
ส่งท้ายปลายปีกับภาพรวมทีวีดิจิทัล
30 ธ.ค. 2557
ส่งท้ายปลายปีกับภาพรวม"ทีวีดิจิทัล" สั่นสะเทือนวงการ "โทรทัศน์ไทย"
คำว่า "ทีวีดิจิทัล" ในรอบปีที่ผ่านมา คนไทยคงคุ้นชิน และ ตื่นตัวกับคำคำนี้ พอสมควร เพราะหลังจากที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เริ่มต้นเปิดให้มีการประมูลช่องใหม่เอี่ยม กว่า 24 ช่อง ในระบบออกอากาศรูปแบบใหม่ สำหรับประเทศไทย จากระบบอนาล็อก มาสู่ ระบบทีวีดิจิทัล โดยเฉพาะรายการทีวี ที่ประชาชนคนไทยคุ้นเคยบนช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส หรือ “ฟรีทีวี” ในปัจจุบัน เมื่อต้อง “เปลี่ยนผ่าน” ไปสู่ทีวีดิจิทัล ที่กำลังจะเดินเครื่อง อย่างเต็มกำลัง ในอีกขวบปีข้างหน้า แต่กับในระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่าน นับจากจุดเริ่มต้น เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา มีการทดลองออกอากาศครั้งแรก มีอะไรเกิดขึ้นบ้าน วันนี้เราจะะมารวบรวมเรื่องราวทั้งหมดในแวดวง "ทีวีดิจิทัล" กัน
มาเริ่มต้น กับการทำความรู้จัก ทีวีดิจิทัล ทั้ง 24 ช่อง ไล่เรียงกันไปตามหมายเลข โดยหมายเลข 1 ช่องTV5 HD1 หมายเลข 2 ช่องNBT หมายเลข 3 ช่องTPBS หมายเลข4 - 12ช่องบริการสาธารณะ และเริ่มต้นที่ หมายเลข 13 ช่อง3 Family หมายเลข 14 ช่องMCOT Family หมายเลข 15 ช่องLCCA หมายเลข 16 ช่องTNN 24 หมายเลข 17 ช่องTHV หมายเลข 18 ช่องNEW TV หมายเลข 19 ช่องSpring News หมายเลข 20ช่องBright TV หมายเลข 21 ช่องVoice TV หมายเลข 22 ช่องNation TV หมายเลข 23 ช่องWorkpoint TVหมายเลข 24 ช่องTRUE 4U หมายเลข 25 ช่องG 25 หมายเลข 26 ช่องNOW หมายเลข 27 ช่องCH8 หมายเลข 28 ช่อง3 SD หมายเลข 29 ช่องMono TV หมายเลข 30 ช่องMCOT HD หมายเลข 31 ช่องONE หมายเลข 32 ช่องThairath TV หมายเลข 33 ช่อง 3HD หมายเลข 34 ช่องATV by AMARIN หมายเลข 35 ช่องBBTV CH 7
เมื่อช่องพร้อม การเข้าถึงภาคประชาชน และการรับชม ก็ต้องพร้อม การแจกจ่าย คูปอง 690 บาท เป็นอีกหนึ่งหนทาง ที่ กสทช. ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และถือเป็นหนทางส่งเสริมแรงกระตุ้น ให้กับ ทีวีดิจิทัล ได้ขับเเคลื่อนเข้าใกล้คนดูมากยิ่งขึ้น การเริ่มแจกคูปองทีวีดิจิทัล มูลค่า 690 บาท ให้กับประชาชนจำนวน 4.6 ล้านครัวเรือน ผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียน โดยแจกคูปองล็อตแรก ในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะจัดส่ง ให้พื้นที่ 21 จังหวัด ที่มีสัญญาณครอบคลุม ร้อยละ 80 คือกรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง ระยอง สุพรรณบุรี หนองคาย สุโขทัย อุดรธานี ฉะเชิงเทรา พัทลุง สงขลา นครนายก ราชบุรี และชัยนาท โดยจะต้องนำคูปอง มาแลกซื้อภายใน 6 เดือน และเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการทะยอยแจกคูปองทีวีดิจิทัล ล็อตที่ 2 อีก 21 จังหวัด ต่อมา ประกอบด้วย ชลบุรี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี เพชรบุรี จันทบุรี ลพบุรี พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ หนองบัวลำพู ปัตตานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สุราษฎร์ธานี ลำพูน นครราชสีมา เชียงใหม่ และ สระบุรี
