บันเทิง

ขบคิดขีดเขียน:'อย่าลืมรัก'

ขบคิดขีดเขียน:'อย่าลืมรัก'

20 ม.ค. 2558

'อย่าลืมรัก' : คอลัมน์ ขบคิดขีดเขียน โดย... หญิงยศ

 
 
          เคยคิดไหมคะว่าถ้าความจำของคุณในช่วงสิบปีที่ผ่านมาหายไป มันจะเกิดอะไรขึ้น?
 
          อาทิตย์ที่แล้วตอนนั่งเครื่องบินกลับมาจากอเมริกา มีหนังสือติดมือมาหนึ่งเล่มค่ะ พอเครื่องเทกออฟก็เปิดอ่าน สรุปว่าไม่ได้นอนเลยตลอดสิบกว่าชั่วโมง เพราะติดอ่านหนังสือเล่มนี้ หนังสือชื่อว่า What Alice Forgot คนเขียนชื่อ Liane Moriarty น่าจะถูกสร้างเป็นหนังเร็วๆนี้ค่ะ หนังสือว่าด้วยเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 29 ปี เพิ่งแต่งงานกับผู้ชายในฝันของตัวเอง และตั้งท้องลูกคนแรก พร้อมกับเพิ่งซื้อบ้านหลังแรกที่เขาและเธอกำลังช่วยกันสร้างให้กลายเป็นบ้านในฝันของทั้งสอง ในวันที่ไม่รวยมากแต่เธอมีความสุขในทุกนาทีของชีวิต วันหนึ่งอลิสไปยิมแล้วล้มหัวฟาดพื้น เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกทีนั้นอลิสคือผู้หญิงอายุ 38 เป็นแม่ลูกสามที่กำลังจะหย่ากับสามี! เธอสูญเสียความทรงจำในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เธอจำการคลอดลูกคนแรกไม่ได้ คนที่สองคนที่สามก็ไม่ได้ เด็กสามคนคือคนแปลกหน้า เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีทุกอย่าง มีเงิน มีบ้านในฝัน แต่เธอกำลังจะสูญเสียคนที่เธอรักมากที่สุดไป และแม้ว่าคนรอบข้างจะพยายามเล่าให้ฟังว่าเธอกับสามีนั้นหมดรักกันไปแล้ว และการหย่าคือทางออกที่ดีที่สุด แต่อลิสกลับจำไม่ได้ ความทรงจำเดียวที่เด่นชัดของเธอคือความรักและความสุขที่เธอและสามีเคยมีให้กัน เธอนึกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าอะไรทำให้เธอและเขาตัดสินใจแยกทางกัน อะไรทำให้ทั้งสองคนลืมความรักที่เคยมีให้กันนั้นได้
 
          "คุณลืมความรักของคุณไปบ้างหรือเปล่า?"
 
          หญิงยศจำได้ว่าตลอดเวลาที่อ่านหนังสือเล่มนี้บนเครื่องบิน หญิงยศต้องหยุดพักแล้วเอื้อมมือไปจับมือของสามีที่นั่งอยู่ข้างๆ หันไปบอกว่ารัก หันไปมองหน้า เพราะแค่คิดว่าวันหนึ่งถ้าเขาต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าที่เราไม่สามารถอดทนใช้ชีวิตร่วมกันได้อีกแล้วนั้น มันช่างเป็นความรู้สึกที่แย่มากเหลือเกินค่ะ แต่เมื่อย้อนกลับมามองโลกของความเป็นจริง คนจำนวนมากนะคะ ที่หลงลืมความรักของตัวเอง เราไว้ใจความรักมากเกินไป
 
          เชื่อว่าทุกๆ คนคงเติบโตกันขึ้นมากับเทพนิยายต่างๆ ที่พอเจ้าหญิงเจ้าชายพบรักกัน ฟันฝ่าอุปสรรคครั้งใหญ่ครั้งเดียว แล้วก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนชั่วนิรันดร์ พร้อมกับคำว่า The End แต่จริงๆแล้ว จุดจบของเทพนิยายคือจุดเริ่มต้นของโลกแห่งความเป็นจริงเท่านั้นค่ะ และคำว่า The End ก็ยังไม่มาถึงง่ายๆ เราไว้ใจความรักว่ามันจะคงอยู่นิรันดร์ด้วยตัวของมันเองไม่ได้... เราต้องฝึกฝน หมั่นเติม หมั่นหันกลับมาดูแลความรักและคนข้างๆ เรา คอยเช็คดูความเป็นไปในทุกๆ วัน ถ้าเปรียบเป็นตู้เย็น เราก็ต้องหมั่นซื้อของมาเติมไว้เรื่อยๆ
 
