‘จา พนม’ยันไม่คุย‘เสี่ยเจียง’เรื่องหนัง | คมชัดลึก

             8เม.ย.2558 หลังจากบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้การบริหาร ของนายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ "เสี่ยเจียง" ยื่นฟ้องนายทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จา พนม และที่ทั่วโลกรู้จักในนาม โทนี่ จา ยอดนักบู๊ชื่อดังของประเทศไทย บริษัท ยูพีไอ (ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์) และบริษัทยูนิเวอร์แซล ฐานละเมิดสัญญา ซึ่งส่งผลให้ศาลมีคำสั่งคำคุ้มครองชั่วคราว ให้ระงับการเข้าฉายของภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 7 ที่นายพนมเป็นหนึ่งในนักแสดง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จากแฟนภาพยนตร์ชาวไทย ที่เฝ้ารอชมภาพยนตร์เรื่องนี้

             จนภายหลังศาลแพ่ง รัชดาภิเษก ด้มีการพิจารณาคำขอถอนระงับฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 7 จากทางฝั่งค่ายจำเลยอย่าง ยูพีไอ ทำให้แฟนภาพยนตร์ชาวไทยได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เรื่องราวทั้งหมด ยังไม่เคยได้รับคำตอบจากนายทัชชกร ยังไม่เคยออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าจะมีบทสรุปอย่างไร และจะมีการเข้าไปเผชิญหน้ากับทางสหมงคลฟิล์มหรือไม่

             ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสพบตัวนายทัชชกร ในงาน "มวยไทย ไลฟ์ อวอร์ด" ที่นายทัชชกรเข้ารับรางวัลเกียรติยศที่โรงละคร เดอะสเสจ ณ เอเชียทีค พร้อมกันนี้นายทัชชกรยังไม่พา น.ส.ปิยรัตน์ โชติวัฒนานนท์หรือ "บุ้งกี้" ภรรยา พร้อม ด.ญ. หทัยปวีต์ ยีรัมย์ หรือ จอมขวัญ บุตรสาว มาด้วย  

             นายทัชชกร กล่าวว่า ดีใจและภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเป็นรางวัลที่ทำให้ตนมีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป รวมถึงอยากมอบรางวัลนี้ให้กับพ่อเพราะเป็นคนสวยมวยไทยให้ตนเป็นคนแรก"   

             ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสภาพยนตร์ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ จา กล่าวว่า ที่ต่างประเทศทุกคนให้การต้อนรับอย่างดีและให้เกียรติ เปรียบเสมือนเขาต้อนรับมวยไทย ตอนนี้ไปไหนมาไหนมีชาวต่างชาติเข้ามาทักและสวัสดี รวมถึงทีมงานจากภาพยนตร์เรื่องนี้อยากใช้สไตล์การบู๊แบบมวยไทย เช่น วิน ดีเซล สนใจที่จะเรียนมวยไทย อยากมีท่าใหม่ๆ ที่ตนใช้ในภาพยนตร์ซึ่งเขาอยากทำตาม ส่วนในประเทศไทยก็ทราบว่ากระแสดีเช่นกัน คนมาดูหนังกันเยอะมาก

             อีกทั้งยีงมีประเด็นที่ก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ Fast & Furious 7 ถูกศาลสั่งให้ระงับฉายชั่วคราวนั้นทราบบ้างหรือไม่ นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า "พอทราบเรื่อง ถามว่าตกใจมั้ย ในฐานะที่เป็นคนไทยตนอยากนำเสนอฝีมือของคนไทย ตอนได้ยินข่าวยอมรับว่าตกใจ ส่วนว่าได้เข้าไปพูดคุยกับทางสหมงคลฟิล์มหรือยัง ตนไม่ขอพูดถึงเพราะในวันนี้มารับรางวัลจึงขอพูดแต่สิ่งดีๆ ไม่อยากพูดอะไรที่พาดพิงใคร 

             ส่วนคำถามว่าจะเข้าไปคุยกับเสี่ยเจียงหรือไม่ จา กล่าวว่า คงไม่คุย คงให้ทนายเป็นคนคุย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตนไปเปิดบทบาที่ฮอลลีวู้ดแล้ว เรื่องต่อไปก็อยากให้สนับสนุน อยากให้ร่วมมือร่วมใจกัน 

             เมื่อถามว่าตั้งใจจะเข้าไปเคลียร์ปัญหากับทางสหมงคลฟิล์มเมื่อใด  จา กล่าวว่า คิดว่าตอนนี้ทุกฝ่ายก็ทำหน้าที่กันอยู่ ส่วนตนก็ทำหน้าที่ทำภาพยนตร์ นำมวยไทยไปเผยแพร่ทั่วโลก    

             เมื่อถามว่าต่อทำไมถึงไม่อยากเข้าไปเคลียร์ปัญหา พระเอกนักบู๊ชื่อดังเผยว่า "มันมีระบบขั้นตอนของมัน ตนก็ทำหน้าที่ของตน และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย อยากให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวในทางบวก กับข่าวที่ถามว่ากลัวเกิดกรณีเดียวกันนี้กับหนัง สกิน เทรด และ เอสพีเแอล 2 หรือไม่ผมขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด  ตรงนี้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่และทางด้านฝ่ายกฎหมาย ส่วนตนขอโฟกัสการทำหน้าที่ของตน และกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนวันที่ 23 เม.ย.นี้จะมีกำหนดฉายเรื่อง สกิน เทรด ซึ่งยังไม่มีปัญหาอะไร ส่วนตนโฟกัสที่การทำหน้าที่ของตัวเอง"

             ท้ายสุดมีการถามเรื่องเงิน 26 ล้านบาทที่ขอกับทางสหมงคลฟิล์มไปสร้างหนัง ไอ้หนุ่มกังนัม แต่ไม่มีความคืบหน้า เรื่องนี้นักแสดงไม่ขอตอบพร้อมกับถูกบอดี้การ์ดดึงตัวออกไป