วงการทีวีดิจิทัลสะเทือน ช่อง 3 VS กสทช. & ช่อง 7
ช่อง 3 กับความดื้อดึง ระบบอนาล็อก พร้อมกับ กรณีปัญหาจอดำ หลังจากที่ กสทช. มีมติให้โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล ระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 ในระบบอนาล็อก ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ออกไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค.และมาราธอนกว่าจะได้ข้อสรุป ในที่สุดช่อง 3 ยอมออกอากาศคู่ขนาน ระบบอนาล็อก กับช่อง 33 HD แล้ว หลังมีข้อตกลงร่วมกับ กสทช.พร้อมได้สิทธิ์อัตโนมัติ แต่งานนี้ดูเหมือนว่าทางด้าน ช่อง 7 จะไม่ยินดี ยินร้าย กับการตัดสินใจของ กสทช. ให้ช่อง 3 ออกอากาศในรูปแบบคู่ขนาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีการยื้อยุดฉุดเวลากันมา จนเกิดการดราม่าจอดำขนานใหญ่ งานนี้ช่อง 7 จึงทำการ ส่งหนังสือร้องเรื่อง กสทช. ให้มีการพิจรณาเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ คาราคาซังกันต่อไป
มารตรการเด็ดขาด วงการบันเทิง ยุคดิจิทัล??
ขึ้นชื่อว่า มาตรการเด็ดขาด ของแต่ละช่อง ย่อมที่จะมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ไว้อยู่แล้ว พอมาถึงยุค ที่การแข่งขันในตลาดของ ทีวีดิจิทัล แต่ละช่องก็ย่อมขับเคี่ยวกันแบบสุดฤทธิ์สุดเดช อย่างเรื่องราวที่กำลังจะพูดถึงคือ ปัญหาของเหล่า ดารานักแสดง ที่ต่างพาทยอยเข้ามาสร้างงานใน วงการ ทีวีดิจิทัล กันมากมาย แต่ดัน มีบางค่ายบางช่อง ออกกฎเหล็กห้ามดารานักแสดงกระโดดข้ามค่าย มาร่วมงานกับช่องทีวีดิจิทัลคู่แข่งเด็ดขาด ที่ผ่านมาในรอบปี มีกรณีเกิดขึ้นให้เห็นมากมาย เช่นทางด้าน ช่อง 3 กับข่าว "เบนซ์" พรชิตา หิรัญยัษฐิติ" ก่อนหน้านี้ทำหน้าที่พิธีกรร่วมในรายการ "ปากโป้ง" ให้ทางช่อง 8 แต่ดันมีการลาออกแบบสายฟ้าแลบ เนื่องจากมีข่าวลือ ว่าเป็นนโยบายของช่อง 3 ที่เรียกตัวนักแสดงในสังกัดกลับไม่ให้มาทำงานกับช่องคู่แข่ง โดยก่อนหน้านี้นางเอกสาวได้ชี้แจงไปแล้วว่า ไม่ใช่เป็นเพราะนโยบายของทางช่อง แต่เป็นเพราะ "เฮียฮ้อ" สุรชัย ได้ทวิตเตอร์พาดพิงทางช่อง 3 จึงตัดสินใจลาออก เพราะไม่อยากทำงาน ด้วยความไม่สบายใจ ทั้งนี้ยังมีบทสัมภาษณ์ของทางด้าน "ดร.โด่ง" องอาจ สิงห์ลำพอง" ผู้บริหารช่อง 8 ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นนี้ดังนี้
"เรื่องนี้ทุกช่องมีนโยบายของแต่ละช่อง ซึ่งทางช่อง 8 ก็มีนโยบายแบบนี้เช่นเดียวกัน สำหรับตัวรายการ ปากโป้ง ไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนอะไร ที่ทางคุณเบนซ์ลาออก เพราะทางช่อง 8 ไม่เคยจ้างคุณเบนซ์โดยตรง คุณเบนซ์รับจ้างงานจากคุณหนุ่มกรรชัย ในฐานะเป็นพิธีกรร่วม เพราะช่อง 8 จ้างคุณกรรชัยเป็นผู้ผลิตทั้งรายการปากโป้ง คุณเบนซ์ไม่ได้เซ็นสัญญากับช่อง 8 แต่จะเซ็นสัญญากับคุณหนุ่มกรรชัย หรือป่าว...ไม่ทราบ อาจจะเป็นเรื่องของการว่าจ้าง หรือการทำงานแบบสัญญาใจเบนซ์ " โด่งกล่าว
อย่างกรณีของทางช่อง 8 ก็เช่นเดียวกัน พระเอกหนุ่มลูกหม้อคนดัง "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ก่อนหน้านี้ มาร่วมงานกับทางช่อง 3ในละครเรื่อง "ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู" ซึ่งงานนี้ดูเหมือนว่า จะเป็นละครของหนุ่มฟิล์มที่ได้ร่วมงานกับทางช่อง 3 เป็นเรื่องสุดท้าย เพราะเนื่องจาก มาตรการเดียวกัน โดยพระเอกหนุ่มเผยว่า "ได้ยินคนมาพูดให้ฟังบ้างเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้มีข้อสรุปอะไรออกมาทั้งนั้น คงเป็นแค่คำพูดคนเฉยๆ รอให้มันแน่นอนก่อนดีกว่า แต่ถ้าถามว่า กลัวผลกระทบมั้ย ถ้าหากว่าไม่สามารถเล่นกับช่องอื่นได้ ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเกิดว่ามีกฎออกมาจริงๆ ผมก็คงต้องเลือกช่วยงานทางค่ายก่อน เพราะเราเกิดมาจากที่นี่" ฟิล์มตอบ
วงการละครโทรทัศน์มีการเปลี่ยนแปลง
ถึงเวลาของดาราโบยบิน รับงานอิสระเมื่อก่อนวงการทีวี มีช่องทางในการให้เลือกรับชมอยู่แค่ 4 ช่องใหญ่ แต่เมื่อยุคทีวีดิจิทัลเข้ามา ทำให้ช่องทางในการรับชมทีวีในประเทศไทย เพิ่มเป็น 24 ช่อง ทำให้เกิดทางเลือกมากขึ้น "ทีวีดิจิทัล" เป็นทางเลือกใหม่เลยก็ว่าได้ และการก้าวเข้ามาของทีวีดิทัลนี้เอง เหมือนเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ของผู้ชม ที่ชื่นชอบ "ละคร" เพราะช่องเหล่านี้ ต่างเร่งผลิตละครออกมา เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมกัน และต้องยอมรับว่า ดาราที่มีสัญญากับช่องใหญ่ๆ ไม่สามารถที่จะมาลงจอทีวีดิจิทัล ได้ตามอำเภอใจ ต่างจากดาราอิสระ ที่สามารถตกปากรับคำรับเล่นละครในช่องทีวีดิจิทัลได้ตามความพอใจของตัวเอง
เริ่มที่ช่อง "ไทยทีวี" ที่ผลิตละครออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีนักแสดงชื่อดังหลายคนที่มาเล่น ทั้ง "พิ้งค์กี้" สาวิกา ไชยเดช ที่มาเล่นเป็นนางเอกในเรื่อง "นางโชว์" "แคท" แคทลียา อิงลิช ที่มาเล่นเป็นนางเอกเรื่อง "สาวน้อยคาเฟ่" ต่อด้วย "บัลลังก์ริษยา" ที่จับนางเอกช่อง 3 อย่าง "ซูซี่" สุษิรา แน่นหนา มาประกบกับ "อ้วน" รังสิต ศิรนานนท์
ข้ามมาที่ช่อง "พีพีทีวี" ที่กำลังจะมีละครเรื่อง "เพลิงดาว" ของผู้จัด "เอ" ศุภชัย ศรีวิจิตร โดยได้นักแสดงสาว "แตงโม" ภัทรธิดา พัชระวีรพงศ์ มานำแสดงประกบคู่กับ ซอนยา คูลิ่ง เช่นเดียวกับ "เมย์" พิชญ์นาฏ สาขากร ที่ตกลงปลงใจลงละครเรื่อง "เลือดสองสี" ให้กับช่องพีพีทีวี
