บันเทิง

คุยกับ‘เฉินหลง-จอห์น คูแซก’แลกประสบการณ์‘ดาบมังกรฟัด’

คุยกับ‘เฉินหลง-จอห์น คูแซก’แลกประสบการณ์‘ดาบมังกรฟัด’

17 ก.พ. 2558

คุยกับ"เฉินหลง-จอห์น คูแซก"แลกประสบการณ์"ดาบมังกรฟัด" : สกู๊ปบันเทิง

 
 
          เดินทางมาโปรโมทอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ "Dragon Blade ดาบมังกรฟัด" ที่ขนทัพนักแสดงของเรื่อง แจ๊คกี้ ชาน หรือ เฉินหลง จอห์น คูแซก เอเดรียน โบรดี้ ซีวอน ชอย หลิงผิง หวัง เหลี่ยวซิน เดินสายเปิดตัวภาพยนตร์อย่างยิ่งใหญ่ นสพ."คม ชัด ลึก" ได้โอกาสสุดพิเศษ ได้สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับ 2 นักแสดงชื่อดังระดับโลก แจ๊คกี้ ชาน และ จอห์น คูแซก ณ ห้องสโรชา 2 โรงแรมสยามเคมเปนสกี้
 
 
@@ บทบาทในภาพยนตร์ "Dragon Blade" เป็นอย่างไรบ้าง
          แจ๊คกี้ ชาน : เล่นเป็นนายพลที่คอยปกป้องทางสายไหม ที่มีทั้งหมด 38 อาณาจักร มีหน้าที่คอยรักษาความสงบ เพราะในสมัยก่อนมีหลายเผ่าที่ต้องต่อสู้กัน
          จอห์น คูแซก : เล่นเป็นแม่ทัพลูเชียส ที่ต้องคอยปกป้องเด็กคนหนึ่ง และนำทัพเดินทางไปยังจีน
 
 
@@ เรื่องนี้มีส่วนที่สร้างมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์มากน้อยแค่ไหน
          แจ๊คกี้ ชาน : แรงบันดาลใจของเรื่องนี้ สร้างมาจากเรื่องจริง เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ที่โรมันได้มาที่ประเทศจีนจริงๆ ที่พวกเขาพยายามจะกลับประเทศ แต่โรมันล่มสลาย เลยกลับไม่ได้ แต่ไม่มีใครรู้ได้ว่าเรื่องราวระหว่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราเลยเริ่มคิดจากตรงนั้นว่า ทำไมโรมันถึงมาที่จีน และมาอาศัยอยู่ที่จีนอย่างไร แต่แต่งขึ้นมาอีก 70 เปอร์เซ็นต์ มันเริ่มมาจากที่ได้ไปเห็นกลุ่มคนที่เป็นคนจีนเชื้อสายโรมัน มีตาสีฟ้า ยังมีกลุ่มคนเหล่านี้อยู่จริงๆ ประมาณ 300 คน อยู่แถวๆ ทะเลทรายโกบี เลยอยากรู้ว่าโรมันมาที่ประเทศจีนได้อย่างไร นี่คือจุดเริ่มต้นที่คิดจะทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมามีส่วนของเรื่องจริงอยู่
 
 
@@สำหรับเฉินหลงแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นแอ็กชั่น ที่แตกต่างจากเรื่องอื่น เป็นอย่างไรบ้าง 
          แจ๊คกี้ ชาน : เรื่องนี้แตกต่างอย่างมาก จากหนัง "ไอ้หนุ่มหมัดเมา" มันไม่ใช่หนังตลก เป็นหนังแอ็กชั่นที่เน้นดราม่า และบทบาทของเรื่อง เน้นไปสู่สิ่งที่ต้องการสื่อสาร และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่หนังต้องการจะสื่อสารก็คือ เราหวังว่าทุกๆ คน ไม่ว่าจะชนชาติไหนก็ตาม ทุกคนจะเข้าใจสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อสาร ที่ต้องการให้เห็นถึง "ความสงบสุข" เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในปัจจุบัน
 
