
เกาเหลาชามโตช่อง3-8เปิดศึกแวดวงทีวีดิจิทัลกระหึ่ม
23 ม.ค. 2558
เกาเหลาชามโตช่อง3-8เปิดศึกแวดวงทีวีดิจิทัลกระหึ่ม : สกู๊ปบันเทิง
กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ให้แซดในโลกโซเชียล หลังจาก ที่สถานทีโทรทัศน์ "ช่อง 3" ในรายการ "สีสันบันเทิง" ได้ทำกราฟฟิกโลโก้ของช่องตัวเองไปทับที่หัวไมค์ของ "ช่อง 8" ขณะที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักกำลังสัมภาษณ์ "หน่อง" อรุโณชา ภาณุพันธ์ และ "น้ำตาล" พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ในงานบวช "พระเคน" ภูภูมิ พงษ์ภาณุ โดยประเด็นดังกล่าว กลายเป็นประเด็นร้อน และเกิดคำถามขึ้นต่างๆ นานา ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน "โด่ง" ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิทัลทีวี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยว่า "วันนี้นั่งดูทีวีความเคลื่อนไหวของช่องอื่นๆ เลยโทรไปว่าลูกน้องว่า ทำไมไม่มีหัวไมค์ช่อง 8 ที่งานพระเคนเห็นแต่ช่องสบายดี..แล้วทำไมลูกน้องเราไปถือไมค์ให้ช่องน้อยสี..แล้วไมค์ช่อง 8 หายไปไหน ใครช่วยหาหน่อยคราบบบบ" แต่ภายหลังโด่งก็ได้ลบข้อความนี้ออก
ขณะที่ 2 พิธีกรรายการ "บันเทิง 108" ของช่อง8 "เอิ๊ก" พรหมพร ยูวะเวส ลูกหม้อเก่าของช่อง 3 และพิธีกร พจน์ อานนท์ ได้นำภาพที่ช่อง 8 ได้ถ่ายไว้ โดยไม่มีการปิดทับโลโก้จากช่อง 3 มาเปรียบเทียบ พร้อมกับบอกด้วยว่าคนที่มีจรรยาบรรณไม่ทำกันแบบนี้
ต่อมาไม่นานหัวเรือใหญ่แห่งอาร์เอส "เฮียฮ้อ" สุรชัย เชษฐโชติศักด์ ได้ทวิตเตอร์ข้อความว่า "การแข่งขันที่ดุเดือดรุนแรงในธุรกิจ TV ปีนี้ คาดหวังจะได้เห็นกลยุทธ์ดีๆ ที่กลั่นจากสมองและ CONTENT โดนๆ เพื่อประโยชน์ผู้ชมและพัฒนาอุตสหกรรม การแข่งขันที่ใช้วิชามาร & วิธีที่ไร้สติของบางช่อง นอกจากน่าอายและไร้ศักดิ์ศรี แล้วยังสร้างบรรทัดฐานต่ำๆ ที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นในอุตสหกรรมนี้"...เรียกว่าแซบเว่อร์
และเมื่อเป็นประเด็นร้อนดราม่าเกิดขึ้น ระหว่างสองช่อง ล่าสุดทางรายการ "สีสันบันเทิง" ทางช่อง 3 ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยขอโทษทางช่อง 8 โดยชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาดในสายการผลิตของรายการ "สีสันบันเทิง" โดยมีข้อความว่า
"สถานีวิทยุโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 ขออภัยมายัง สถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 (ดิจิทัลทีวี) ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นด้วยความผิดพลาดในสายการผลิตของรายการ สีสันบันเทิง และจะใช้ความระมัดระวัง ไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก"
