
เคท บลังเช็ตต์กับบทแม่เลี้ยงที่มีมิติ
08 มี.ค. 2558
บันเทิงต่างประเทศ : เคท บลังเช็ตต์ กับบทแม่เลี้ยงที่มีมิติ
เมื่อนวนิยายคลาสสิกเรื่องดัง อย่าง “Cinderella” ถูกนำมาทำใหม่ ในรูปแบบภาพยนตร์ ผลงานการกำกับของ เคนเนธ บรานาห์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด และได้นักแสดงในซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง “Downton Abbey” อย่าง ลิลลี เจมส์ และโซฟี แม็คเชรา มารับบทเป็นซินเดอเรลลา และเจ้าชาย ส่วนบทแม่เลี้ยงใจร้ายนั้นได้ เคท บลังเช็ตต์ นักแสดงมากฝีมือ ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด หกครั้ง สี่ครั้งจากการรับบทคนที่มีชีวิตอยู่จริง ซึ่งเธอได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจว่า
@ อะไรที่ทำให้คุณสนใจโปรเจกท์นี้
ฉันชื่นชอบเทพนิยายมาก โดยเฉพาะซินเดอเรลลา เพราะมันเกี่ยวกับประเด็นที่ซับซ้อน สำหรับเด็กๆ มีเรื่องราวมากมายในตอนนี้ ที่เล่าให้เด็กๆ ฟัง แล้วทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นฮีโร่ที่สามารถเอาชนะทุกอย่างได้ และโลกใบนี้เป็นสถานที่ที่เพอร์เฟกท์ เทพนิยายอมตะอย่าง “cinderella” บอกเราว่าโลกอาจเป็นสถานที่ที่เลวร้าย และจำเป็นต้องอาศัยความกล้าหาญและความอดทนเพื่อจะอยู่รอด นี่เป็นเรื่องราวที่ความเมตตาเป็นพลังพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่เคน บรานาห์และฉันคุยกันตั้งแต่เริ่มแรก และฉันพบว่า มันเป็นเรื่องตื่นเต้นจริงๆ แล้วฉันเองก็มีลูกสามคนด้วย ฉันก็เลยตระหนักดีถึงหนังทุกเรื่อง ที่มีตัวเอกเป็นซูเปอร์ฮีโร่ผู้ชาย ฉันก็เลยตื่นเต้นมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องราวที่มีตัวเอกเป็นผู้หญิง
@ การรับบทเป็นตัวร้ายอย่างแม่เลี้ยงเป็นยังไงบ้าง
ฉันชอบบทนี้นะ ซึ่ง เคน บรานาห์ (ผู้กำกับ) ก็ตัดสินใจตั้งแต่แรกๆ แล้วว่า จะไม่ทำอะไรสุดโต่งเกินไป เหมือนอย่างที่คุณทำได้ในเทพนิยาย แต่เขาเลือกที่จะดึงเอาแก่นแท้ของตัวละครออกมาแทน ดังนั้น มันก็เลยเป็นเรื่องของการรักษาสมดุล ไม่มีใครชั่วร้ายไปซะทั้งหมด ทุกคนต่างมีแรงจูงใจทั้งนั้น ตัวละครแม่เลี้ยง คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อความดีถูกบิดเบี้ยว มันก็มักจะกลายเป็นความชั่วร้าย ฉันสนใจในการสำรวจ สิ่งที่ทำให้คนเราชั่วร้าย รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในหนังจะทำให้คุณได้สัมผัสว่า นี่เป็นผู้หญิงที่พยายามจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเธอก็อิจฉาความรักลึกซึ้ง ที่สามีใหม่มีต่อ ซินเดอเรลลา ลูกสาวคนใหม่ของเธอ เธอไม่ได้สวย ใจดีและมีเมตตาเหมือนซินเดอเรลลา ตอนที่พ่อของซินเดอเรลลาตาย ความกดดันทางด้านการเงิน ความตื่นตระหนกและความอิจฉาก็ทวีความรุนแรงขึ้น นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอชั่วร้าย