ด้านช่อง "ทรูฟอร์ยู" ช่องทีวีดิจิทัลในเครือของ "ทรูฯ" ที่ก็ไม่น้อยหน้า เพราะดึงดาราตัวแม่ของวงการอย่าง "นิโคล เทริโอ" และ "ปิ่น" เก็จมณี วรรธนะสิน กลับมาประชันบทบาทกันให้แฟนๆ ได้ชมกันในละครเรื่อง "นางมาร" ซึ่งเรื่องนี้ ทางทรูแอบสอดแทรกดาราในสังกัด มาหาประสบการณ์กับนักแสดงรุ่นพี่อีกด้วย ไม่เท่านั้น นอกจากนี้ "ทรูฟอร์ยู" ยังมีโปรเจกท์ซีรีส์ของหนุ่ม "ไมค์" พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล กับคู่จิ้นสาว "ออมฆ สุชาร์ มานะยิ่ง เพื่อขอท้าชิงเรตติ้งละครแข่งกับช่องอื่นด้วยอีกราย
ช่อง "เวิร์คพ้อยท์" ที่กำลังจะปลุกปั้นละครเรื่อง "เกมริษยา" ที่ได้ "แท่ง" ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ดีกรีนักแสดงลูกหม้อ "เอ็กแซ็กท์" มาลงจอ ประกบกับนักแสดงมากความสามารถ "ป๊อก" ปิยธิดา วรมุสิก เรียกว่าเรื่องคุณภาพคับแก้ว อีกเรื่องของเวิร์คพ้อยท์ เป็นละครแนวสยองขวัญ ที่ได้พระนางจากภาพยนตร์เรื่อง "คริตกะจ๋า บ้าสุดๆ" กลับมาเจอกันอีกครั้งในเรื่อง "7 วันจองเวร"
ส่วนช่อง 8 ของ "อาร์เอส" ที่ผลิตละครมาอย่างต่อเนื่อง และเรียกกระแสได้ไม่น้อย ซึ่งช่อง 8 มีเรื่อง "เมียเถื่อน" ที่ได้ "ก้อย" รัชวิน วงศ์วิริยะ มาเล่นเป็นนางเอกคู่กับลูกหม้อค่ายอาร์เอสอย่าง "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือจะเรื่อง "ชิงรักหักสวาท" ที่ได้อดีตไอดอลเก่าของอาร์เอสอย่าง "เต๋า" สมชาย เข็มกลัด มาแสดงร่วมกับ "นุ้ย" สุจิรา หลีระพันธ์ และ "ตอง" ภัครมัย โปตระนันทน์ มาร่วมงาน
ปิดท้ายกันที่ช่อง one ละครหลังสี่ทุ่ม ที่นำซีรีส์ ซิทคอมเด็ดใน "one บรรลุนิติภาวะ" ประเดิมกับซีรีส์ "สงครามนางงาม" เรื่องราวของการประกวดนางงามแบบแซบๆ นำแสดงโดย "สน" ยุกต์ ส่งไพศาล "ลูกเกด" เมทินี กิ่งโพยม ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา "ออร์แกน" ราศี วัชราพลเมฆ ฯลฯ อีกทั้งยังมี ทัพละครผู้จัดและนักแสดงในค่าย "เอ็กแซ็กท์" มาอยู่บ้านหลังใหม่อย่างช่อง one ที่งานนี้ "บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ ยกพลขอชนช้าง ช่วงเวลาละครหลังข่าวกับฐานกำลังเจ้าเดิมอย่าง ช่อง 3 และ ช่อง 7 โดยออกอากาศไปแล้ว 2 เรื่องอย่าง ฝันเฝื่อง ที่นำแสดงโดย "พุฒ" พุฒิชัย เกษตรสิน และ "จุ๋ย" วรัทยา นิลคูหา อีกเรื่องคือ "เสือ" ได้หนุ่ม "ไนกี้" นิธิดล ป้อมสุวรรณ มาประกบคู่กับนางเอกสาว "เทย่า โรเจอร์" นอกจากนี้ยังมีละครต่อคิวออกอากาศในช่อง one อีกเพียบ อาทิ เคหาสน์ดาว เงาใจ จัดรัก ตี๋ใหญ่ เลห่ห์รตี ตะวันตัดบูรพา และอีกมากมาย
มาจับตาดู วงการทีวีดิจิทัล ในปีหน้ากันดีกว่าว่า จะคึกคัก สนั่นจอ มากแค่ไหน...ต้องติดตาม"