครบรอบการจากไป 25 ปี ของ นักร้องหญิงจากเมืองชลบุรีมากความสามารถนาม บุปผา สายชล เจ้าของแผ่นเสียงทองคำพระราชทานจากเพลง “ยมบาลเจ้าขา” และรางวัลพระราชทานในงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทยครั้งที่ 1 จากเพลง ”ยมบาลเจ้าขา” เมื่อปี 2532 ซึ่ง บุปผา สายชล ขึ้นร้องเพลงนี้ถวายหน้าพระที่นั่งด้วย ก่อนจะเสียชีวิตในปีต่อมา
  
          ซึ่งในงานกึ่งศตวรรษครั้งนั้น หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า บทเพลง “ส้มตำ” พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ขับร้องหน้าพระที่นั่ง บุปผาเป็นผู้ขับร้องต้นฉบับมาก่อน
  
          นอกจากการร้องเพลงที่ยอดเยี่ยมชนิดหาตัวจับยากแล้ว บุปผายังเป็นนักร้องแสดงที่ปรากฎตัวและเสียงในหนังเพลงหลายสิบเรื่อง และเคยสร้างหนังเองด้วย ในเรื่อง “ขวัญใจลูกทุ่ง” โดยเธอเป็นนางเอก และ นาท ภูวนัย เป็นพระเอก กำกับการแสดงโดย ศรีไพร ใจพระ (เก่งกาจ จงใจพระ โหราจารย์ชื่อดัง)
  
          บุปผา เป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส อารมณ์ดี เป็นกันเองกับแฟนเพลง มีเสน่ห์เฉพาะตัว ถ้าเทียบสมัยนี้ อาภาพร นครสวรรค์ จะดูคล้ายคลึงกับบุปผามาก ในเรื่องของหุ่นทรวดทรง และความสามารถในการแสดง
  
          และฮาย อาภาพร เองก็เคย ขับร้องเพลง ”รักคนแก่ดีกว่า” ที่บุปผา เคยร้องไว้ด้วย พูดถึงเพลงนี้ ครูไพบูลย์ บตรขัน แต่งให้บุปผาขับร้อง หลังจากที่เธอออกมาจากวงจุฬารัตน์ โดยเป็นเพลงแนวบลูส์ ที่ร้องยาก และไม่มีใครร้องเพลงนี้ได้อารมณ์ยียวนกวนใจเท่ากับบุปผา สายชล
  
          ข้อมูลหลายแห่งที่บันทึกเอาไว้ว่า เพลง “รักคนแก่ดีกว่า” เป็นเพลงดังสร้างชื่อให้บุปผา เป็นเพลงแรก แต่ครูสุรินทร์ ภาคสิริ ยืนยันว่า เพลง ”รักคนแก่ดีกว่า” บันทึกเสียงก่อนเพลง “วอนลมฝากรัก” แต่ยังไม่ได้ตัดแผ่นออกวางจำหน่าย ยังไม่ถึงกับโด่งดัง ครั้นเพลง ”วอนลมฝากรัก” ที่มาทีหลัง ได้รับความนิยม ก็จึงนำมารวมไว้ในแผ่นเดียวกัน สรุปได้ว่า ช่วยกันฉุดให้ดังจากทั้งสองเพลง สองแนว
  
          เพลงบุปผา ที่เรารู้จักหลังจากนั้น อาทิ “สาวนาคอยคู่” ที่ขึ้นว่า “มองเหม่อทองฟ้ายิ่งใจเศร้า บ้านนาแสนเหงา ซึมเศร้าระทม....” แต่งโดย ครู สุรินทร์ ภาคสิริ เช่นกัน โดยต้นฉบับมากจากเพลงอินเดียชื่อ Neele kagan ke tele ประกอบหนังเรื่อง HAMRAZZ หรือชื่อไทยว่า “รอยรักรอยมลทิล”
  
          ในเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” ยังมีเพลง “ นกร้องนกช้ำ” (แก้เพลง “น้ำลงนกร้อง” ) และเพลง “รูปหล่อถมไป “ที่แต่งโดยครู ไพบูลย์ บุตรขัน “น้ำตา น้ำตก” (แต่งโดย ธนันชัย โชคชัย) ล้วนเป็นเพลงไพเราะอมตะทั้งสิ้น
  