@ การแสดงของ ลิลลี เจมส์ ในบทซินเดอเรลลาเป็นอย่างไรบ้าง
ลิลลีเป็นจิตวิญญาณแห่งความรื่นเริง เธอเปล่งประกาย และฉันคิดว่าเธอเพอร์เฟกท์ สำหรับบทนี้จริงๆ เธอเป็นเหมือนสายลมบริสุทธิ์ ที่ไม่แปดเปื้อนอะไรเลย ในฐานะนักแสดง เธอมีความเอื้อเฟื้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากและต้องอาศัยวินัย สมาธิและความคิดอ่านที่ลึกซึ้งอย่างเหลือเชื่อ
@ การร่วมงานกับฮอลิเดย์ เกรนเจอร์ ในบทอนาสตาเซีย และโซฟี มาร์โซ ในบทดริสเซลลาเป็นยังไงบ้าง
โซฟีมีจังหวะในการแสดงตลกที่วิเศษสุด และทั้งเธอและฮอลิเดย์ก็เก่งมากๆ พวกเธอก็เลยสามารถสวมบทบาทเป็นพี่น้องกันได้อย่างแนบเนียนจริงๆ คุณจะเชื่อจริงๆ ว่าพวกเธอรู้สึกว่าตัวเองฉลาดที่สุด และสวยที่สุด แต่พวกเธอก็ไม่ได้เล่นแบบสุดโต่งเกินไปไม่ว่าพวกเธอจะแต่งตัวยังไงก็ตาม เพราะพวกเธอเก็บอาการได้ค่ะ พวกเธอเยี่ยมจริงๆ พวกเธอพบสมดุลในทันที และพวกเธอก็ทั้งน่ารักและตลกมากๆ ด้วยค่ะ
@ เคนเนธ บรานาห์ล่ะ แบ็กกราวน์ด้านการแสดงของเขามีผลอะไรต่อสไตล์การกำกับของเขาบ้าง
เคนสามารถสร้างโทนของหนังเรื่องนี้ ที่ทั้งอ่อนหวาน น่ารัก แต่ก็น่าสะพรึงกลัวได้ด้วย เขาสามารถรับมือกับช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัว และช่วงเวลายิ่งใหญ่ระหว่างตัวละครได้ เขามีเซนส์ด้านจังหวะที่วิเศษสุดในฐานะผู้กำกับ เราก็เลยรู้ว่าเราสบายใจได้แน่นอน ด้วยความที่เขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ เขาก็เลยชำนาญในการใช้เวลาซ้อมในช่วงเช้า เขาสามารถเข้าถึงกระบวนการของทุกคนได้และทำให้มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการทำงานที่ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างแท้จริง
@ คุณหวังอะไรจากผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้
ฉันคิดว่าเราเคยชินกับการได้เห็นเทพนิยายถูกบอกเล่าออกมาในรูปแบบแอนิเมชั่น แต่พอคุณได้เห็นซินเดอเรลล่า ที่มีเลือดเนื้อจริงๆ คุณจะถูกนำกลับมาสู่ความเป็นมนุษย์ และฉันคิดว่าผู้ชมจะเอาใจช่วยเธอ เราต่างก็รู้จักเรื่องราวของซินเดอเรลลาดี และการแสดงที่ดีที่สุดจะทำให้เราคิดว่าบางทีครั้งนี้เขาอาจจะฆ่าคลอดิอุสก็ได้ และกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้ชมจะรู้สึกแบบเดียวกัน และจะประหลาดใจกับหลายๆ ฉาก เพราะมันสมจริงเหลือเกิน ดังนั้น มันก็เลยมีเรื่องที่ตลกและเศร้าจริงๆ ด้วยเหมือนกัน ผู้ชมจะรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งได้รับฟังเรื่องราวของ “cinderella” เป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน