‘มาดอนนา’จวกฝรั่งเศส-ยุโรป เหมือนนาซีเยอรมัน | คมชัดลึก

 

          เป็นนักร้องสาวที่นอกจากจะกล้าเรื่องการแหวกกฎต่างๆ ในการแสดงจนสร้างชื่อเสียงโด่งดังแล้ว เจ้าแม่เพลงป๊อป มาดอนนา ยังมีความกล้าเรื่องปากคอเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Europe 1 Radio เปรียบเทียบฝรั่งเศสกับยุโรปว่าเป็นเหมือนนาซีเยอรมัน จนสร้างความฮือฮาไปทั่ว

 

          เจ้าแม่เพลงป๊อปวัย 56 ปี ที่กำลังตระเวนออกแสดงและให้สัมภาษณ์เพื่อโปรโมทอัลบั้ม Rebel Heart ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุดังของยุโรป และถูกถามเกี่ยวกับความเป็นมาของเพลง Ghosttown ที่เธอครวญเกี่ยวกับวันแห่งความมืดมนที่ทุกอย่างแตกสลาย

 

          “Ghosttown เป็นเหมือนกับเป็นลางบอกเหตุในความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เป็นเพียงคู่รักเพียงคู่เดียวที่มีชีวิตรอดหลังวันล้างโลก ฉันรู้สึกว่า มันเป็นเหมือนทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป หากเรายังคงทำตัวเหมือนกับที่เรายังทำทุกวันนี้ ในแบบที่เราปฏิบัติต่อคนอื่น โดยยังคงไร้ความอดทน และอคติลำเอียง มีแต่ความเกลียดชังต่อเพื่อนมนุษย์ที่แตกต่างจากตัวคุณ”

 

          “ฝรั่งเศสเคยเป็นประเทศที่ยอมรับผู้คนไม่ว่าจะสีผิวอะไร เป็นประเทศที่ศิลปินมักจะไปแสวงหาพื้นที่ทำงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น โจเซฟีน เบเกอร์ หรือ ชาร์ลี ปาร์กเกอร์ หรือนักเขียน นักวาดภาพ หรือใครก็ตาม มันเคยเป็นประเทศที่ยอมรับทุกคน และสนับสนุนเสรีภาพให้เกิดขึ้นในทุกๆ ด้าน ทั้งเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพทางศิลปะ”

 

          “ตอนนี้ มันหายไปหมดแล้ว ฉันเคยพูดไว้เมื่อ 2 ปีก่อนว่า เราอยู่ในช่วงเวลาที่บ้าคลั่ง เหมือนกับ แบบ นาซีเยอรมัน คนเหล่านี้ ไม่มีความอดทนอดกลั้น ความใจแคบมีมากขึ้นจนน่ากลัว ไม่ได้เพียงแค่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสเท่านั้น แต่การกลัวชาวอาหรับ มันสูงขึ้นมาก มากที่สุดที่เคยเกิดขึ้น ผู้คนกำลังทำตัว และแสดงออกเรื่องนี้ด้วยความหวาดกลัว”? มาดอนนากล่าวโดยอ้างอิงถึงเหตุการณ์กลุ่มมือปืนชาวมุสลิมบุกเข้าไปโจมตีสำนักงานหนังสือ Charlie Hebdo เมื่อเดือนที่แล้ว จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน รวมทั้งบก.ด้วย

 

          ก่อนหน้านี้ มาดอนนา เพิ่งจะถูกวิจารณ์เรื่องใช้ภาพของบุคคลสำคัญต่างๆ ในโลกหลายคนมาโปรโมทด้วยการใช้ลวดหนามรัดหน้าของบุคคลเหล่านี้ เช่น เนลสัน แมนเดลา บ็อบ มาร์เลย์ และ มาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนียร์ จนทำให้คนมองว่าเธอเหยียดผิว แต่เธอปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่า เธอหมายถึงทุกคนที่มีจิตใจกบฏต่อยุคสมัยที่เขาอยู่และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น