
เต้ยชวนวาววาทำขนมเสน่ห์จันทร์
01 มี.ค. 2558
พักยก : เต้ย ชวน วาววา เติมหวาน ผสมผสานทำ ขนมเสน่ห์จันทร์ : เรื่อง เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล /ภาพ วริศรา วุฒิกุล
กำลัง "รบ" และ "รัก" กันอย่างเข้มข้น สำหรับละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง "บางระจัน" ของค่าย "บรอดคาซท์" สัปดาห์นี้ "พักยก คมชัดลึก" ขอพา "คู่จิ้น" แห่งค่ายระจัน "เต้ย" พงศกร เมตตาริกานนท์ และ "วาววา" ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด มาทำกิจกรรมเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังพลังแห่ง "เสน่ห์"
จุดนัดพบ คือบ้านทรงไทยประยุกต์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ ภายในซอยสุขุมวิท 101/1 หรือ ชอยวัดวชิรธรรมสาธิต เรือนไทยที่ภายนอกล้อมรอบด้วยอาคารตึกตามสมัยนิยม ดูเด่นสะดุดตา ป้ายขนาดย่อมหน้าบ้าน กำลังบอกให้รู้ว่าสถานที่แห่งนี้คือ "โครงการอนุรักษ์ขนมไทย"
สาวผมยาวหน้าหวานสวมชุดเดรสกางเกงสีน้ำเงินเข้มสดใส เดินเข้ามาภายในบ้าน วาววายกมือไหว้สวัสดีทีมงาน โดยมี "ครูแพง" วิรุฬห์ นวทิศพาณิชย์ ช่างขนมไทยเจ้าของสถานที่ ออกมาต้อนรับนางเอกสาว จากนั้นไม่นานหนุ่มหน้าไทย เซตผมมาเนี้ยบ สวมเสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดหมู รับกับกางเกงยีนพอดีตัวก็มาถึง เต้ยส่งยิ้มฟันขาวมาแต่ไกล พร้อมกล่าวสวัสดีทักทายทีมงานทุกคน
ก่อนจะเริ่มต้นทำกิจกรรมสุดพิเศษ สองหนุ่มสาวเดินขึ้นมาบนชั้นสองของบ้านทรงไทยประยุกต์ มองไปจะเห็นโต๊ะยาวสีขาว คาดผ้าแถบลายไทยตั้งอยู่กลางห้องโถงขนาดใหญ่ บนโต๊ะมีการจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำ "ขนมเสน่ห์จันทร์" ของไทยโบราณที่นิยมใช้ใส่พานเป็นขนมแต่งงาน ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้
แป้งสีเหลืองทองในชามกระเบื้องสีขาว ที่ผสมเสร็จสำหรับปั้นเป็นก้อนขนมเสน่ห์จันทร์ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเทียนอบโชยมา ชวนให้น่ารับประทาน หนุ่มหน้าไทยกับสาวหน้าหวานนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ กัน ก่อนที่เต้ยจะเป็นคนลงมือตักแป้งขนมเสน่ห์จันทร์ ขึ้นมาปั้นตามคำสอนของครูแพง ที่ยืนอธิบายกรรมวิธีการทำให้ลูกศิษย์ฟังอยู่ไม่ห่าง "วันนี้ขนมจะเค็มหรือเปล่าไม่รู้นะ" เต้ยพูดพร้อมเสียงหัวเราะ ก่อนจะใช้มือปั้นขนมต่อไป วาววาชิงพูดแซวว่า "เค็มแน่ๆ ถ้าเต้ยจะปั้นนานขนาดนั้น"
สาวหน้าหวานลองทำดูบ้าง เธอตักแป้งขึ้นมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ค่อยๆ ทำอย่างนิ่มนวล และเบามือ เต้ยที่นั่งอยู่ข้างๆ แอบมองเป็นระยะ "ดูเป็นหญิงไทยมากเลยนะ" เต้ยพูดก่อนจะหยิบแป้งขนมเสน่ห์จันทร์ในชามมาใส่ปากชิมดู "หือ..อร่อยอ่ะ" วาววากำลังมีสมาธิกับการคลึงก้อนแป้งมาก เลยไม่มีเวลาตอบโต้อะไร ได้แต่หันไปยิ้มให้เต้ยเป็นคำตอบ
แป้งขนมสีเหลือทองถูกปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ วางเรียงอยู่ในถาดขนาดย่อม ก่อนที่ครูแพงจะสอนต่อว่า ต้องใช้นิ้วก้อยกดตรงกลางแป้งที่ปั้นเสร็จแล้วให้ยุบลงไป ก้อนขนมจะเปลี่ยนจากรูปทรงกลมกลายเป็นวงรี วาววาทำตามอย่างตั้งใจ ขณะที่เต้ยนั่งมองสาว เอ้ย! นั่งมองขนม
"อร่อยใช่ปะ" วาวา ถามเต้ยหลังจากหยิบก้อนแป้ง ที่ปั้นเสร็จแล้วป้อนใส่ปาก หนุ่มหน้าไทยพยักหน้ารับ พร้อมทำหน้าทะเล้น จนขนมจะหลุดออกจากปาก ทำให้วาววาหลุดขำ แหม...หล่อแล้วยังตลกอีกนะพ่อคู้ณณณ.. ตลกจีบสาวอ๊ะเปล่า คริ คริ
จากนั้นมาถึงขั้นตอนแต่งหน้าขนมเสน่ห์จันทร์ให้สวยงาม โดยการทำ "ขั้วผลจันทร์" (จุก) ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ถูกทำให้เป็นแป้งแผ่นบางๆ สีม่วงเข้ม มีตัวปั๊มรูปดาว เป็นอุปกรณ์สำหรับกดลงไปบนแป้งแผ่นบาง เพื่อให้ได้ขั้วขนมสวยงาม
สาวหน้าหวานเป็นคนลงมือทำขั้นตอนนี้ โดยมีหนุ่มหน้าไทยเป็นลูกมือ เมื่อปั๊มขั้วผลจันทร์รูปดาวออกมาเรียบร้อย วาววาบรรจงติดขั้วผลจันทร์ลงไปบนแป้งขนมเสน่ห์จันทร์รูปวงรีที่ทำเสร็จ พร้อมเอาเหล็กมากดตรงกลางขั้วผลจันทร์ ให้ขั้วติดกับตัวแป้งขนมเสน่ห์จันทร์ เรียกว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำขนม ที่เสร็จสมบูรณ์ "สวยมาก ไม่ใช่สวยอย่างเดียวนะ อร่อยด้วย แป้งขนมไม่หวานมาก ทานแล้วไม่เลี่ยนและมีกลิ่นหอม" เต้ย บอก
สองหนุ่มสาวพากันเดินชมบริเวณโดยรอบของห้องเรียนทำขนมแห่งนี้ มีอุปกรณ์เครื่องครัวสมัยโบราณวางเต็มไปหมด คู่จิ้นหน้าไทยหยอกล้อเล่นกันด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่รอบห้องเรียน ทั้งพัดและหาบ หรือแม้แต่เตาขนมครกโบราณ เรียกเสียงหัวเราะสร้างความสนุกสนาน กลมกลืนกับบรรยากาศที่ทำให้หวนรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต ได้อย่างมีมนต์เสน่ห์อันน่าประหลาด
หมดเวลาของกิจกรรมหวานละมุนละไม "วันนี้ผมดีใจมากนะที่ได้มาทำกิจกรรมนี้ เข้ากับธีมละครมากเลย อยากจะฝากบอกว่า บางระจัน ใกล้จะจบแล้ว ผมเชื่อว่า คนที่ดูจะได้อะไรมากกว่าที่คิดแน่นอน ได้เห็นในสิ่งที่บรรพบุรุษคนไทย เสียสละชีวิต และเลือดเนื้อเพื่อรักษาแผ่นดินเอาไว้" เต้ย กล่าวเอาไว้อย่างน่าคิด
ก่อนที่วาววาจะเสริมต่อว่า "บางระจัน เวอร์ชั่นนี้ตั้งใจจะสื่อว่า ชาวบ้านไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน แต่พอถึงเวลา ทุกคนจะรู้เองโดยสัญชาตญาณ เราควรจะรู้หน้าที่ของตัวเอง และต้องรักเมืองไทยให้มากๆ" วาววา กล่าวปิดท้ายการสนทนา
... น่ารัก ชวนมองแบบไทยแท้เจ้าค่ะ