          เส้นทางชีวิตการต่อสู้ของบุปผานั้น หนักหนาสาหัส ทั้งเรื่องส่วนตัวและการงาน เหมือนดั่งพระเจ้ากลั่นแกล้ง ให้พรสวรรค์ชั้นเลิศกับเธอแล้ว ยังให้วิบากกรรมที่เธอต้องตามแก้อย่างไม่หยุดหย่อน ในปี 2524 บุปผาได้พยายามกลับเข้าสู่วงการลูกทุ่งอีกครั้ง โดยการสนับสนุนของ สุชาติ เทียนทอง ในชุด “เมาลูกเดียว”
  
          “คันทรี่แมน” แห่งบล็อกโอเคเนชั่น บันทึกเอาไว้ว่า “กลางปี 2525 บุปผา สายชล ให้สัมภาษณ์ ราชาเสียงทองว่า ท้อ-เหนื่อย เคยไปบวชชีที่ระยอง ทำร้านอาหารที่จันทบุรีก็เจ๊ง จะกลับมาร้องเพลงก็โดนอดีตคนใกล้ชิดกีดกัน กลัดกลุ้มหนักเข้า ชีวิตของนักร้องสาว ก็เลย “เมาลูกเดียว”
  
          บุปผา สายชล จากโลกนี้ไปด้วยวัยแค่ 43 ปี เมื่อ 8 กรกฎาคม 2533 จากอาการเส้นโลหิตในสมองแตก เนื่องจากโรคความดันโลหิตสูง ที่โรงพยาบาลเอกชล จ.ชลบุรี โดยเธอเสียชีวิตในปีเดียวกับแม่ของเธอ
  
          คนที่มาสืบทอดงานเพลงของบุปผา มีสองคนเท่าที่เห็นเป็นเรื่องเป็นราว คือ กบ ศจี สายชล หลานสาวของบุปผา เคยมีเพลงฮิตแนวลูกทุ่งกึ่งๆ สตริง ชื่อ “พระจันทร์หัวเราะ”  งานที่เธอทำชุดหนึ่ง ชื่อชุด “มรดกป้า” นำเพลงของบุปผามาขับร้องได้อย่างน่าชื่นชม หลังจากนั้นเธอไปห่างหายไปมีครอบครัว และทำธุรกิจส่วนตัว ล่าสุด กลับมาทำเพลงชุด “น้ำตาบูด” ในแนวร่วมสมัย
  
          อีกคน คือ ทายาทแท้ ของบุปผา คือ สุรชัย สายชล บุตรชายที่เกิดจากคู่ชีวิตที่เป็นอดีตพระเอกหนัง สิงหา สุริยงค์  มีผลงานเพลงลูกทุ่งตามรอยผู้เป็นแม่ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันประกอบอาชีพส่วนตัว
  
          และในเดือนนี้เช่นกัน นักร้องหนึ่งในศิษย์วงดนตรี สุรพล สมบัติเจริญ ชื่อ เพ็ญพักตร์ ลักขณา ที่เข้าสู่วงการเพลงเพราะบุปผา สายชล ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งต่อมนํ้าเหลือง เมื่อวันที่ 21 กรกฏา 2554 ห้าปีที่ผ่านมา
  
          บุปผาเป็นผู้แนะนำเพ็ญพักตร์ให้รู้จักกับเตือนใจ บุญพระรักษา ซึ่งขณะนั้นอยู่กับวงดนตรี "ชุมนุมศิลปิน" ของ จำรัส วิภาตวัธ เพ็ญพักตร์ได้เดินสายกับวงดนตรีเพลิน พรหมแดน โดยใช้ชื่อในการร้องหน้าเวทีว่า “วิภา” อยู่กับวงดนตรีเพลิน พรหมแดน ได้ 2-3 เดือน พอดีวงดนตรีสุรพล สมบัติเจริญ ต้องการนักร้อง จึงลาออกไปสมัครและได้เป็นนักร้องในวงสุรพล เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2510 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2511 ได้บันทึกเสียง 2 เพลง คือ “ของแท้ย่ะ” (แก้กับเพลง “ของปลอม” ครูสุรพล สมบัติเจริญ กับเพลง “บ้าชัดๆ” (แก้กับเพลง “มาช่วยกันผลาญ”)
 
          แม้ศิลปินทั้งสองจะจากวงการไปนานแล้ว แต่บทเพลงยังคงเป็นอมตะก้องกังวานอยู่ในใจแฟนเพลงจนถึงทุกวันนี้
 
.......................................
(หมายเหตุ รำลึก 25 ปี'บุปผา สายชล'กับ 5 ปี 'เพ็ญพักตร์ ลักขณา'  : คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว)