19ปี‘จอมขวัญ กัลยา’ลงขันทำ19เพลงทอง

 

          นักร้องสาวเมืองชาละวัน จอมขวัญ กัลยา รวมเพลงดีและเพลงรางวัล 19 เพลง รวมเพลงจากสามศิลปินแห่งชาติ หันร้องเพลงแนวสนุกเพื่องานโชว์ตัว พร้อมเสริมงานทำขวัญนาคทีมใหญ่ ไม่หวั่นเพลงชนกับค่ายดัง

 

          "หนิง" จอมขวัญ กัลยา นักร้องสาวที่เป็นที่รักใคร่ของแฟนเพลงและคนในวงการ กล่าวถึงงานเพลงล่าสุด ที่เพิ่งถ่ายมิวสิกวิดีโอไปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาว่า

 

          “นับไปนับมา หนิงเข้าวงการมาที่เป็นเรื่องเป็นราวก็ปี 2547 ผ่านไปจะ 19 ปีแล้ว  ปีนี้เลยตั้งใจทำเพลง 19 เพลง ในชุดเดียว ซึ่งเคยประกาศไว้ จะทำ 19 เพลง เพราะจะเอาเลข 9 ไว้ท้าย เป็นเลขมงคล ถือว่าเป็น 19 ปีทองของจอมขวัญ กัลยา ซึ่งจะรวมเพลงดีๆ และเพลงอมตะดังๆ ไว้แบบหลายรสชาติค่ะ  มีเพลง “ฟ้าห่มดิน” ที่ครูชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติ ท่านประพันธ์ไว้ หนิงเพิ่งได้ไปขับร้องในงานคอนเสิร์ต 78 ตำนานแห่งสายน้ำ ครูชลธี ธารทอง ที่ผ่านมาค่ะ ซึ่งของครูชลธีมีเพลง "น้ำตาชาวนา” อีกเพลงหนึ่งด้วย และชุดนี้ก็จะมีเพลง “มนต์รักลูกทุ่ง” ที่อยู่ในชุด “เพลงหวานสองสไตล์” นำมารวมอยู่ด้วย ซึ่งจะเป็นเพลงช้าไม่กี่เพลง นอกนั้นจะเป็นเพลงเร็วๆ ค่ะ ใช้ชื่อชุดว่า “จอมขวัญสามช่าเงินล้าน” ซึ่งจะมีเพลงอมตะสนุกๆ เช่น “ชมทุ่ง” ของครูเพลิน พรหมแดน ศิลปินแห่งชาติ  “อีสาวทรานซิสเตอร์” ของครูชลธี และ เพลง “มาลัยน้ำใจ” “ทุกข์ร้อยแปด” “พระรถเมรี” และเพลง “เอ๊ะ แปลกแฮะ” ของครูชาย เมืองสิงห์ ศิลปินแห่งชาติอีกท่านหนึ่ง แม้จะชื่อชุด สามช่าเงินล้าน แต่เราก็เอาเพลงช้ามาให้พักหูกันจากการเต้นกันด้วยค่ะ”

 

          ในส่วนของเพลงครูชาย เมืองสิงห์ ซึ่งบางเพลงซ้ำกัน งานชุด "เดอะ แมน ซิตี้ ไลอ้อน โปรเจกท์” ของค่ายอาร์สยาม ด้วย จอมขวัญ กล่าวถึง กรณีนี้ว่า

 

          “เพลงของครูชายที่หนิงร้องจะเป็นแบบแนวลูกทุ่ง แต่คนรุ่นเก่าๆ ก็อาจจะมาฟังแบบจอมขวัญ ถ้าคนรุ่นใหม่ๆ เขาชอบในแนวใหม่ก็ฟังที่ค่ายอาร์สยามเขาทำเป็นแนวทันสมัย ประยุกต์ ซึ่งเท่ากับว่า เพลงดีๆ เหล่านี้ก็จะมีแฟนเพลงทั้งกลุ่มใหม่กลุ่มเก่า ซึ่งทำให้เพลงไม่ถูกลืมเลือน หนิงว่าเป็นสิ่งที่ดีทุกฝ่ายค่ะ”

 

          นักร้องสาวเจ้าของรางวัล “มาลัยทอง” ดาวรุ่งดวงใหม่ ปี 2544 จากเพลง “สัญญากับใจ” และรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม ปี 2549 จากเพลง “ข้าวคำสุดท้าย” กล่าวถึงการนำเพลงเก่ามาขับร้องว่า มีอุปสรรคเรื่องลิขสิทธิ์บ้างเช่นกัน