          คนเราเปลี่ยนแปลงเสมอนะคะ คนข้างๆ เราเขาก็เปลี่ยนเหมือนกัน แต่ถ้าเราไม่จับมือกันไว้ให้มั่นคง เอาแต่หันหน้าหันหลังมองหาแต่เป้าหมายในชีวิตของตัวเอง เมื่อหันกลับมาอีกที คนที่นอนข้างๆ เราทุกคืนอาจกลายเป็นคนแปลกหน้า ที่เราไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรด้วยได้อีก หญิงยศเคยเขียนไว้ในสมุดโน้ตเมื่อนานมาแล้วว่า ระยะทางที่ห่างไกลที่สุดคือสุดขอบเตียงนอนของเรานี่เอง ถ้าเราปล่อยให้ความไม่เข้าใจมันมาอยู่แทนที่หมอนข้างและผ้าห่ม เคยนอนร้องไห้โดยที่คนนอนร่วมเตียงเราเขาไม่ได้รับรู้เลยไหมคะ และเราก็จำไม่ได้แล้วว่า เพียงแค่การเอื้อมมือออกไปจับมือเขาเพื่อขอความเห็นใจนั้นมันเริ่มต้นอย่างไร... คู่ชีวิตที่กลายเป็นคนแปลกหน้า และจบลงด้วยการแยกทาง และโทษกันไปมาว่า "เขาเปลี่ยนไป" ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงนั้น คุณเพียงแค่ลืมความรักที่มันเคยมีมาต่างหาก
 
          "เราปล่อยให้ตัวเองลืมความรักของตัวเองไปได้อย่างไร?"
 
          ชีวิตคนเรานะคะ เราไม่มีวันรู้เลยว่า นาทีต่อไปในชีวิตของเราจะเกิดอะไรขึ้น หรือใครจะเปิดประตูเดินเข้ามาในชีวิตเราบ้าง เขาจะเข้ามาทำให้โลกเราเปลี่ยนไป เพื่อนใหม่ที่แชร์ความฝันของคุณ มีความสุขในสิ่งเดียวกัน เจ้านายคนใหม่ที่ทำให้ชีวิตคุณไม่เป็นสุข คุณหมอที่ประกาศว่าร่างกายคุณไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เราอาจสนุกสนานจนลืมกลับบ้าน เราอาจเครียดกับงานจนลืมดูแลสามี หรือเราอาจจมอยู่กับความทุกข์ของตัวเองและผลักคนที่รักเราออกห่างอย่างไม่รู้ตัว สิ่งต่างๆเหล่านี้ เมื่อมันเกิดขึ้น จงตั้งสติให้ดี เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ความห่างเหินมันเดินเข้ามาในชีวิตรักของเรา เราเริ่มเอาเพื่อนมาแทนที่ เอางานมาบังหน้า เอาความรู้สึกสงสารตัวเองมาปิดกั้น และสิ่งที่ยากที่สุดคือ การหยุดสิ่งเหล่านี้แล้วเดินกลับมาหาคนที่รักคุณ แต่เชื่อเถอะค่ะว่ายิ่งคุณทำได้เร็วเท่าไหร่ มันจะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น และมันจะทำให้ความรักของคุณไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมในชีวิต ลองหัดปฏิเสธเพื่อน ลองหยุดเอางานกลับมาทำที่บ้าน ลองเอื้อมมือออกไป ลองซบหน้าลงที่ไหล่แล้วปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอดูบ้าง แม้มันจะฝืนใจในช่วงแรก แต่นี่คือสิ่งที่เราต้องหัดทำถ้าเราไม่อยากลืมความรักของเราไปในที่สุด...
 
          จงจำไว้ว่าชีวิตคู่คือคนสองคน หน้าที่หลักของคนสองคนคือการดูแลกันและกันให้ดีที่สุด มันไม่ได้แปลว่าเราต้องละทิ้งความฝัน ไม่ได้แปลว่าเราต้องหยุดเติบโต เพียงแต่เราต้องคอยย้ำเตือนความจำของทั้งตัวเองและคนข้างๆ ถึงเหตุผลและความรักที่ทำให้เราตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก คนสมัยนี้ปล่อยมือกันง่ายเหลือเกิน แล้วก็บ่นว่าเหงา หลายครั้งที่เราเอาความพยายามและความอดทนไปลงผิดที่ผิดทาง แล้วก็บอกกับตัวเองว่าเราทำดีที่สุดแล้ว
 
          บางทีเราอาจต้องยอมสูญเสียความทรงจำไปสักสิบปี เพื่อจะได้เห็นอะไรๆ ให้กระจ่างขึ้นมาว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่สำคัญ คนที่สำคัญจริงๆ กับชีวิตเรามันคืออะไรกันแน่....
 
.......................................
(หมายเหตุ 'อย่าลืมรัก' : คอลัมน์ ขบคิดขีดเขียน โดย... หญิงยศ)