บันเทิง

ฉายาดาราปี57‘หมาก’ป๋าหมากกระชากหงอก

ฉายาดาราปี57‘หมาก’ป๋าหมากกระชากหงอก

22 ธ.ค. 2557

สมาคมนักข่าวบันเทิงจัดหนัก ตั้ง 10 ฉายาดารา ส่งท้ายปี 57 'หมาก' ปริญ 'ป๋าหมากกระชากหงอก' ส่วน เจนี่ 'มือฉกตกสวรรค์' ด้าน 'ไมค์' พิรัชต์ 'คุณพ่อจนมุมซุ่มกิน'

 
 
         เป็นธรรมเนียมของทุกปี ที่จะมีการตั้งฉายาให้แก่คนในแวดวงบันเทิง ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ณ อาคารอำนวยการ 1 ชั้น 2 ห้องประชุม 203 บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) สมาคมนักข่าวบันเทิงร่วมประชุมตั้งฉายาประจำปี 2557 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 มีตัวแทนสื่อมวลชนจาก 30 สำนัก เสนอฉายากว่า 327 ฉายา ครอบคลุมดารา 71 คน มากที่สุดกว่าทุกปีที่ผ่านมา ผลสรุปดาราที่ได้รับการโหวต 10 ฉายา จากสมาคมนักข่าวบันเทิง ประจำปี 2557 มีดังนี้
 
         เริ่มต้นที่ นายปริญ สุภารัตน์ หรือ "หมาก" ได้รับฉายา "ป๋าหมากกระชากหงอก" สาเหตุเพราะ จากการแถลงข่าวยอมรับว่าต่อว่าคุณแม่ของ น.ส.ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง หรือ "มิ้นต์" ผ่านการสนทนาแอพพลิเคชั่นไลน์จนกลายเป็นมหากาพย์วิวาทะสร้างรอยร้าวให้แก๊งสี่หัวใจแห่งขุนเขาเป็นอันต้องแยกย้าย และจากเหตุการณ์ดังกล่าวพระเอกหนุ่มยังถูกวิจารณ์ว่าเป็นคนก้าวร้าวขัดกับหน้าใสๆ
 
         เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ได้รับฉายา "มือฉกตกสวรรค์" สาเหตุเพราะ หลังเป็นข่าวใหญ่ เมื่อปีที่แล้ว ด้วยการจดทะเบียนสายฟ้าแลบกับนักการเมืองชื่อดัง นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หรือ "เอ๋" ขึ้นแท่นเป็นมาดามปากน้ำ พร้อมมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง จนทุกคนมองว่าเป็นคุณนายนักการเมือง สามารถใช้ชีวิตเหมือนขึ้นสวรรค์ แต่ผ่านไปไม่ถึงปี เจนี่ต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ ถึงขั้นหนีความจริงไปพักไกลถึงเมืองนอก หลังจดทะเบียนหย่าเป็นแม่ม่ายพ่ายรัก กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ
 
         มาถึง นายพิรัชต์ นิธิไพศาลกุล หรือ "ไมค์" ได้รับฉายา "คุณพ่อจนมุมซุ่มกิน" สาเหตุเพราะ ปล่อยให้ภาพปริศนาฝ่ายหญิงอยู่บนเตียงคลอดและอุ้มทารกน้อยเป็นกระแสข่าวลือทำงานอยู่หลายวัน จน “ไมค์” ทนกระแสรุมเร้าไม่ไหวประกอบกับหลักฐานมัดตัวแน่นถึงยอมตั้งโต๊ะแถลงข่าวยอมรับว่าทำนางแบบสาว ซาร่า คาซิงกินี ท้อง ขณะที่ครอบครัวของ “ไมค์” ยังแคลงใจจนมีการตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ชัดว่าทารกน้อยเป็นลูก “ไมค์” จริง
 
         น.ส.ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด หรือ "วาววา" ได้รับฉายา "ดาวเทียม ไม่เจียมตัว"เพราะ หลายพฤติกรรมสุดเอือมระอา จนผู้จัดละครและผู้ใหญ่ในวงการถึงกับเอ่ยปากผ่านสื่อเรื่องวินัยและมารยาทในการทำงาน จนถูกเปรียบเทียบว่าขนาดเพิ่งเข้าวงการยังสร้างวีรกรรมไว้ขนาดนี้ ทั้งที่ยังไม่ทันเป็นดาวจรัสแสงก็แสดงความเป็นตัวตนออกมาจนทำให้เพื่อนร่วมงาน และทีมงานเมินหน้าหนี
 
         ขณะที่ นายพัชฏะ นามปาน หรือ "โฬม" ได้รับฉายา "หล่อลิ้นรัว" เพราะปล่อยเนื้อปล่อยตัวออกงาน ขณะที่ร่างกายไม่พร้อม จนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อพระเอกมาดเนี้ยบกลับปล่อยอาการรั่วหลุดจนคุมกิริยาไม่อยู่ จนพูดไม่เป็นคำ สร้างความขำและเหวอให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ สุดท้ายเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาแก้อักเสบและพักผ่อนไม่เพียงพอ
 
         ส่วน น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ "บุ๋ม" ได้รับฉายา "ซือเจ๊สั่งลุย" เพราะไม่ว่าจะเกิดปัญหาสังคมเรื่องไหน บุ๋มก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างเสมอต้น เสมอปลาย ล่าสุดได้ใจสังคมกับกรณีรณรงค์ล่ารายชื่อแก้กฎหมาย "ข่มขืนต้องประหาร" ทำใหสังคมตื่นตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเอ่ยปากชมว่าปนัดดาเป็นนางงามแถวหน้าที่กล้าชนทุกสถานการณ์ 
 