 

          “ด้วยสถานะของเรา ต้องยอมรับตรงๆ ว่า เพลงใหม่ต้องปั้นเพลงให้ติดหูก่อน ถึงจะขายได้ ถึงจะนำไปร้องหน้างาน ให้คนซื้อแผ่นซีดี ถ้าเพลงไม่ดังคนก็ยังไม่ซื้อ แต่ถ้าเป็นเพลงอมตะก็จะทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น จริงๆ แล้ว ต่อไปนี้ในวงการเขาบอกว่า เราควรต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง เพราะการนำเพลงเก่าอาจจะมีเรื่องลิขสิทธิ์ที่ซ้ำซ้อนสำหรับบางเพลง  จอมขวัญก็ไม่ได้ทิ้งเพลงใหม่ แต่ต้องคัดกันเต็มที่ และพยายามซื้อขาดมาเป็นสิทธิ์ของเรา เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง “สาวบางโพ” ที่อาหมู คันไถ แต่งให้ มยุรา ฟ้าสีทอง เขาร้อง สามช่าชุมชน ดูมาดู เพลงใหม่ครูธนัญชัย ศรีเหรา เพลงใหม่อยู่ในชุด ชวนกัน ไม่รักไม่รับ เพลงใหม่หมู คันไถ เพลงเป็นเร็วๆ”

 

          นักร้องสาวรางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทาน ปี 2553 จากเพลง “สาวนายังคอย” กล่าวถึงเพลงที่ประสบความสำเร็จของตนเองว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงช้า แต่ชุดนี้หันมาร้องเพลงเร็วๆ สลับบ้าง

 

          “หน้าเวที เราต้องมีทั้งหวานและโจ๊ะ ถ้าหวานเสียหมดคนดูจะง่วง ก็เลยนำเพลงสนุกๆ มาให้เต้นมาโยกกันบ้าง ตอนแรกจะทำรำวงชาวบ้าน แต่รำวงเขาก็มีกันหลายคณะแล้ว จริงๆ แล้วเพลงชุดนี้ของจอมขวัญมันก็รำวงได้เหมือนกัน อยากเต้นก็เต้นได้ ไม่ต้องขายบัตรเสียตั๋ว”

 

          นักร้องสาวจากเมืองชาละวัน กล่าวทิ้งท้ายถึงแฟนๆ ว่า ไม่ได้หายหน้าไปไหน และมีอาชีพเสริม คือ ทำขวัญนาค ด้วย

 

          “บางช่วงที่เงียบๆ ไป เรากำลังดูตลาดเพลงด้วย ก็คิดจะทำเพลงซิงเกิ้ลเป็นเพลงใหม่ๆ เหมือนกัน แต่กว่าเพลงจะติดมันนาน เพราะยังใช้ระบบขายแผ่นซีดีหน้าเวทีด้วย งานชุดนี้ทำให้คนเห็นว่า จอมขวัญยังมีความเคลื่อนไหวบ้าง ไม่ได้หายไปไหน ถ้าไม่เพลงออกมาคนจะลืม เราทำเอง ลงทุนเอง เก็บหอมรอมริบเงินทอง ทำทีละเพลงสองเพลง นักดนตรี รวมสุดยอดยอดเลย มีทั้ง คุณ "หมู" กิตติศักดิ์ สายน้ำทิพย์ "ตี๋" นฤพน พานทอง และ พี่อ้วน นครชัยศรี เราทำทั้งทีก็ทำให้ดี ไม่สุกเอาเผากิน เพลงไหนไม่ดี มิกซ์เสียงใหม่ และการขายแผ่น เราจะขายซีดีอย่างเดียวไม่ได้ ปรึกษากันแล้วว่า จะให้ 2 แผ่นเลย คือ 19 เพลงที่เป็นเสียง กับอีก 19 เพลงที่เป็นวิดีโอคาราโอเกะ ขายในราคาร้อยเดียว แต่ไม่ได้วางตลาดทั่วไป เพราะเราไม่เป็นเรื่องการตลาด เจอกันหน้างานก็ซื้อได้เลย แฟนๆ โทรสั่งซื้อ หรือติดต่องานได้ที่ 08-1929-3225 และจอมขวัญยังรับขวัญนาค ครบเครื่อง มีปี่พาทย์ หมอขวัญชาย เจ้าภาพเตรียมบายศรีไว้ต้นเดียวเป็นพอค่ะ”