 
@@ ทำไมถึงเลือก "จอห์น คูแซก" เพื่อมารับบทในภาพยนตร์เรื่องนี้ 
          แจ๊คกี้ ชาน : สาเหตุที่ต้องเลือกนักแสดงต่างชาติเข้ามาแสดงเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับโรมัน และจีน ไม่ใช่เรื่องราวของจีนอย่างเดียว ที่เลือกจอห์น เพราะว่าเขาต่อสู้เป็น เขาเคยเรียนบู๊มาก่อนจาก "เบนนี่" ที่เป็นแชมป์ต่อสู้ ที่เคยร่วมงานกับผมมาก่อนด้วย จอห์นยังเคยร่วมงานกับประเทศจีนมาก่อน เขาเลยรู้ว่าคนจีนทำงานกันอย่างไร แต่นักแสดงคนอื่น ไม่เคยร่วมงานกับประเทศจีน นักแสดงบางคนอาจจะอยากได้นั่นได้นี่ แต่จะไปหาจากไหนในเมื่อทำงานกันกลางทะเลทราย
          จอห์น คูแซก : ต้องบอกว่า แจ๊คกี้ ชาน เป็นนักแสดงบู๊ที่มีอิทธิพลในหนังแอ็กชั่น เขาเป็นนักแสดงบู๊ที่แตกต่าง เลยมีความคิดอยากจะบู๊แบบแจ๊คกี้ ชานให้ได้ เลยได้มีโอกาศไปศึกษาศิลปะการต่อสู้จากเบนนี่มา
 
 
@@การทำงานของฮอลลีวู้ด กับ เอเชีย ต่างกันอย่างไรบ้าง
          จอห์น คูแซก : คนเอเชียจริงจังในการทำงานมากกว่า ซีเรียสกว่า ทุกคนดูจริงจังและตั้งใจมากกว่า แต่ในอเมริกา เวลาที่จะถ่ายฉากใช้อารมณ์ หันไปมีคนในกองนั่งเล่นมือถือ อะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน นักแสดงที่ดีก็ตั้งใจทำงาน แต่ที่จีนทุกคนตั้งใจทำงาน มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับงานที่ทำตรงหน้า ไม่ได้เอาใจไปไว้ที่อื่น เชื่อว่านักแสดงทุกคนจะชอบการทำงานแบบนี้ แม้บรรยากาศจะอยู่กลางทะเลทราย
          แจ๊คกี้ ชาน : ที่อเมริกาผมคิดว่า สิ่งที่ต่างที่สุด คือสมมุติที่จีน จะเลื่อนโต๊ะ ก็เลื่อนได้เลย แต่ที่อเมริกาจะเลื่อนโต๊ะ ต้องเรียกฝ่ายพร็อพ อะไรแบบนี้
 
 
@@ร่วมงานกับ แจ๊คกี้ ชาน เป็นอย่างไรบ้าง
          จอห์น : ยอดเยี่ยมมาก (ชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ยอดเยี่ยม)
          แจ๊คกี้ ชาน : ผมคิดว่า ด้วยความที่เราเป็นนักแสดงมืออาชีพ เบื้องหลังเราอาจจะขี้เกียจบ้าง แต่ว่าพอจะเข้าฉากทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง จะคอยปรึกษากันตลอด
 
 
@@ทำไมถึงเลือกเดินทางมาโปรโมทที่ประเทศไทย คิดว่าจะถูกใจคอหนังไหม
          จอห์น คูแซก: ให้แจ๊กกี้ ชาน พูดดีกว่า เพราะว่าเขารู้จักประเทศไทยดีกว่าผม แต่เรื่องนี้แจ๊คกี้ ใช้เวลาเตรียมการนานถึง 7 ปี มันพิเศษสำหรับเขา มันถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และเป็นหนังที่เหมาะสมกับช่วงเวลานี้
          แจ๊คกี้ ชาน : เพราะผมรู้ว่าตลาดหนังของประเทศจีน ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนๆ ชาวไทย เราแค่มา และอยากให้คนได้ดูหนังเรื่องนี้ เพราะว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องราวของ "ความสงบสุข" ตอนที่เรายังมีความสงบสุข เราไม่ได้สนใจหรอก แต่เมื่อไหร่ที่มันหายไป เราถึงจะคิดถึงมัน ก่อนจะถึงวันนั้นอยากให้ทุกคนหันมารักกลมเกลียวกัน สามัคคีกัน แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้เตรียมการมา 7 ปี ถ่ายทำในสถานที่จริงกลางทะเลทราย นักแสดงเป็นพัน ม้าเป็นพันตัว ทีมงาน 350 คน ถือเป็นโปรดักชันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนตอนนี้
 
          โดยบรรยากาศภายในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ ในรอบสื่อมวลชนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และมีแฟนคลับมารอต้อนรับเหล่านักแสดงชื่อดังอย่างเนืองแน่น ตั้งแต่ 11.00 น. จนกระทั่งถึงเวลาเปิดงาน 17.00 น. และเมื่อเหล่านักแสดงปรากฏตัวเดินบนพรมแดง ก็ได้รับเสียงกรี๊ดดังสั่นหวั่นไหว จนกระทั่งได้ร่วมพูดคุยกันบนเวที ซึ่งระหว่างนั้นได้รับเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับตลอดงาน
 
.......................................
(หมายเหตุ คุยกับ"เฉินหลง-จอห์น คูแซก"แลกประสบการณ์"ดาบมังกรฟัด" : สกู๊ปบันเทิง)