         ต่อกันที่ น.ส.ยศวดี หัสดีวิจิตร หรือ "โย" และ น.ส.น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ หรือ "บี" ได้รับฉายา "เพื่อนซี้บัญชีเดือด" เพราะความสัมพันธ์สุดซี้ของทั้งคู่ต้องทลายลงจากปัญหาธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่ทำร่วมกัน โดยมุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ลงตัว จนในที่สุดทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กันไปมาผ่านสื่อ ถึงขั้น “บี” ประกาศกร้าวว่าไม่ขอสุงสิงเป็นแค่เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น
 
         นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ "เสก โลโซ" ได้รับฉายา "ร็อกไวเลอร์" เพราะ จากกรณีวิวาทะกับภรรยา "กานต์" วิภากร ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค จนกลายเป็นขี้ปากสังคม พร้อมยืดอกรับว่า เป็นคนอารมณ์ร้อนและเคยลงไม้ลงมือกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงที่ฟ้องหมอที่เคยรักษากับภรรยา พร้อมตอบโตัคู่กรณีทุกเม็ดชนิดกัดไม่ปล่อย เปรียบเสมือนสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสายพันธุ์โหดที่กัดไม่ปล่อยเช่นกัน
 
         น.ส.คิมเบอร์ลี แอนเทียมศิริ หรือ "คิม" ได้รับฉายา "แบ๊วเอชดีเบอร์รี่สี่มิติ" เพราะใช้ความแอ๊บแบ๊วใสๆ ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธในช่วงแรกเรื่องรักซ้อน ขัดแย้งกับพฤติกรรมที่หลายคนเห็นแววตาแห่งความสุขระหว่างร่วมงานกับพระเอกคู่ขวัญ “หมาก"ปริญ พร้อมกับสะบั้นรักกับแฟนหนุ่มผู้จัดละคร “เจ็ท ณัฐพงศ์” ขณะที่ทั้งสองหนุ่มทำงานร่วมกันในกองถ่ายละคร “ต้นรักริมรั้ว” และในที่สุด “หมาก - คิม” ก็โชว์ความหวานออกสื่อแบบไม่ยืนยันด้วยคำพูดแต่แสดงออกผ่านพฤติกรรมสุดหวานที่คมชัดสัมผัสได้เหมือนดูหนังสี่มิติ 
 
         ปิดท้ายกันที่ นายธนิน มนูญศิลป์ หรือ "บอม" และ น.ส.อรเณศ ดีคาบาเลส หรือ "ริชชี่" ได้รับฉายา "คู่จิ้นหินแกรนิต" เพราะผลงานการแสดงของทั้งคู่ที่เล่นได้เป็นธรรมชาติสุด ๆ ชนิดที่หินและต้นไม้ต้องหลีกทางให้เลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ “บอม” โดนวิจารณ์เละเรื่องการแสดงในละคร “คิวบิก” ส่วน “ริชชี่” ก็โดนตำหนิกับผลงานหนังเรื่องแรก “คู่กรรม” ครั้นพอสองคนนี้โคจรมาเจอกันในละคร “สวยร้ายสายลับ” ทำเอาคนดูกุมขมับว่าจะเป็นอย่างไร แล้วก็ไม่ต่างจากที่คิดไว้เพราะทั้งคู่ผนึกกำลังความแข็งยกกำลังสอง เหมือนเป็นหินแกรนิตที่มีเนื้อแน่นเสมอแข็งแรงทนทาน เช่นเดียวกับการแสดงของทั้งคู่ที่แข็งทนทานจริงๆ
 
          ทางด้าน น.ส.ปนัดดา เผยความรู้สึกว่า ตอนแรกตื่นเต้นมาก เพราะที่ผ่านมา ไม่ว่าจะแถลงข่าวอะไรกับใครขนาดไหน ยังไม่กลัวขนาดฉายานักข่าวเลย 
          "ให้ตายเถอะ เพราะว่าอยู่ในวงการมา 10 กว่าปี แต่ละฉายามันจี๊ดไปถึงหัวใจ อยากบอกความรู้สึกของดาราบ้าง ทุกปีดาราจะสุมหัวกัน และก็ค่อยๆเปิดหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อดูว่า ใครบ้างที่โดนฉายาอะไรใน 10 อันดับ ปีนี้รู้มาว่า ติด 1 ใน 71 อันดับก่อน แต่ไม่นึกว่าจะโชคดี เพิ่งมาทราบฉายา คือ ซือเจ๊สั่งลุย กับฉายานี้ถือว่าเบา แต่ยังไม่ทราบของคนอื่น แต่เห็นว่าคนอื่นจะหฤโหดกว่านี้เยอะ ขอบคุณมากๆสำหรับสื่อมวลชนที่ให้ฉายานี้กับบุ๋มมา อาจจะเป็นเพราะการทำงานที่ผ่านมาตลอดทั้งปี คำว่าซือเจ๊ ฟังดูแก่ดี ดูโจ๋มาก แต่ถือว่าเป็นฉายาที่เบามาก แต่ตรงใจดี เป็นภาพที่ชัดมาก ถือว่าตรงกับบุ๋มมากที่สุด ขอบคุณมาก และบุ๋มว่าการทำงานของสื่อมวลชน เวลาทำแบบนี้ เพื่อเป็นการเตือนสติตัวศิลปินดาราว่า ที่ผ่านมาคุณอย่าคิดว่า คุณคือคนดัง อย่าคิดว่าคุณคือคนที่ประชาชนรัก และคุณจะสามารถทำอะไรก็ได้ สื่อมวลชนเองจับตาดูอยู่เสมอ ให้ความจริงอยู่เสมอ เหมือนฉายาติด 1 ใน 10 ถือเป็นพระคุณมาก ขอบคุณมาก" น.ส.ปนัดดากล่าว