บันเทิง

‘จัสติน ลอง’กับผลงานภาพยนตร์รักแห่งปี‘Comet’

‘จัสติน ลอง’กับผลงานภาพยนตร์รักแห่งปี‘Comet’

15 ก.พ. 2558

บันเทิงต่างประเทศ : พบกับ ‘จัสติน ลอง’ กับผลงานภาพยนตร์รักแห่งปี ‘Comet’

 
          ร่วมย้อนรำลึกความทรงจำที่ทั้งหวานชื่นและขมขื่น ของคู่รักหนุ่มสาว ผ่านช่วงเวลาแห่งความสุข ทุกข์ เศร้า เหงาจนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่แสนซับซ้อนไปพร้อมๆ กันใน Comet ภาพยนตร์รักโรแมนติกรูปแบบใหม่ ผลงานการแสดงที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นที่สุดในชีวิตการแสดงของนักแสดงหนุ่มจัสติน ลอง (Live Free or Die Hard, Drag Me to Hell)
 
 
@ เล่าให้ฟังเกี่ยวกับโปรเจกท์ใหม่ล่าสุดของคุณหน่อยได้ไหม
 
          มันคือเรื่องราวความรักในช่วงเวลา 6 ปี ของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ซึ่งจะถูกบอกเล่าออกมาในเหตุการณ์ 6 เหตุการณ์ ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษมากและบทของภาพยนตร์ก็ถูกเขียนออกมาได้อย่างน่าสนใจ
 
 
@ ชื่อของภาพยนตร์คือ Comet มันเกี่ยวกับอวกาศหรือเปล่า
 
          ตัวละครที่ผมรับบท มีความฝันเกี่ยวกับเรื่องของจักรวาลคู่ขนานครับ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เขาครุ่นคิดถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ในช่วง 6 ปีระหว่างเขากับแฟนสาว ทั้งช่วงเวลาที่มีความสุข ช่วงเวลาที่เลวร้าย
 
 
@ มันแตกต่างจากภาพยนตร์รักเรื่องอื่นๆ อย่างไร
 
          เราไม่ได้เล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์แบบภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่สนุกสนานทั่วไป แต่ผู้ชมจะได้เห็นความรักของทั่งคู่ ตั้งแต่ช่วงเวลาที่แสนหวานไปจนถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเรายังเล่ามันออกมาอย่างไร้การเรียงลำดับซึ่งให้ความรู้สึกราวกับเรื่องทุกอย่างเป็นความฝัน
 
 
@ ตัวละครของคุณเป็นคนแบบไหน คุณคิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของเขา
 
          เดลเป็นคนที่ตรงไปตรงมาครับ เขาพยายามที่จะพูดความจริงให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ จนบางครั้งมันทำให้เขาถูกมองว่า เป็นคนหยาบคาย ผมคิดว่านางเอกของเรื่องอย่างคิมเบอร์ลีย์คงไม่เคยพบผู้ชายแบบนี้มาก่อน เขาฉลาด มั่นใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ขี้กังวล ซึ่งทำให้เขาเป็นคนที่น่าสนใจต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ
 
 
@ การต้องแสดงเป็นคนคนหนึ่งในช่วงเวลาที่แตกต่างกันถึง 6 ช่วงเวลาคงจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก คุณมีการเตรียมตัวเพื่อแปลงโฉมตัวเองอย่างไร
 
          ในภาพยนตร์ตัวละครทั้งคู่ จะได้ปรากฏตัวในสถานที่ ที่มีความหลากหลายมากครับ ซึ่งตัวละครของผม ก็จะต้องมีการเปลี่ยนลุคของตัวเองในทุกๆ ฉาก ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว สไตล์ของทรงผม สำหรับผมมันให้อารมณ์ที่แตกต่างกันจนเหมือนกับว่าเราถ่ายภาพยนตร์คนละเรื่องเลยล่ะครับ
 
 
@ การทำงานร่วมกับเอมมี่ รอสซัมเป็นอย่างไรบ้าง
 
          เยี่ยมยอดครับ เราแสดงร่วมกันในทุกๆ ฉาก และในแต่ละฉาก ก็มีความแตกต่างกันตามช่วงเวลา ซึ่งทำให้การทำงานเป็นอะไรที่แปลกดีครับ นอกจากนี้ผู้กำกับของภาพยนตร์ ก็คือแฟนของเอมมี่ ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากแ ละมีฝีมือในการสร้างผลงานออกมาได้อย่างงดงาม แม้ว่ามันจะเป็นผลงานเรื่องแรกของเขา
 
 
@ ในชีวิตจริงคุณเชื่อในเรื่องของรักแท้ไหม
 
          พ่อของผมเคยบอกว่า การแต่งงานนั้นจริงๆ แล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องของรักแท้เพียงอย่างเดียวอย่างที่เราเคยเข้าใจ แต่มันคือเรื่องของการตัดสินใจเลือก ทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า ผมคิดว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันครับ สิ่งที่เราควรทำ ตัดสินใจทำในสิ่งที่ใช่ แทนที่จะมานั่งพะวงและยึดติดอยู่กับคำว่ารักแท้