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เรื่องราวดราม่า ระหว่างสองช่องนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อ "เฮียฮ้อ" สุรชัย เคยวิพากษ์วิจราณ์กรณีช่อง 3 อนาล็อกไม่ยอมออกอากาศคู่ขนาน งานนี้เลยกลายเป็นเกาเหลาชามโต เมื่อช่อง 3 ได้มีมาตรการห้ามเด็กในสังกัดของช่องไปร่วมงานกับช่อง 8 โดยเด็ดขาด ทำให้มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ เริ่มตั้งแต่ข่าวคราวของ "เบนซ์" พรชิตา หิรัญยัษฐิติ ที่ขอถอนตัวจากการเป็นพิธีกรรายการ "ปากโป้ง" ที่ดำเนินรายการร่วมกับ "หนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย ทางช่อง 8 โดยครั้งนั้น เบนซ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ที่ถอนตัวไม่ใช่เพราะนโยบายของช่อง แต่เป็นเพราะ เฮียฮ้อ ได้โพสต์ทวิตเตอร์พาดพิงช่อง 3 เบนซ์ก็เลยออก เพราะไม่อยากทำงานด้วยความไม่สบายใจ อยู่กันเฉย ๆ ก็โอเค แต่อย่ามาแตะกัน เพราะช่อง 3 ก็เป็นเหมือนพ่อแม่เรา เราก็ต้องแสดงความรักนิดหนึ่ง"
รวมไปถึงกรณีของ "น้ำฝน" กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ ที่เคยเล่นละครกับช่อง 3 มานาน แม้ไม่ได้มีสัญญากับช่อง 3 ก็ตาม แต่จู่ๆ นักแสดงสาว ก็ถูกปลดออกจากละครที่ตกปากรับคำกับและคุยกับผู้จัด "ไก่" วรายุฑ มิลินทจินดา ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นเพราะสาวน้ำฝน มาเป็นผู้จัดให้กับละครช่อง 8 เลยทำให้เธอต้องโดนหางเลขไปด้วยก็เป็นได้
ล่าสุด "โด่ง" ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง ได้ออกมาชี้แจงขณะถ่ายทำรายการ "ร้องแลกไลค์ไทยแลนด์" ณ ชั้น 6 บิ๊กซี ลาดพร้าว เจ้าตัวชี้แจงว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และไม่ทราบเหตุผลด้วยว่าเป็นเพราะอะไร แต่ตอนนี้ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายเป็นประชาชนที่เป็นเสียงวิพากษ์ตัดสินในสิ่งที่ได้ทำลงไป ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่ สังคมมีคนเฝ้าระวังอยู่แล้ว
"ส่วนตัวมองได้ 2 แบบ คือ ถ้ามองสถานีนั้นในความเป็นเจ้าของสถานี เจ้าของมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ในคอนเทนท์ของตัวเอง แต่ถ้ามองในเรื่องของความเป็นสื่อมวลชน ผมจะรู้สึกแปลกๆ นิดหนึ่ง มันเป็นสิทธิที่สื่อสารมวลชนต้องมี ต้องให้เกียรติกัน เวลาที่ผมเชิญสื่อและคนทุกคนมาช่อง 8 ผมถือว่า ผมให้เกียรติทุกคน ยินดีให้ทุกคนสัมภาษณ์และยินดีให้ไมค์ทุกไมค์มารวมอยู่ตรงหน้า เป็นหน้าที่ที่เจ้าบ้านต้องต้อนรับทุกคนให้ดีที่สุด แต่ทำไมเวลาที่เราออกไปนอกบ้าน เราถึงไม่ได้รับการต้อนรับในแบบที่เราพยายามให้กับคนอื่น แต่เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องเล็กมาก แต่เป็นเรื่องที่เซ้นซิทีฟ ผมมองว่าถ้าโลโก้นั้นถูกปิดและมีรูปเด็กขึ้นมาบัง อาจจะดูน่ารัก แต่พอเป็นโลโก้อื่นบัง มันเลยทำให้รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่าง" ผู้บริหารช่อง 8 กล่าว
ดร.โด่งเผยต่อ ว่าไม่คิดว่าจะมีการขอโทษ แค่ดูทีวีปกติ ไม่ได้รับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พอได้เห็นตัววิ่งขอโทษขึ้นมา จึงได้เห็นว่ามีการขอโทษด้วย ยอมรับว่ารู้สึกน้อยใจ แต่ไม่ได้โกรธ เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไร แค่ออกไปทำข่าวสัมภาษณ์นิดเดียว แต่การที่มีการมาขอโทษ แสดงว่าเขารู้สึกว่าต้องมีใครผิดสักคน
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ว่าต่อไปไมค์ช่อง 3 จะออกอากาศช่อง 8 ได้ไหม บอสช่อง 8 กล่าวว่ามาได้ ให้สัมภาษณ์อยู่แล้ว พร้อมกับยอมรับว่าไม่ได้มีประเด็น ไม่ได้มีอะไรเลย
"ส่วนที่มีคนโยงว่าเรื่องจอดำ เรื่องนี้เรามองว่าเป็นเพียงความเห็นของประชาชนส่วนหนึ่ง ที่รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม เรามีสิทธิที่จะพูดได้ ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นประเด็นได้ แต่ใครจะมองว่ามันเชื่อมโยงกัน คนเรามีสิทธิที่จะคิดได้ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า ณ วันนี้สนามแข่งทีวีดิจิทัล ค่อนข้างรุนแรง ผมถือว่าเป็นการแข่งขันที่หนักเลยทีเดียว อาจจะเป็นเรื่องของการเปิดศักราชใหม่ และมีนโยบายใหม่ๆขึ้นมา แต่อย่าให้ลงมาในสนามเดียวกัน และเล่นตามกติกาที่กำหนด ไม่มีการเล่นนอกกติกา"
ผู้บริหารช่อง 8 ยังเผยอีกว่า จากเรื่องนี้มองเห็นภาพหนึ่ง คือเห็นอนาคตของทีวีดิจิทัล ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน ใครจะประสบความสำเร็จ หรือใครจะล้มเหลว
"มันบ่งบอกถึงวิสัยทัศน์การทำงานขององค์กรที่เราทำงาน ว่าใครเหมาะที่จะอยู่ในท็อปไฟว์ ออกจากบ้านมาไม่มีใครไม่อยากเป็นที่ 1 หรอก ทุกคนหวังอยากเป็นที่ 1 หมด (ยังสามารถทำข่าวช่อง 3 ได้อยู่ไหม)เรายังทำงานปกติ (อีกฝ่ายได้มีการต่อสายพูดคุยไหม) เท่าที่ทราบยังไม่มีนะ" ผู้บริหารกล่าว
ทางด้าน "เจิน" ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ ที่โดนหางเลขจากกรณีที่มีคนแคปรูปจากรายการสีสันบันเทิง ไปประกอบข่าวนี้ ซึ่งเป็นรูปในลักษณะที่ทำหน้าไม่ค่อยดีโดยบังเอิญ ทำให้เธอโดนกระแสโจมตีไปด้วย เจินเผยให้ฟังว่า เรื่องข่าวไม่รู้เรื่องเลย เพิ่งจะมาทราบเรื่อง ว่าเกิดการผิดพลาดทางเทคนิค
"ถ้าเกิดพูดในฐานะที่เจินเป็นพิธีกรสีสันบันเทิง เจินคงพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะเพิ่งทราบข่าว และเจินต้องขอโทษด้วย เจินเชื่อว่าทีมงานคงมีเจตนาที่ดี แต่ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะมีการขอโทษไปแล้ว เป็นสิ่งที่เราต้องขอโทษเหมือนกัน ส่วนเรื่องที่มีคนแคปรูปหน้าเจินออกมาประกอบข่าว คือไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน อยากจะบอกว่าเราไม่ทราบเรื่องอะไรจริงๆ อาจจะเป็นจังหวะพอดีที่แคปหน้าเจินตอนจังหวะนั้น เรียกว่าเป็นความบังเอิญที่บางคนอาจจะเห็นว่ามันไม่สมควร ต้องขออภัยด้วย ถามว่ามีการพูดคุยกันกับผู้ใหญ่มั้ย ไม่มีเลย แต่เจินคิดว่าทางผู้ใหญ่คงซีเรียส เพราะไม่อย่างนั้น คงไม่มีการออกมาขอโทษ ที่เราโดนหางเลข ก็ไม่ได้ลำบากใจนะ แต่รู้สึกว่าต้องขอโทษด้วย" เจินกล่าว